แก๊งญี่ปุ่นจับนักธุรกิจเรียกค่าไถ่อ้างแค้นถูกแจ้งดำเนินคดีบินสั่งสอนถึงไทย

กรุงเทพฯ 10 มิ.ย.- ตำรวจเชื่อคดีจับนักธุรกิจเรียกค่าไถ่ ทำเป็นขบวนการเร่งสืบสวนหาผู้ร่วมขบวนการเพิ่ม ขณะที่ 3 ผู้ต้องหาอ้างเพราะโกรธแค้นถูกผู้เสียหายแจ้งดำเนินคดีหลังขโมยทรัพย์สิน จึงตามมาสั่งสอนที่เมืองไทย


พลตำรวจโทศานิตย์ มหถาวร  ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล เข้าสอบปากคำ นายมาซาโตะ โคบาริ, นายเลโอ ชูรุโซเอะ และ นายคิโยโต มิยาตะ 3 ผู้ต้องหาชาวญี่ปุ่น แก็งเรียกค่าไถ่นักธุรกิจชาวญี่ปุ่น หลังถูกจับกุม ได้ที่คอนโดแกรน ไฮเทค ทาวเวอร์ ถนนเอกมัย ซอย 23 เมื่อกลางดึกที่ผ่านมา พร้อมยึดอุปกรณ์ที่คาดว่าใช้ทำร้ายร่างกาย ทั้งเลื่อย ไม้เบสบอล เชือก กุญแจมือ และปืนจากห้องพักย่านสุขุมวิท 49

พลตำรวจโทศานิตย์  เปิดเผยว่า หลังจากสอบสวนผู้ต้องหา ให้การว่าได้จับตัวผู้เสียหายมาจริง โดยใช้ไม้เบสบอลตีที่ศรีษะ และยังอ้างว่า สาเหตุที่ขัดแย้งกันเนื่องจากผู้เสียหายได้ว่าจ้างไปต่อเติมบ้านในประเทศญี่ปุ่นเมื่อ 2 ปีที่แล้ว และได้ขโมยวัตถุโบราณราคาประมาณ 15 ล้านบาท ก่อนผู้เสียหายจึงแจ้งดำเนินคดีทำให้พวกตนโกรธแค้น  จึงตามมาก่อเหตุในไทย โดยมีเอกสารเป็นลายมือภาษาญี่ปุ่น เกี่ยวกับการเตรียมขั้นตอนการลักพาตัวที่พบในห้องพัก  และยังอ้างว่าต้องการเพียงแค่สั่งสอนไม่ได้ประสงค์ถึงชีวิต ส่วนเลื่อยที่พบในบ้านพักนำมาใช้เลื่อยไม้เพื่อดามขาของผู้บาดเจ็บเท่านั้น 


นอกจากนี้ กลุ่มผู้ต้องหา ยังได้นำบัตรเครดิตของผู้เสียหายที่มีเงินอยู่ถึง6 ล้านบาทพร้อมบังคับให้บอกรหัสบัตร แต่จากการตรวจสอบยังไม่มีการกดเงินออกแต่อย่างใด ซึ่งตำรวจยังไม่เชื่อในคำให้การของผู้ต้องหา  และให้น้ำหนักไปที่ประเด็นการปล้นทรัพย์ ส่วนจะเป็นการเรียกค่าไถ่ หรือประสงค์ต่อชีวิต  หรือไม่อยู่ระหว่างการสืบสวนสอบสวน 

และจากการประสานงานกับตำรวจญี่ปุ่นเพื่อตรวจสอบประวัติผู้ต้องหา พบว่าหนึ่งในผู้ต้องหาเคยมีคดีทำร้ายร่างกายผู้อื่นเมื่อ 10 ปีที่แล้ว แต่การก่อเหตุครั้งนี้ยังคาดว่ามีผู้ร่วมก่อเหตุอีกหลายคน ซึ่งอยู่ระหว่างการสืบสวนขยายผล โดยหลังจากสอบสวนเสร็จแล้ว พนักงานสอบสวนจะควบคุมตัวผู้ต้องหาทั้งสามคนไปขออำนาจศาลอาญากรุงเทพใต้ฝากขัง ในวันที่ 12 มิถุนายนนี้

ส่วนผู้เสียหายและบาดเจ็บ ขณะนี้ยังคงรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาล และยังรู้สึกตัวดี โดยได้รับบาดเจ็บที่ศีรษะและขาจากถูกไม้เบสบอลตี.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สำนักสงฆ์หูตาทิพย์

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์”

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์” พระอ้างใช้สอนวิปัสสนากรรมฐาน เบื้องต้นอายัดไว้พิสูจน์ดีเอ็นเอ พร้อมเอาผิดหัวหน้าสำนักสงฆ์ ฐานนำศพเก็บไว้ในสถานที่ที่ไม่ใช่สุสานและฌาปนสถาน

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

รัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มยูเครน

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย แถลงยืนยันว่ารัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มภาคตะวันออกยูเครนเมื่อวานนี้ ตอบโต้ที่ยูเครนใช้ขีปนาวุธที่ได้รับมอบจากสหรัฐและอังกฤษ

ข่าวแนะนำ

โค้งสุดท้าย ศึกสองนารีชิงเก้าอี้ นายก อบจ.นครฯ

เหลือไม่ถึง 2 วันแล้ว ที่ชาวนครศรีธรรมราชจะได้ออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งนายก อบจ.นครฯ ศึกนี้เป็นการสู้กันเองของพรรคร่วมรัฐบาล ฝ่ายหนึ่งต้องการรักษาฐานที่มั่นไว้ให้ได้ อีกฝ่ายต้องการเจาะฐานให้แตก เพื่อหวังครองที่นั่งการเมืองระดับชาติในสมัยหน้า

ร้อนระอุโค้งสุดท้าย ศึกชิงเก้าอี้ นายก อบจ.อุดรธานี

การเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี ครั้งนี้ดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครจาก 2 พรรคใหญ่ลงชิงชัย ต่างเร่งเครื่องเต็มที่ในโค้งสุดท้าย การเลือกตั้งจะเกิดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 24 พ.ย.นี้ ใครจะเป็นผู้คว้าชัยชนะและสร้างการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญให้จังหวัดอุดรธานี ไปติดตามจากรายงาน

ความเห็นนักวิชาการ คดีทักษิณ

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติไม่รับคำร้อง นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีและพรรคเพื่อไทย ร่วมกันกระทำการอันเป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครอง ขณะที่นักวิชาการชี้ว่าไม่ได้พลิกไปจากความคาดหมาย และผลจากคดีนี้ ไม่ทำให้เกิดจุดเปลี่ยนทางการเมือง แต่ก็ยังมีจุดเสี่ยงที่ต้องระวัง