พรรคภูมิใจไทย 6 เม.ย.-“นภินทร” เผยพร้อมส่งเอกสารข้อมูลผู้ถือหุ้น บริษัท ไชน่า เรลเวย์ฯ ให้ดีเอสไอ ใช้เป็นหลักฐานพิสูจน์นอมินีได้ โดยไม่ต้องเจอตัว พร้อมสอบ 37 บริษัทผู้ถือหุ้นเดียวกันเพิ่ม เล็งสอบบริษัทคู่ขา ทำหน้าที่ประมูลงานให้ตลอด
นายนภินทร ศรีสรรพางค์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าวถึงความคืบหน้าการตรวจสอบ บริษัทไชน่า เรลเวย์ นัมเบอร์ 10 หลังพบมีผู้ถือหุ้นคนไทย 3 คน อาจมีคุณสมบัติไม่เหมาะสมว่า ได้ตรวจสอบผู้ถือหุ้นแล้ว มีเหตุผลอันควรช่วยได้ว่าจะเป็นนอมินี แต่ในทางกฎหมายไทยจะต้องมีหลักฐานเพื่อมาพิสูจน์ ว่าเขาเป็นนอมินีจริงจึงต้องมีการสอบสวนที่ด้านเอกสาร เช่น หลักฐานการเสียภาษี และบัญชีเงินฝาก ว่ามีเงินลงทุนจริงหรือไม่ซึ่งจะเป็นองค์ประกอบในการพิจารณาโดยไม่จำเป็นต้องเจอตัว ไม่ว่าจะหลบยังไงก็ตามหากหลักฐานเชื่อมโยงไปถึงก็สามารถดำเนินการได้ โดยเรื่องนี้กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ได้รับเป็นคดีพิเศษแล้ว เชื่อว่าจะมีการตั้งข้อหาในเร็วๆนี้
นายนภินทร ยังกล่าวถึงการตรวจสอบผู้ถือหุ้นของบริษัทไชน่า เรลเวย์ฯ ว่า จากข้อมูลการจดทะเบียนพบว่าบริษัทแห่งนี้ ผู้ถือหุ้นรายใหญ่เป็นชาวจีนถือหุ้น 49% แต่ประเด็นสำคัญคือ การพิสูจน์ผู้ถือหุ้นชาวไทยอีก 51% มีการลงหุ้นจริงหรือไม่ แต่จากข้อมูลมีเหตุผลอันควรเชื่อได้ว่าเป็นนอมินีจริง แต่หน้าที่ในการพิสูจน์เป็นของ ดีเอสไอและปปง. น่าจะเรียกเอกสารและพยานหลักฐานทั้งหมดมาตรวจสอบได้ โดยกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ และอีก 7 หน่วยงาน จะส่งเอกสารการถือหุ้น รวมถึงเอกสารที่เกี่ยวข้อง ไปให้ ดีเอสไอ เพื่อสรุป เราจะไม่ทำงานก้าวร่วงกัน ซึ่งจะสามารถเป็นหลักฐานโดยปราศจากข้อสงสัยในการดำเนินคดีได้
ส่วนอีก 37 บริษัทที่มีความเชื่อมโยงกับบริษัทไชน่า เรลเวย์ฯ เพราะมีผู้ถือหุ้นรายเดียวกัน นั้น นายนภินทร ยืนยันว่า กรมพัฒนาธุรกิจการค้า จะต้องตรวจสอบรวมถึง 13 บริษัทที่เชื่อมโยง เพื่อส่งข้อมูลให้กับบริษัทไชน่า เรลเวย์ เพื่อส่งไปยังดีเอสไอ ส่วนจะมีเจ้าหน้าที่ของรัฐเข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้องเพื่อประโยชน์ให้กับบริษัทเหล่านี้หรือไม่นั้นข้อมูลทั้งหมดอยู่ที่ดีเอสไอ ซึ่งได้ตั้งข้อสังเกตเกี่ยวกับบริษัทร่วมค้า เพราะบริษัทไชน่า เรลเวย์ ประมูลโครงการผ่านบริษัทร่วมค้าทั้งหมด จึงต้องไปสืบสวนสอบสวน บริษัทร่วมค้าว่ามีส่วนเกี่ยวข้องอย่างไรใครถือหุ้นบ้าง.-316.-สำนักข่าวไทย