กรุงเทพฯ 12 เม.ย. – กรมการขนส่งทางบก แนะเช่าเหมารถโดยสารสาธารณะ สำหรับการเดินทางเป็นหมู่คณะ เลือกผู้ประกอบการมีมาตรฐาน เพื่อการเดินทางที่ปลอดภัย
นายเสกสม อัครพันธุ์ รองอธิบดีกรมการขนส่งทางบก และโฆษกกรมการขนส่งทางบก เปิดเผยว่า เทศกาลสงกรานต์เป็นเทศกาลที่มีวันหยุดยาวต่อเนื่องกันหลายวัน มีประชาชนเดินทางกลับภูมิลำเนาหรือเดินทางไปพักผ่อนท่องเที่ยวตามสถานที่ต่างๆ การเช่าเหมารถโดยสารสาธารณะเป็นการเดินทางอีกรูปแบบหนึ่งที่นิยมใช้สำหรับการเดินทางเป็นหมู่คณะ เพื่อให้สามารถเดินทางไปยังสถานที่ต่างๆ ได้อย่างสะดวก ถึงที่หมายอย่างพร้อมเพรียง โดยรัฐบาลและกระทรวงคมนาคมได้กำชับให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องประชาสัมพันธ์ให้ความรู้ในการเลือกรถโดยสารเช่าเหมาที่ถูกต้อง กรมการขนส่งทางบกจึงแนะนำวิธีเลือกรถโดยสารสาธารณะเช่าเหมาสำหรับการเดินทางเป็นหมู่คณะ เพื่อให้ประชาชนมีความปลอดภัยในการเดินทาง ดังนี้
ประชาชนควรเลือกใช้บริการจากผู้ประกอบการขนส่งที่ได้มาตรฐาน รถโดยสารสาธารณะต้องจดทะเบียนอย่างถูกต้อง ผ่านการตรวจสภาพรถและภาษีถูกต้องตรงตามระยะเวลา มีการจัดทำประกันภัยตามที่กฎหมายกำหนด ควรมีการวางแผนการเดินทางอย่างเหมาะสม หลีกเลี่ยงการเดินทางในเวลากลางคืน และเลือกใช้รถที่มีความเหมาะสมกับจำนวนผู้โดยสารและสภาพเส้นทาง เช่น หากต้องเดินทางในเส้นทางที่มีความโค้งหรือลาดสูงชัน ควรใช้รถโดยสารชั้นเดียว และที่สำคัญควรเลือกใช้บริการจากผู้ประกอบการขนส่งที่ไม่มีประวัติการเกิดอุบัติเหตุร้ายแรง
ด้านผู้ประกอบการขนส่งต้องมีความรับผิดชอบ มีการตรวจสภาพความพร้อมของรถและพนักงานขับรถ ตามมาตรฐานความปลอดภัยที่กรมการขนส่งทางบกกำหนด สภาพตัวรถต้องมีความสมบูรณ์ทั้งภายในและภายนอก ระบบเบรก สภาพยางและล้อ ต้องอยู่ในสภาพสมบูรณ์พร้อมใช้งาน มีการติดตั้ง GPS Tracking และอุปกรณ์เพื่อความปลอดภัยครบถ้วน ได้แก่ การติดตั้งเข็มขัดนิรภัยครบทุกที่นั่งและสามารถใช้งานได้ ไม่มีการดัดแปลงจำนวนที่นั่ง ตำแหน่งการติดตั้งที่นั่งต้องไม่กีดขวางประตูฉุกเฉิน ถังดับเพลิง ค้อนทุบกระจก และต้องมีมาตรการในการกำกับดูแลพนักงานขับรถให้ปฏิบัติหน้าที่ด้วยความรับผิดชอบและปลอดภัย
ในส่วนของพนักงานขับรถ ต้องมีใบอนุญาตขับรถที่ถูกต้อง ก่อนออกเดินทางต้องมีการศึกษาเส้นทางล่วงหน้า พักผ่อนเพียงพอ ไม่ดื่มเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ทุกชนิดก่อนปฏิบัติหน้าที่ โดยปริมาณแอลกอฮอล์ในลมหายใจต้องเป็นศูนย์ (0 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์) ไม่เสพสารเสพติดให้โทษหรือสารที่ออกฤทธิ์ต่อจิตและประสาท ขณะปฏิบัติหน้าที่ขับรถต้องคำนึงถึงความปลอดภัยและปฏิบัติตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด ห้ามขับรถเกินชั่วโมงการทำงานตามที่กฎหมายกำหนด โดยต้องเปลี่ยนคนขับเมื่อปฏิบัติงานติดต่อกันเป็นเวลา 4 ชั่วโมง หรือหยุดพักขับรถไม่น้อยกว่าครึ่งชั่วโมงก่อนที่จะขับรถต่อไปอีกไม่เกิน 4 ชั่วโมง
รองอธิบดีกรมการขนส่งทางบก กล่าวทิ้งท้ายว่า ในขณะเดินทางผู้โดยสารต้องคาดเข็มขัดนิรภัยตลอดระยะเวลา เพื่อเป็นการป้องกันตนเองจากการบาดเจ็บรุนแรงหรืออาจถึงขั้นเสียชีวิตหากเกิดอุบัติเหตุขึ้นในระหว่างเดินทาง นอกจากนี้ผู้โดยสารควรหมั่นสังเกตพฤติกรรมและอากัปกิริยาของพนักงานขับรถ เช่น มีอาการง่วงซึม หรือมึนเมาจากสุรา สารเสพติด หรือไม่ หรือขับรถเร็วผิดปกติ ส่ายไปส่ายมา แซงซ้ายปาดขวา ไม่เคารพกฎจราจร หากพบเห็นต้องแจ้งเตือนพนักงานขับรถทันที หรือแจ้งสายด่วนกรมการขนส่งทางบก โทร.1584 เพื่อความปลอดภัยของผู้โดยสารทุกคน.-สำนักข่าวไทย