คลื่น FM 96.5 จัดเวที “MCOT เจาะลึกเลือกตั้ง66 The Last War”

อสมท 6 พ.ค. – “คลื่น FM 96.5 จัดเวที MCOT เจาะลึกเลือกตั้ง66 The Last War” ผ่านรายการเสาร์เสวนา สเปเชียล ตัวแทน 6 พรรคการเมือง ร่วมแลกเปลี่ยนกลยุทธ์สู้ศึกเลือกตั้งโค้งสุดท้าย ประสานเสียงไม่เห็นด้วยมีรัฐบาลเสียงข้างน้อย เชื่อทำให้เกิดความวุ่นวายหลังการเลือกตั้ง ขอ 250 ส.ว. ปิดสวิตช์ตัวเอง อย่างัดข้อกับประชาชน


รายการเสาร์เสวนา สเปเชียล คลื่น FM 96.5 จัดเวที MCOT เจาะลึกเลือกตั้ง66 The Last War ดำเนินรายการโดย มนตรี จอมพันธ์ และสุปัน รักเชื้อ เชิญตัวแทน 6 พรรคการเมือง ร่วมแลกเปลี่ยนกลยุทธ์สู้ศึกเลือกตั้งโค้งสุดท้าย ประกอบด้วย 1.นายธีระชัย ภูวนาถนรานุบาล ที่ปรึกษาคณะกรรมการนโยบาย พรรคพลังประชารัฐ 2.นายวรวุฒิ อุ่นใจ รองหัวหน้าพรรคชาติพัฒนากล้า (ชพก.) 3.นายพิสิฐ ลี้อาธรรม ประธานคณะกรรมการนโยบาย พรรคประชาธิปัตย์ 4.นายนิมิตร สมเจริญ รองโฆษกพรรคเสรีรวมไทย 5.นายวรภพ วิริยะโรจน์ ทีมเศรษฐกิจ พรรคก้าวไกล 6.นายนิกร จำนง ประธานคณะกรรมการนโยบายและยุทธศาสตร์ พรรคชาติไทยพัฒนา

ช่วงแรกให้แต่ละพรรคสะท้อนว่ามองผลโพลที่ออกมาเป็นอย่างไร นายวรวุฒิ พรรคชาติพัฒนากล้า มองว่าปัจจุบันประเทศไทยมีโพลหลายสำนัก และจัดทำถี่เกินไป เปรียบเสมือนใช้โพลชี้นำทางการเมือง ถือเป็นอันตราย แม้รัฐธรรมนูญจะเปิดให้มีพรรคการเมืองได้มากรอบนี้ 69 พรรคการเมือง แต่ก็ทำให้พรรคการเมืองขนาดเล็กไม่ได้รับความสนใจ เพราะสื่อจะสนใจไปที่พรรคการเมืองขนาดใหญ่ที่อยู่ลำดับต้นๆ ของโพล จึงไม่เหมาะกับการสนับสนุนประชาธิปไตย และในต่างประเทศจะไม่มีการทำโพลถี่ขนาดนี้ อีกทั้งจะมีเพียงไม่กี่สำนักโพลที่จัดทำและเชื่อถือได้ อ้างอิงตามหลักวิชาการ มีฐานกลุ่มตัวอย่างที่มากกระจายตามหลักวิชาการ แต่ตอนนี้ประเทศไทยไม่เป็นประโยชน์ต่อประเทศ


นายนิกร พรรคชาติไทยพัฒนา กล่าวว่า บางสำนักโพลต้องใช้มือถือในการโหวต และค่อนข้างทำได้ยาก ไม่เหมาะกับคนทุกกลุ่ม จากนั้นก็นำมาเผยแพร่ทำให้ผู้ที่ถูกจัดอันดับเชื่อ ทั้งที่จริงไม่ใช่อย่างนั้น และเรื่องโพลมีผลทางการเมืองอยู่มาก เพราะมีการนำไปใช้ส่งผลกระทบเยอะ แต่พรรคชาติไทยพัฒนาไม่หวั่นไหวเรื่องนี้ เพราะมีแผนที่วางไว้ เพียงแต่มีปัญหากับการเลือกตั้งโดยรวมแน่

ด้านนายวรภพ พรรคก้าวไกล กล่าวว่า แต่ละโพลมีวิธีจัดทำแตกต่างกัน เพียงแต่ต้องดูว่าโพลครั้งที่ผ่านมากับครั้งล่าสุดแตกต่างกันอย่างไร ซึ่งการที่ผลโพลออกมาสามารถสื่ออะไรบางอย่างได้ และไม่ใช่เพียงโพลเท่านั้น การลงพื้นที่ การปราศรัย นโยบาย ก็สามารถส่งผลต่อการเปลี่ยนแปลงได้ จึงเป็นที่มาว่าผลโพลล่าสุด พรรคก้าวไกลเริ่มนำขึ้นมาเมื่อเทียบกับครั้งก่อน

นายพิสิฐ พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า การทำโพลเป็นเรื่องที่ดี ทำให้รู้ว่าพรรคมีเรทติ้งอย่างไร และผลสะท้อนออกมาอย่างไร แต่ในทางปฏิบัติต้องดูว่ามีการใช้โพลชี้นำหรือไม่ จึงอยากให้ กกต. ตรวจสอบด้วยว่าการจัดทำโพลเหล่านั้นถูกหลักวิชาการหรือไม่


ขณะที่นายนิมิตร พรรคเสรีรวมไทย มองว่าผลโพลที่ออกมา พรรคเสรีรวมไทยน้อมรับ เพราะเป็นเสียงสะท้อนจากประชาชน และเป็นสิ่งที่พรรคต้องขยันทำงานให้หนักขึ้น

นายธีระชัย กล่าวว่า ผลโพลสะท้อนการเมืองและบรรยากาศทางการเมืองมากเกินไป หลายพรรคมีนโยบายที่ดีมาก แต่การทำผลโพลที่ออกมาไม่ได้สะท้อนว่าประชาชนชื่นชอบในนโยบายของแต่ละพรรคการเมืองอย่างไร

จากนั้นช่วงสุดท้ายของเวทีเสวนาได้ให้ตัวแทนพรรคการเมืองสะท้อนคำถามของสังคม เรื่องจะสนับสนุนรัฐบาลเสียงข้างน้อยหรือไม่

นายนิกร พรรคชาติไทยพัฒนา กล่าวว่า ในความเป็นจริงเป็นไปไม่ได้ เพราะจะไม่สามารถทำงานในสภาฯ โดยเฉพาะการผ่านร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีได้ ซึ่งเดิมทีประเทศไทยให้พรรคการเมืองที่ได้คะแนนเสียงเลือกตั้งมากที่สุดได้เป็นนายกรัฐมนตรี แต่ปัจจุบันพบว่าหากเป็นแกนนำในการรวมเสียงได้มากก็จัดตั้งรัฐบาล ขั้นตอนต่อไปคือการประชุมสภาฯ และหากใครเป็นประธานสภาผู้แทนราษฎร ก็จะสามารถบอกได้ ดังนั้น พรรคชาติไทยพัฒนาไม่หนุนรัฐบาลเสียงข้างน้อย ส่วนหลังเลือกตั้งตนมองว่าจะเกิดความวุ่นวาย และปัญหาจะมาจาก ส.ว. ที่ยังมีวาระสามารถโหวตเลือกนายกรัฐมนตรีได้ จะทำให้สภาฯ บิดตัวไปมา ทำให้มองยาก แต่หลังจากมี ส.ว.ชุดใหม่ ที่ไม่มีอำนาจในการเลือกนายกรัฐมนตรี ช่วงนั้นจะเป็นหลุมใหญ่ที่สภาฯ ไม่น่าจะผ่านจุดนั้นไปได้ และมีปัญหาจนอาจเกิดการยุบสภาฯ ในช่วงรอยต่อนั้น

นายวรภพ พรรคก้าวไกล ระบุว่า เห็นว่าการยุบพรรคอนาคตใหม่ไม่ได้มีผลอะไร และสุดท้ายก็มีคนใหม่ที่มีชุดความคิดเหมือนกัน อุดมการ เหมือนกันขึ้นมาทำงาน และความต้องการของประชาชนก็ยังอยู่ เท่ากับว่าไม่ได้มีการยึดติดตัวบุคคล แต่เป็นความต้องการของประชาชนที่ต้องการเห็นการขับเคลื่อนประเทศไทยไปในสิ่งที่พรรคก้าวไกลต้องการนำเสนอ

นายนิมิตร พรรคเสรีรวมไทย ระบุว่า สนับสนุนหลักการประชาธิปไตย เคารพในเสียงส่วนมาก ในเมื่อฉันทามติเห็นควรให้พรรคใดพรรคหนึ่งมีเสียงส่วนมากในการจัดตั้งรัฐบาล พรรคเสรีรวมไทยต้องเคารพ และจุดยืนคือไม่เข้าร่วมกับผู้ยึดอำนาจ

นายพิสิฐ พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า มองโลกทุกวันนี้ด้วยความเป็นห่วง เพราะกำลังแบ่งฝักแบ่งฝ่ายออกเป็นสองพวก และเอเชียกำลังร้อนแรง ดังนั้น ในการกำหนดชะตาอนาคตของประเทศไทยต้องดูตามสภาวะของโลกที่เกิดขึ้นด้วย ซึ่งพรรคประชาธิปัตย์ไม่สนับสนุนการบริหารประเทศด้วยการยึดอำนาจ เรามองว่าประเทศต้องการผู้นำที่มีความสุขุมรอบคอบ และพรรคประชาธิปัตย์ก็เป็นสถาบันการเมืองที่สนับสนุนประชาธิปไตยมาอย่างยาวนาน

นายนิกร พรรคชาติพัฒนากล้า ยืนยันว่า ไม่สนับสนุนรัฐบาลเสียงข้างน้อย และ ส.ว. ควรปิดสวิตช์ตัวเองได้แล้ว อย่าทำให้ประชาชนมองว่าสิ่งที่ตัวเองเลือกมาถูก คนไม่กี่คนมาล้มล้างสิ่งที่ประชาชนทั้งประเทศคิดและตัดสินใจ และหากยังดึงดันในการจัดตั้งรัฐบาลเสียงข้างน้อย ตนเชื่อว่าเหตุการณ์จะบานปลาย จบไม่สวย ดังนั้น วิงวอน ส.ว. 250 ท่าน ปิดสวิตช์ตัวเอง เพราะไม่ควรงัดข้อกับประชาชนทั้งประเทศ

นายธีระชัย พรรคพลังประชารัฐ กล่าวว่า พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ เคยให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนว่าไม่เข้าร่วมกับรัฐบาลเสียงข้างน้อย แต่หากมีพรรคการเมืองที่พยายามจะจัดตั้งรัฐบาลเสียงข้างน้อย ก็ไม่แน่ใจว่า พล.อ.ประวิตร มีจุดยืนเรื่องนี้อย่างไร และตนมองว่าการจัดตั้งรัฐบาลเสียงข้างน้อยภายในบริบทขณะนี้ ความเข้าใจของตนคือคงต้องใช้เสียง ส.ว. เข้ามาโหวตด้วย และคงทำให้เกิดข้อวิจารณ์ว่าใครเป็นผู้แต่งตั้ง ส.ว. เมื่อมาถึงตอนนี้กลับไม่ได้เสียงไว้วางใจจากประชาชน ผลงานไม่เข้าตา และมาจากอาศัย ส.ว. ที่ตนเองตั้งไว้ เพื่อจะทำให้จัดตั้งรัฐบาลเสียงข้างน้อย คงจะเกิดข้อวิจารณ์

ส่วนข้อวิจารณ์อีกประการคือเมื่อเปลี่ยนรัฐบาลเสียงข้างน้อย คือการจัดตั้งรัฐบาลไปก่อน จากนั้นจะมีเสียงเข้ามาเพื่อให้เป็นรัฐบาลเสียงข้างมากไปเองในที่สุด จึงทำให้เกิดคำถามว่าสิ่งที่จะเข้ามาเป็นงูเห่าหรือไม่ และถ้าเป็นงูเห่า เป็นเรื่องดี สำหรับระบบการเมืองไทยหรือไม่ ในเมื่อไม่ตรงใจกับสิ่งที่ประชาชนลงคะแนนเอาไว้จะยิ่งทำให้การบริหารเศรษฐกิจในอนาคตยากขึ้น.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ประหารชีวิตแอมไซยาไนด์

ศาลอาญาพิพากษาประหารชีวิต “แอม ไซยาไนด์”

ศาลอาญาพิพากษาประหารชีวิต “แอม ไซยาไนด์” ส่วนอดีตสามี คุก 1 ปี 4 เดือน “ทนายพัช” คุก 2 ปี ไม่รอลงอาญา ชดใช้ ให้ผู้เสียหายกว่า 2 ล้านบาท

นายกฯ ถกตั้งนายพลตำรวจ 41 ตำแหน่ง ยันไม่มีการเมืองแทรก

นายกฯ ถกแต่งตั้งนายพลตำรวจ 41 ตำแหน่ง ยันไม่มีการเมืองแทรก ยึดตาม พ.ร.บ.ตำรวจ ฉบับใหม่ พลิกโผ ‘สยาม บุญสม’ ผงาดคุมนครบาล ‘สันติ ชัยนิรามัย’ นั่ง ผบช.ปส. ‘ไตรรงค์ ผิวพรรณ’ โยกคุมไซเบอร์ ‘ภาณุมาศ บุญญลักษม์’ ขึ้นเป็น ผบช.สตม.

ดีเอสไอพบเส้นเงินโอนจากแม่ถึงนักการเมือง ส. เกือบ 100 ล้าน

ดีเอสไอพบเส้นเงินโอนจากแม่ถึงนักการเมือง ส. เกือบ 100 ล้านบาท จำนวนนี้พบโอนจาก “บอสพอล-บอสปีเตอร์” ด้วย เร่งขยายผลมีบอสรายอื่นโอนเข้าบัญชีดังกล่าวอีกหรือไม่

ข่าวแนะนำ

ล้มล้างการปกครอง

ศาล รธน.มีมติเสียงข้างมากไม่รับคำร้อง “ทักษิณ-พท.” ล้มล้างการปกครอง

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติเสียงข้างมากไม่รับคำร้องของนายธีรยุทธ สุวรรณเกษร ขอให้ศาลวินิจฉัยว่า “ทักษิณ-พรรคเพื่อไทย” ล้มล้างการปกครอง

คดีทักษิณ

ศาลรัฐธรรมนูญถกคำร้อง “ทักษิณ-เพื่อไทย” ล้มล้างฯ

จับตา ศาลรัฐธรรมนูญ “รับ/ไม่รับ” คำร้องปม “ทักษิณ-พรรคเพื่อไทย” ใช้สิทธิเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครองหรือไม่

อุตุฯ เผยเหนือ-อีสาน อากาศเย็นในตอนเช้า ภาคใต้ฝนตกหนักบางแห่ง

กรมอุตุฯ เผยภาคเหนือ ภาคอีสาน มีอากาศเย็นในตอนเช้า ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนดูแลรักษาสุขภาพเนื่องจากสภาวะอากาศที่เปลี่ยนแปลง ส่วนภาคใต้ มีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง

“เอวา” เสือโคร่งสายแบ๊ว ดาวรุ่งดวงใหม่

หน้าตาที่น่ารักบ้องแบ๊วเหมือนแมวตัวโต ตกหัวใจคนรักสัตว์กันไปเต็มๆ สำหรับน้องเอวา เสือโคร่งสายแบ๊วของเชียงใหม่ไนท์ซาฟารี นอกจากหน้าตาน่ารักแล้วยังมีความสามารถหลายอย่าง จนกลายเป็นดาวรุ่งดวงใหม่ ที่ผู้คนแห่ไปชมความน่ารักกันอย่างคึกคัก คาดจะช่วยดึงนักท่องเที่ยวไปที่เชียงใหม่ไนท์ซาฟารีเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ