หอการค้าไทยประเมินใช้จ่าย “เปิดเทอม”ใหม่กว่า 5.7 หมื่นล้านบาท

กรุงเทพฯ 8 พ.ค.-ประธานที่ปรึกษาศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทยได้ประเมินการใช้จ่ายของประชาชน ก่อนจะเปิดเทอมในสัปดาห์หน้า ของมหาวิทยาลัยหอการค้าไทย ซึ่งพบว่าแม้ค่าเทอมจะยังคงเดิม แต่เครื่องแบบนักเรียนบางอย่างปรับราคาเพิ่มขึ้น โดยคาดว่าเปิดเทอมปีนี้ ผู้ปกครอง จะใช้จ่ายในภาพรวมทั้งประเทศกว่า 57,800 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 5.3% เมื่อเทียบกับปี 2562


นายธนวรรธน์ พลวิชัย อธิการบดี และประธานที่ปรึกษาศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย กล่าวถึงผลสำรวจโพล “ประเมินผลกระทบของผู้ปกครองในช่วงเปิดเทอม” จากกลุ่มตัวอย่าง 1,230 ตัวอย่างทั่วประเทศ ซึ่งส่วนใหญ่มีบุตร 1- 2 คน โดยค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับการเล่าเรียน ต้อบุตร 1 คน มีค่าเทอม เฉลี่ย 9,500 บาท / ค่าบำรุงโรงเรียน เฉลี่ย 2,300 บาท / และค่าหนังสือเรียน / อุปกรณ์การเรียน และเครื่องแบบนักเรียน ที่ส่วนใหญ่ค่าใช้จ่ายยังเฉลี่ยเท่ากับปีที่แล้ว ส่วนค่าบำรุงโรงเรียนกรณีเด็กเข้าใหม่ มองว่าสูงขึ้น รวมไปถึงเครื่องแบบนักเรียนบางอย่าง เช่น รองเท้า และถุงเท้า ปีนี้ มีการปรับราคาขึ้น โดยค่าใช้จ่ายจะเฉลี่ย 19,500 บาทต่อบุตร 1 คน แม้ผู้ปกครองส่วนใหญ่ 63% จะบอกว่ามีเงินเพียงพอกับการใช้จ่ายช่วงเปิดเทอม แต่ที่เหลืออีก 36.5% นั้นตอบว่าเงินไม่เพียงพอ ซึ่งถือว่ามีสัดส่วนที่ต่ำสุดในรอบ 8 ปีนับตั้งแต่ปี 2559

อย่างไรก็ตาม ส่งผลให้มีเม็ดเงินการใช้จ่ายรวมทั่วประเทศกว่า 57,885 ล้านบาท สูงสุดในรอบ 14 ปีนับตั้งแต่การทำผลสำรวจมาเมื่อปี 2553 เพิ่มขึ้น 5.3% เมื่อเทียบกับปี 2562  ส่วนความกังวลต่อปัญหาทางการศึกษาคือการเรียนออนไลน์ที่ไม่เหมาะสมกับเด็กเล็ก / ปัญหาของหลักสูตรการเรียนการสอนที่ไม่สอดคล้องกับการเปลี่ยนแปลงของโลก และจำนวนครูที่ไม่เพียงพอกับความต้องการ ขณะที่ ความเห็นเกี่ยวกับนโยบายพรรคการเมืองด้านการศึกษานั้น ผู้ปกครองส่วนใหญ่ต้องการโครงการอาหารฟรีให้กับเด็กนักเรียน ยกเลิกระบบแปะเจี๊ย ส่งเสริมโรงเรียน 2 ภาษาในทุกท้องถิ่น และนโยบายเรียนฟรีจนจบปริญญาตรี


ทั้งนี้ โดยภาพรวมการเปิดเทอมปีนี้ ผู้ปกครองมีค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้น ซึ่งมีมูลค่าใช้จ่ายสูงสุดนับแต่สำรวจมา สะท้อนว่าเศรษฐกิจเริ่มฟื้นตัวจากก่อนช่วงสถานการณ์โควิด และผู้ปกครองพร้อมที่จะใช้จ่ายมากขึ้น แต่การฟื้นตัวของเศรษฐกิจยังเป็นในลักษณะเฉพาะกลุ่ม หรือ ฟื้นตัวแบบ K Shape  และระมัดระวังการใช้จ่าย เพราะคนหลายกลุ่มยังได้รับผลกระทบจากค่าครองชีพที่สูง ยังไม่พร้อมใช้จ่าย จึงย้ำว่า เศรษฐกิจไทยเริ่มฟื้นตัวแล้วแต่ยังเปราะบางเป็นต้น.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สำนักสงฆ์หูตาทิพย์

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์”

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์” พระอ้างใช้สอนวิปัสสนากรรมฐาน เบื้องต้นอายัดไว้พิสูจน์ดีเอ็นเอ พร้อมเอาผิดหัวหน้าสำนักสงฆ์ ฐานนำศพเก็บไว้ในสถานที่ที่ไม่ใช่สุสานและฌาปนสถาน

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

รัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มยูเครน

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย แถลงยืนยันว่ารัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มภาคตะวันออกยูเครนเมื่อวานนี้ ตอบโต้ที่ยูเครนใช้ขีปนาวุธที่ได้รับมอบจากสหรัฐและอังกฤษ

ข่าวแนะนำ

โค้งสุดท้าย ศึกสองนารีชิงเก้าอี้ นายก อบจ.นครฯ

เหลือไม่ถึง 2 วันแล้ว ที่ชาวนครศรีธรรมราชจะได้ออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งนายก อบจ.นครฯ ศึกนี้เป็นการสู้กันเองของพรรคร่วมรัฐบาล ฝ่ายหนึ่งต้องการรักษาฐานที่มั่นไว้ให้ได้ อีกฝ่ายต้องการเจาะฐานให้แตก เพื่อหวังครองที่นั่งการเมืองระดับชาติในสมัยหน้า

ร้อนระอุโค้งสุดท้าย ศึกชิงเก้าอี้ นายก อบจ.อุดรธานี

การเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี ครั้งนี้ดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครจาก 2 พรรคใหญ่ลงชิงชัย ต่างเร่งเครื่องเต็มที่ในโค้งสุดท้าย การเลือกตั้งจะเกิดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 24 พ.ย.นี้ ใครจะเป็นผู้คว้าชัยชนะและสร้างการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญให้จังหวัดอุดรธานี ไปติดตามจากรายงาน

ความเห็นนักวิชาการ คดีทักษิณ

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติไม่รับคำร้อง นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีและพรรคเพื่อไทย ร่วมกันกระทำการอันเป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครอง ขณะที่นักวิชาการชี้ว่าไม่ได้พลิกไปจากความคาดหมาย และผลจากคดีนี้ ไม่ทำให้เกิดจุดเปลี่ยนทางการเมือง แต่ก็ยังมีจุดเสี่ยงที่ต้องระวัง