กทม. 22 เม.ย.- “พล.อ.ประวิตร” ยิ้มสดชื่นนั่งรถไฟในรอบ 50 ปี นำทีม พปชร. หาเสียงโคราช ชูพัฒนาอีสาน เมิน “เศรษฐา” ประกาศไม่จับมือ ย้อนไม่เคยพูดจะจับด้วย ลั่นสถานการณ์เอื้อ ก้าวข้ามความขัดแย้ง บอกไทยไม่แตกก๊ก ไม่มีสู้รบ เหมือนเพื่อนบ้าน
07.30 น. พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ พร้อมแกนนำพรรค อาทิ นายสันติ พร้อมพัฒน์ เลขาธิการพรรค นายวิรัช รัตนเศรษฐ รองหัวหน้าพรรค ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า เดินทางมาที่สถานีกลางบางซื่อ เพื่อเดินสายไปหาเสียงที่จังหวัดนครราชสีมา โดยพลเอกประวิตร สวมเสื้อโปโลสีขาวทับด้วยเสื้อแจ็คเก็ตสีน้ำเงินและใส่กางเกงยีนส์ มีสีหน้ายิ้มแย้มแจ่มใส อารมณ์ดี ได้นั่งโบกี้รถไฟชั้นธรรมดา ซึ่งเป็นขบวนรถไฟที่มีประชาชนทั่วไปร่วมโดยสารด้วย คือขบวนรถเร็ว 135 กรุงเทพฯ – อุบลราชธานี จุดหมายปลายทางที่นครราชสีมา ซึ่งตลอดเส้นทางจะแวะทำกิจกรรมพบปะประชาชนตามสถานีต่างๆ อาทิ ดอนเมือง อยุธยา สระบุรี ชุมทางแก่งคอย ปากช่อง และนครราชสีมา ผู้สื่อข่าวถาม พลเอกประวิตร ว่า “ร้อนหรือไม่” พลเอกประวิตร กล่าวว่า “ไม่ร้อน”
จากนั้นในช่วงบ่าย พลเอกประวิตรและคณะ จะเข้ากราบสักการะขอพรสิ่งศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมืองของชาวโคราช ก่อนที่ในช่วงเย็นจะเปิดเวทีปราศรัยใหญ่ที่ตลาดเซฟวัน เปิดตัวผู้สมัคร ส.ส. พรรคพลังประชารัฐ 16 เขตของจังหวัดนครราชสีมา ทั้งนี้ ระหว่างขบวนจอดที่สถานีปทุมธานี มีบรรดาผู้สมัครของพรรคพลังประชารัฐและแฟนคลับ มาดักรอที่ชานชาลา นำดอกกุหลาบมามอบเป็นกำลังใจให้แก่ พลเอกประวิตร ตลอดสถานีที่เดินทาง
พลเอกประวิตร ให้สัมภาษณ์ว่าไม่ได้นั่งรถไฟมาตั้งแต่สมัยเป็นนักเรียนโรงเรียนนายร้อย หรือ 40-50 ปีมาแล้ว พร้อมถามกลับผู้สื่อข่าวว่าเป็นอย่างไรสนุกหรือไม่ ขณะที่พลเอกประวิตร ระบุว่า ไม่ร้อน และการเดินทางนั่งรถไฟไปอีสานครั้งนี้ หวังจะใช้รถไฟในการพัฒนาพื้นที่ภาคอีสาน เปิดอุตสาหกรรมยานยนต์และอุตสาหกรรมอื่นๆ รวมถึงโรงเรียนอาชีวะ ให้ได้มีงานทำ จะได้ไม่ออกนอกพื้นที่ และช่วยสร้างงานให้พื้นที่ภาคอีสาน ส่วนตั้งเป้าพื้นที่ ส.ส.ภาคอีสาน ไว้เท่าใดนั้น พลเอกประวิตรขอให้ไปสอบถามนายวิรัช ที่เป็นหัวหน้าทีม เพราะหัวหน้าพรรคไม่ได้ดูพื้นที่ พร้อมย้ำว่าจะทำโครงการอีสานประชารัฐให้ได้ก่อน ยังไม่ต้องทำโครงการอื่น เพราะโครงการนี้จะเชื่อมต่อภาคตะวันออก จะทำให้หลายจังหวัดในพื้นที่ภาคอีสานมีความเจริญ สร้างงานโดยเฉพาะ พร้อมย้ำอยากปักธงในพื้นที่ภาคอีสานให้ได้ “อยากมันอยาก แต่ จับได้หรือเปล่าไม่รู้” พร้อมฝากบอกชาวอีสานว่าให้ช่วยเลือก จะได้ที่ 1 ตามที่สื่อถาม ส่วนจะเป็นนายกฯ หรือไม่ ต้องไปเลือกในสภา
สำหรับกรณีที่นายเศรษฐา ทวีสิน แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรคเพื่อไทย ประกาศไม่จับมือพรรคพลังประชารัฐและพรรครวมไทยสร้างชาติ พลเอกประวิตร ย้อนถามสื่อว่าใคร เมื่อสื่อย้ำว่าเป็นนายเศรษฐา พลเอกประวิตรตอบว่าไม่เป็นไร ก็ว่ากันก่อนนะ ตนก็ไม่ได้ประกาศว่าจะจับมือ ตนบอกแล้วว่าข้ามความขัดแย้ง อยากให้ประชาชนทั้งประเทศเป็นหนึ่งเดียวทำงานร่วมกันได้ ส่วนความคิดทางการเมือง ใครจะคิดอย่างไรก็ว่ากันไป ตนยังบังคับสื่อไม่ได้เลย และย้อนถามว่าบังคับได้หรือไม่ ถ้าไม่ได้แล้วจะมาถามทำไม ส่วนแนวทางก้าวข้ามความขัดแย้งจะเป็นอย่างไร พลเอกประวิตรกล่าวว่า แนวทางนี้ไง แนวทางที่ให้ประชาชนรู้ว่า เป็นคนไทยต้องร่วมมือกัน ต้องอยู่ร่วม รับใช้แผ่นดินเกิด ต้องทำให้แผ่นดินเกิดมีความเจริญ และยอมรับว่าบรรยากาศขณะนี้เอื้อไปสู่บรรยากาศก้าวข้ามความขัดแย้ง ประเทศเพื่อนบ้านแตกเป็น 4-5 ฝ่าย ยังรวมกันเป็นหนึ่งเดียวได้ และนำความเจริญมาสู่ประเทศ แล้วเรายังไม่แตกแยกมาก ยังไม่ได้สู้รบกันมาก ไม่เห็นต้องทำอะไรเลย แต่ต้องทำให้คนมีความรู้สึกว่าเป็นคนไทยต้องตอบแทนบุญคุณของแผ่นดิน ก็โอเคแล้ว ก่อนจะย้อนถามสื่อว่าแล้วคุณไม่โอเคหรือ คุณเกิดมาโอเคหรือไม่ มาเป็นนักข่าวอย่างเดียวเลยหรือ ไม่ทำอย่างอื่นเลยหรอ
ภายหลังให้สัมภาษณ์สื่อมวลชน พลเอกประวิตร ได้ชี้ไปที่เลข 37 ซึ่งเป็นเลขที่นั่งถัดจากที่ตัวเองนั่ง ซึ่งเป็นหมายเลขของส.ส.พรรคพลังประชารัฐ ขณะที่นายวิรัช ได้ประกาศขออภัยประชาชนที่ร่วมโดยสารในขบวนรถไฟที่อาจจะทำให้เกิดความไม่สะดวก ผู้สื่อข่าวรายงานว่าระหว่างรถไฟหยุดจอดที่สถานีอยุธยา ประชาชนที่มารอให้กำลังใจได้นำผัดไทที่ชาวบ้านทำเองมามอบให้พลเอกประวิตร ซึ่งพลเอกประวิตรได้แกะกล่อง รับประทานผัดไท ด้วยสีหน้ายิ้มแย้มปลื้มใจ .-สำนักข่าวไทย