กทม.เปิดอบรมอาสาสมัครแจ้งเหตุทั่วกรุง

สำนักข่าวไทย 4 มิ.ย.-กทม.เปิดอบรมอาสาสมัครรักษาความปลอดภัยและการแจ้งเหตุเพื่อดูแลประชาชน  มุ่งให้กรุงเทพฯเป็นเมืองแห่งความปลอดภัย           


พล.ต.ท.อำนวย นิ่มมะโน รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เป็นประธานพิธีเปิดการอบรมอาสาสมัครรักษาความปลอดภัยและการแจ้งเหตุ  โดยพระพรมหมดิลก เจ้าคณะกรุงเทพมหานคร เจ้าอาวาสวัดสามพระยา ได้ร่วมบรรยายธรรมในหัวข้อ  “การมีส่วนร่วมทำความดีเพื่อสนองคุณพ่อหลวงและประเทศชาติ”  โดยมีนายศุภพงษ์ กฤษณพันธุ์  ที่ปรึกษาผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร นางสาวปราณี สัตยประกอบ รองปลัดกรุงเทพ มหานคร นายศุภกฤต บุญขันธ์ ผู้อำนวยการเขตพระนคร พลตรีธานี ฉุยฉาย ที่ปรึกษาแม่ทัพภาคที่ 1 ผู้แทนกองบัญชาการตำรวจนครบาล เข้าร่วมพิธี ณ วัดสามพระยา 

สำนักงานเขตพระนคร กำหนดจัดการอบรมอาสาสมัครรักษาความปลอดภัยและการแจ้งเหตุขึ้น เนื่องจากพื้นที่เขตพระนครมีสถานที่สำคัญและเป็นแหล่งท่องเที่ยวสำคัญ รวมทั้งเป็นพื้นที่ที่ต้องรองรับประชาชนซึ่งเดินทางมากราบถวายบังคมพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ในพระบรมมหาราชวังอย่างเนืองแน่นทุกวัน สำนักงานเขตพระนครจำเป็นต้องดูแลพื้นที่ให้เป็นระเบียบและเรียบร้อยที่สุด ซึ่ง พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร มีความห่วงใยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน จึงสั่งการให้เจ้าหน้าที่ประสานความร่วมมือกับภาคส่วนต่างๆ รวมทั้งหน่วยงานความมั่นคง ทหาร ตำรวจ ในการดูแลประชาชนให้ได้รับความปลอดภัยสูงสุด รวมทั้งร่วมกับชุมชน ผู้ประกอบการ และประชาชนในพื้นที่ เพื่อให้มีส่วนร่วมในการดูแลพื้นที่ โดยจัดให้มีการอบรมในครั้งนี้ขึ้นโดยมีผู้รับการอบรมประกอบด้วย ผู้นำชุมชน ผู้ประกอบการโรงแรม ผู้ประกอบการสถานบันเทิง วินจักรยานยนต์รับจ้าง โรงเรียน ข้าราชการ วัด กว่า 600 คน ร่วมอบรมและได้รับเกียรติจากวิทยากรจากกลุ่มงานเก็บกู้และตรวจพิสูจน์วัตถุระเบิด (EOD) และกองบังคับการสายตรวจและปฏิบัติการพิเศษ กองบัญชาการตำรวจนครบาล สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ร่วมบรรยายเกี่ยวกับการสังเกตจดจำ การแจ้งเหตุ ความรู้เรื่องวัตถุระเบิด ความรู้เกี่ยวกับข้อกฎหมาย การตรวจค้น การจับกุม และสาธิตการรักษาความปลอดภัย


 รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร กล่าวว่า การอบรมครั้งนี้จัดขึ้นเพื่อให้ทุกคนได้ร่วมกันถวายงานแด่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ซึ่งพระองค์ท่านทรงเป็นศูนย์รวมจิตใจคนไทยทั้งชาติ ถือว่าเป็นบุญสูงสุดสำหรับประชาชนชาวไทย ในการร่วมกันถวายงานในครั้งนี้โดยร่วมกันเป็นหูเป็นตาสอดส่องสิ่งผิดปกติในพื้นที่และแจ้งให้เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องรับทราบ และดำเนินการป้องกันเหตุ ลดผลกระทบในความสูญ เสียแก่ประชาชน ในส่วนของกรุงเทพมหานครได้ดำเนินการปรับปรุงประสิทธิภาพกล้องวงจรปิดCCTV ให้มีความชัดเจนมากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งกล้องCCTVในพื้นที่ท้องสนามหลวง พระบรมมหาราชวัง และบริเวณโดยรอบ นอกจากนี้กรุงเทพมหานครจะจัดให้มีการอบรมเช่นนี้ในทั้ง 50 สำนักงานเขต เพื่อให้ประชาชนใน 50 เขต ได้มีความรู้และร่วมกันสอดส่องสิ่งผิดปกติ ร่วมสร้างให้กรุงเทพมหานครเป็นเมืองแห่งความปลอดภัย.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สำนักสงฆ์หูตาทิพย์

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์”

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์” พระอ้างใช้สอนวิปัสสนากรรมฐาน เบื้องต้นอายัดไว้พิสูจน์ดีเอ็นเอ พร้อมเอาผิดหัวหน้าสำนักสงฆ์ ฐานนำศพเก็บไว้ในสถานที่ที่ไม่ใช่สุสานและฌาปนสถาน

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

รัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มยูเครน

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย แถลงยืนยันว่ารัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มภาคตะวันออกยูเครนเมื่อวานนี้ ตอบโต้ที่ยูเครนใช้ขีปนาวุธที่ได้รับมอบจากสหรัฐและอังกฤษ

ข่าวแนะนำ

โค้งสุดท้าย ศึกสองนารีชิงเก้าอี้ นายก อบจ.นครฯ

เหลือไม่ถึง 2 วันแล้ว ที่ชาวนครศรีธรรมราชจะได้ออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งนายก อบจ.นครฯ ศึกนี้เป็นการสู้กันเองของพรรคร่วมรัฐบาล ฝ่ายหนึ่งต้องการรักษาฐานที่มั่นไว้ให้ได้ อีกฝ่ายต้องการเจาะฐานให้แตก เพื่อหวังครองที่นั่งการเมืองระดับชาติในสมัยหน้า

ร้อนระอุโค้งสุดท้าย ศึกชิงเก้าอี้ นายก อบจ.อุดรธานี

การเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี ครั้งนี้ดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครจาก 2 พรรคใหญ่ลงชิงชัย ต่างเร่งเครื่องเต็มที่ในโค้งสุดท้าย การเลือกตั้งจะเกิดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 24 พ.ย.นี้ ใครจะเป็นผู้คว้าชัยชนะและสร้างการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญให้จังหวัดอุดรธานี ไปติดตามจากรายงาน

ความเห็นนักวิชาการ คดีทักษิณ

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติไม่รับคำร้อง นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีและพรรคเพื่อไทย ร่วมกันกระทำการอันเป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครอง ขณะที่นักวิชาการชี้ว่าไม่ได้พลิกไปจากความคาดหมาย และผลจากคดีนี้ ไม่ทำให้เกิดจุดเปลี่ยนทางการเมือง แต่ก็ยังมีจุดเสี่ยงที่ต้องระวัง