อุ้มคนจีนเรียกค่าไถ่ย่านบางโพงพาง-มีคนไทยเป็นลูกมือ

กรุงเทพฯ 18 เม.ย. – เกิดเหตุอุ้มคนจีนเรียกค่าไถ่ย่านบางโพงพางอีก 1 คดี พบเป็นคนไทยร่วมกับคนจีน 11 คน อุ้มตัวคนจีนไปเรียกค่าไถ่ 1.8 ล้านบาท ตามจับมาได้แล้ว 3 คน


ตำรวจสืบสวนนครบาล พร้อมด้วยฝ่ายสืบสวน สน.ยานนาวา และ สน.บางโพงพาง ร่วมกันสืบสวนคดีที่ภรรยาผู้เสียหายชาวจีนได้มาแจ้งความว่า นายหวน ติ่ง ซ่วน อายุ 30 ปี ถูกกลุ่มผู้ต้องหาอุ้มตัวไปเรียกค่าไถ่ เมื่อวันที่ 16 เมษายนที่ผ่านมา

พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล เปิดเผยว่า คดีนี้เกิดเหตุที่ห้องพักแห่งหนึ่งย่านเตาปูน จากนั้นพบว่าผู้เสียหายถูกอุ้มตัวไปที่โรงแรมแห่งหนึ่งย่านสาทร และเรียกค่าไถ่เป็นเงิน 1.8 ล้านบาท ผู้เสียหายจึงไปแจ้งความที่ สน.ยานนาวา แต่เมื่อตรวจสอบพื้นที่รับผิดชอบแล้วพบว่าเป็นของพื้นที่ สน.บางโพงพาง จึงโอนคดีมาให้ฝ่ายสืบสวน สน.บางโพงพาง รับผิดชอบคดีต่อ


หลังเกิดเหตุ ตำรวจเข้าช่วยเหลือผู้เสียหายชาวจีนได้อย่างปลอดภัย และสามารถจับผู้ต้องหาได้ 3 คน มีทั้งคนไทยและคนจีน คือ นายเว่ย เหวิน เถา สัญชาติจีน นายเอกราช และนายสุรชัย จากการสืบสวนยังพบว่ามีผู้ก่อเหตุในคดีนี้รวม 11 คน หลังจากจับผู้ต้องหาได้ 3 คนแล้ว ได้รวบรวมหลักฐานขอศาลอาญากรุงเทพใต้ออกหมายจับเพิ่มอีก 3 คน ส่วนที่เหลืออยู่ระหว่างขอหมายจับเพิ่ม และตรวจสอบกล้องวงจรปิดจุดที่เกี่ยวข้องทางคดีเพิ่ม จากการสอบสวนผู้เสียหาย พบว่าก่อนเกิดเหตุ ผู้เสียหายได้ยืมเงินจาก น.ส.เซี่ยว เหลย จำนวน 1,800,000 บาท ต่อมาวันเกิดเหตุ ผู้เสียหายได้นัดเจอกับ น.ส.เซี่ยว เหลย เพื่อเจรจาเรื่องหนี้สินที่ติดค้างกัน แต่กลับถูก น.ส.เซี่ยว เหลย กับพวก พาตัวขึ้นรถและนำตัวมากักขังที่ห้องพักในโรงแรมดังกล่าว และบังคับให้ใช้หนี้ทั้งหมด ทั้งนี้ ผู้เสียหายได้โอนเงินไปแล้วประมาณ 9 แสนบาท จึงได้พิมพ์ข้อความขอความช่วยเหลือจากเพื่อน ก่อนได้รับการช่วยเหลือดังกล่าว

เบื้องต้นอยู่ระหว่างขยายผลไปถึงผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้อง เพื่อนำตัวมาดำเนินคดีเพิ่มเติม และติดตามเส้นทางการเงิน เพื่อยึดอายัดและนำกลับมาคืนให้กับผู้เสียหาย และจากการสอบสวนก็พบว่า คดีนี้เป็นคนจีนก่อเหตุอุ้มคนจีน โดยมีคนไทยเป็นลูกมือเท่านั้น และยังไม่พบข้อมูลว่าทั้งหมดเดินทางออกนอกประเทศตามด่านตรวจคนเข้าเมือง ส่วนเรื่องประวัติการเข้ามาในราชอาณาจักร หรือประวัติอาชญากรรมของทั้ง 2 ฝ่าย ต้องรอการตรวจสอบอีกครั้ง. -สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สำนักสงฆ์หูตาทิพย์

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์”

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์” พระอ้างใช้สอนวิปัสสนากรรมฐาน เบื้องต้นอายัดไว้พิสูจน์ดีเอ็นเอ พร้อมเอาผิดหัวหน้าสำนักสงฆ์ ฐานนำศพเก็บไว้ในสถานที่ที่ไม่ใช่สุสานและฌาปนสถาน

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

รัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มยูเครน

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย แถลงยืนยันว่ารัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มภาคตะวันออกยูเครนเมื่อวานนี้ ตอบโต้ที่ยูเครนใช้ขีปนาวุธที่ได้รับมอบจากสหรัฐและอังกฤษ

ข่าวแนะนำ

โค้งสุดท้าย ศึกสองนารีชิงเก้าอี้ นายก อบจ.นครฯ

เหลือไม่ถึง 2 วันแล้ว ที่ชาวนครศรีธรรมราชจะได้ออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งนายก อบจ.นครฯ ศึกนี้เป็นการสู้กันเองของพรรคร่วมรัฐบาล ฝ่ายหนึ่งต้องการรักษาฐานที่มั่นไว้ให้ได้ อีกฝ่ายต้องการเจาะฐานให้แตก เพื่อหวังครองที่นั่งการเมืองระดับชาติในสมัยหน้า

ร้อนระอุโค้งสุดท้าย ศึกชิงเก้าอี้ นายก อบจ.อุดรธานี

การเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี ครั้งนี้ดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครจาก 2 พรรคใหญ่ลงชิงชัย ต่างเร่งเครื่องเต็มที่ในโค้งสุดท้าย การเลือกตั้งจะเกิดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 24 พ.ย.นี้ ใครจะเป็นผู้คว้าชัยชนะและสร้างการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญให้จังหวัดอุดรธานี ไปติดตามจากรายงาน

ความเห็นนักวิชาการ คดีทักษิณ

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติไม่รับคำร้อง นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีและพรรคเพื่อไทย ร่วมกันกระทำการอันเป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครอง ขณะที่นักวิชาการชี้ว่าไม่ได้พลิกไปจากความคาดหมาย และผลจากคดีนี้ ไม่ทำให้เกิดจุดเปลี่ยนทางการเมือง แต่ก็ยังมีจุดเสี่ยงที่ต้องระวัง