นนทบุรี 4 มิ.ย. – กระทรวงพาณิชย์จับตาสหรัฐถอนตัวข้อตกลงปารีส หวังลดต้นทุนเพิ่มขีดความสามารถการแข่งขันด้านราคา
นายบุณยฤทธิ์ กัลยาณมิตร อธิบดีกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ เปิดเผยว่า ตามที่ประธานาธิบดีสหรัฐประกาศจะถอนตัวจากความตกลงปารีสนั้น มีความเป็นไปได้ที่รัฐบาลและภาคส่วนต่าง ๆ ของสหรัฐอาจลดความสำคัญต่อการดำเนินการด้านการป้องกันและแก้ปัญหาที่เกี่ยวข้องกับสิ่งแวดล้อม เนื่องจากสหรัฐ ไม่มีพันธกรณีที่ต้องปฏิบัติตามภายใต้ความตกลงปารีสแล้วและอาจส่งผลให้ธุรกิจที่เกี่ยวกับสินค้าและบริการด้านสิ่งแวดล้อมภายในสหรัฐได้รับผลกระทบ เนื่องจากความต้องการลดลงและเป็นไปได้ว่าสหรัฐ อาจจะนำเข้าสินค้าและบริการด้านสิ่งแวดล้อมจากต่างประเทศลดลง
อย่างไรก็ตาม แม้ว่าการที่สหรัฐไม่ต้องให้ความสำคัญกับเรื่องการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก ทำให้สหรัฐสามารถลดต้นทุนการดำเนินธุรกิจระยะสั้น เนื่องจากไม่ต้องลงทุนปรับกระบวนการผลิตเพื่อลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก ซึ่งจะส่งผลการเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันด้านราคาของสินค้าที่ส่งออกจากสหรัฐ แต่ระยะยาวจะมีผลต่อความพยายามเพื่อการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกและลดโลกร้อน โดยเฉพาะสหรัฐเป็นประเทศเศรษฐกิจขนาดใหญ่ ขณะเดียวกันสินค้าและบริการของสหรัฐที่ส่งออกน่าจะได้รับผลกระทบ เนื่องจากผู้บริโภคในประเทศที่ให้ความสำคัญกับการรักษาสิ่งแวดล้อมอาจต่อต้านสินค้าของสหรัฐและมีความเป็นไปได้ที่สินค้าเหล่านั้นจะถูกเก็บภาษีสิ่งแวดล้อมเพิ่มจากประเทศผู้นำเข้าที่ให้ความสำคัญกับการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก โดยมีรายงานว่าสาธารณรัฐประชาชนจีนและสหภาพยุโรปจะมีแถลงการณ์ร่วมยืนยันว่าจะยังเดินหน้าตามข้อผูกพันภายใต้ความตกลงปารีสในการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกต่อไป
ทั้งนี้ คาดว่ากระบวนการการถอนตัวจากการเป็นภาคีความตกลงปารีสจะใช้ระยะเวลาประมาณ 4 ปี ก่อนที่การถอนตัวจากความตกลงปารีสจะเสร็จสิ้นอย่างเป็นทางการ โดยการถอนตัวของสหรัฐคาดว่าจะเสร็จช่วงเดือนพฤศจิกายน 2563 ซึ่งกระทรวงพาณิชย์โดยกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศจะติดตามเรื่องนี้อย่างใกล้ชิดต่อไป.-สำนักข่าวไทย