กรุงเทพฯ 2 มิ.ย.- พี่สาวชูวงษ์ แซ่ตั๊ง ทวงถามความคืบหน้าคดีน้องชายเสียชีวิตหลัง พร้อมตั้งคำถามถึงอัยการจะยุติให้สืบพยานเมื่อใดเพราะคดีล่วงเลยมาเวลาล่วงเลยมานาน 2 ปีคดียังไม่สู่ชั้นศาล
นางสาววันเพ็ญ ธนธรรมศิริ พี่สาวนายชูวงษ์ แซ่ตั๊ง นักธุรกิจรับเหมาก่อสร้างชื่อดัง เข้าติดตามความคืบหน้าคดีการเสียชีวิตนายชูวงษ์ ภายในรถยนต์ เหตุเกิดเมื่อปี 2558 ซึ่งมี พันตำรวจโทบรรยิน ตั้งภากรณ์ อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพานิชย์ ตกเป็นผู้ต้องหา
นางวันเพ็ญ กล่าวว่า หลังจากอัยการมีความเห็นสั่งไม่ฟ้อง 4 ผู้ต้องหา ในคดีการรับโอนหุ้น แต่ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติมีความเห็นแย้งกับอัยการ โดยเห็นควรให้สั่งฟ้อง จึงเสนอเรื่องให้ อัยการสูงสุดเป็นผู้พิจารณา ซึ่งอัยการสูงสุด ได้สั่งการให้พนักงานสอบสวนกองปราบปราม ทำการสอบพยานเพิ่มเติม ตนเองในฐานะที่เป็นญาติของผู้ตาย ซึ่งถือเป็นผู้เสียหาย มีความกังวลว่าคดีนี้อาจจะยืดเยื้อออกไปอีก เพราะน้องชายเสียชีวิต มานานเกือบ 2 ปี แต่คดียังไม่ขึ้นสู่ชั้นศาล และอัยการกลับสั่งให้พนักงานสอบสวน ทำการสอบพยานเพิ่มไปเรื่อยๆ จนไม่ทราบว่าคดีจะยุติเมื่อใด จึงฝากตั้งคำถามถึงอัยการ ว่า อัยการ ทำหน้าที่เป็นทนายของแผ่นดิน แต่กลับมีคำวินิจฉัยไปในแนวทางนี้ รวมถึงตัวผู้ต้องหาเองเป็นอดีตนายตำรวจ และอดีตรัฐมนตรีช่วยฯ ย่อมรู้ขั้นตอนการสอบสวนเป็นอย่างดี แต่กลับไม่ยอมเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม ทั้งนี้ที่ผ่านมาทั้งคดีแพ่งและอาญารวม 6 คดี ญาติต้องเป็นผู้ดำเนินการยื่นฟ้องต่อศาลเอง
ขณะที่พันตำรวจเอกชาคริต สวัสดี รองผู้บังคับการกองปราบปราม ระบุว่า สำนวนการสอบสวนเพิ่มเติมในส่วนของกองปราบปราม พนักงานสอบสวนได้ส่งกลับไปให้อัยการสูงสุดเมื่อสัปดาห์ก่อน และขอให้ นางสาววันเพ็ญมั่นใจในการทำงานของตำรวจกองปราบปรามที่ทำงานอย่างเต็มที่ และขอให้มั่นใจในกระบวนการยุติธรรม.-สำนักข่าวไทย