นิวยอร์ก 6 มิ.ย.- นักวิชาการด้านสื่อมวลชนชี้ว่า วอชิงตันโพสต์และนิวยอร์กไทมส์เป็นหนังสือพิมพ์สหรัฐสองฉบับที่กำลังผงาดขึ้นเป็นองค์กรสื่อยักษ์ใหญ่ในยุครัฐบาลโดนัลด์ ทรัมป์ จากการลงข่าวเจาะลึกและข่าวข้อมูลลับเกี่ยวกับทำเนียบขาวแทบทุกวัน
โจเอล แคปแลน อาจารย์วารสารศาสตร์ มหาวิทยาลัยซีราคิวส์กล่าวว่า ภาพที่คนมองหนังสือพิมพ์สองฉบับนี้คือการนำเสนอความจริง และเป็นเพียงองค์กรสื่อเพียงสองแห่งที่ทุ่มทรัพยากรในการรายงานข่าวประเภทนี้ นิวยอร์กไทมส์มีผู้สื่อข่าวประจำทำเนียบขาว 6 คน และหน่วยข่าวสืบสวน 5 คน มากที่สุดเท่าที่นิวยอร์กไทมส์เคยมีมา โดยได้จัดสรรงบประมาณการทำข่าวทำเนียบขาวไว้ถึง 5 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 170 ล้านบาท) ส่วนวอชิงตันโพสต์มีทีมข่าวทำเนียบขาว 8 คน ยังไม่รวมผู้สื่อข่าวที่ประจำตามหน่วยงานต่าง ๆ ของรัฐบาล
แคปแลนระบุว่า คนรุ่นใหม่ไม่อ่านหนังสือพิมพ์ แต่ติดตามข่าวสารจากสมาร์ทโฟน แท็บเล็ต และพร้อมจ่ายเงินให้แก่ข้อมูลที่มีความสำคัญต่อพวกเขา ยุคนี้จึงถือได้ว่าเป็นยุคฟื้นฟูของข่าวสาร คุณค่าและความสำคัญของข่าวที่เป็นข่าวจริงและข้อเท็จจริงเกิดการเปลี่ยนแปลงแบบพลิกโฉมในช่วง 6 เดือนที่ผ่านมา และเป็นสิ่งที่ไม่เคยปรากฏมาก่อน เพราะทุกวันนี้คนต้องการตรงไปยังที่มาของข่าว ไม่ใช่ข่าวที่ผ่านการบอกเล่าจากคนอื่นอีกต่อไป
ด้านแกเบรียล คาห์น คณะนิเทศศาสตร์และวารสารศาสตร์แอนเนนเบิร์ก มหาวิทยาลัยเซาเทิร์นแคลิฟอร์เนียชี้ว่า นี่คือช่วงเวลาแห่งการทำสงครามข่าวสาร สื่อไม่สามารถหาข้อมูลผิด ๆ ได้ ขณะที่ริค เอ็ดมันด์ส นักเศรษฐศาสตร์สื่อ สถาบันพอยน์เตอร์เห็นว่า การเกาะติดแล้วตามรอยทุกเบาะแสเพื่อเปิดโปงเรื่องราวใหม่ ๆ เรื่องแล้วเรื่องเล่าไม่เพียงเป็นตัวอย่างที่ดีของการทำข่าว แต่ยังเป็นตัวอย่างที่ดีของการทำธุรกิจด้วย นิวยอร์กไทมส์มีผู้อ่านเป็นสมาชิกเพิ่มขึ้น 644,000 รายระหว่างเดือนกันยายนปีก่อนถึงเดือนมีนาคมปีนี้ ขณะที่วอชิงตันโพสต์มีผู้อ่านเป็นสมาชิกออนไลน์เพิ่มขึ้นร้อยละ 75 เมื่อปีก่อน.- สำนักข่าวไทย