“ภูมิธรรม” ชี้ MOU 44 ถูกปั่นจนออกนอกอวกาศ

ทำเนียบฯ 28ธ.ค.-“ภูมิธรรม” ชี้ MOU 44 ถูกปั่นจนออกนอกอวกาศ ยันเป็นเพียงสนธิสัญญาตีกรอบให้เกิดการเจรจากันโดยสันติ ส่วนปมถูกร้องเรียนอย่าด่วนตัดสินจะเป็นปลายทางรัฐบาลปี 68 ปล่อยตาม กม. ลั่นหากร่วมมือแก้ปัญหาเดินหน้าต่อได้ประชาธิปไตย ไม่ได้ผูกขาดไว้ที่ใคร บอก “ทักษิณ” ช่วยเพื่อไทยหาเสียง มีทั้งดี-ลบ ทำได้กฎหมายเอื้อ

วันที่ 28 ธ.ค. นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวถึงกรณี MOU 44 ที่อาจจะส่งผลให้มวลชนบางกลุ่ม ออกมาเคลื่อนไหวในปีหน้า ว่า ตนยังยึดหลักเดิมว่าควรใช้ความอดทนอดกลั้นและความเข้าใจ MOU44 ยังไม่ได้ทำอะไรเลย ที่บ่นพูดคุยกันทั้งหมด ย้ำว่ารัฐบาลยังไม่ได้ทำอะไรเลยที่แตกต่างจากรัฐบาลในอดีตทุกยุคทุกสมัย และยังไม่มีจุดเริ่มต้นเลย ถูกปลุกขึ้นมาโดยอะไรก็ไม่รู้และกลายเป็นเรื่องใหญ่โต เราพยายามอธิบาย ก็กลายเป็นว่าเหมือนเรื่องมันเกิดแล้วเรามาแก้ตัว หรือออกมาปกป้อง


“MOU44 กรมสนธิสัญญาและกฎหมาย กระทรวงการต่างประเทศ รู้ดีที่สุด ไม่มีใครรู้เรื่องหลักกฏหมาย ระหว่างประเทศเรื่องดินแดนดีเท่ากรมสนธิสัญญาฯ นักกฏหมายระหว่างประเทศที่เชี่ยวชาญเป็นที่ยอมรับในนานาประเทศก็อยู่ที่กรมนั้น ถึงได้ให้กรมนั้นแถลงข่าว ซึ่งก็แถลงข่าวชัดเจน แต่กลับถูกจับมาเป็นประเด็น ทั้งเกาะกูดจะถูกยึด ตนไปเยี่ยมมาเขาก็อยู่กันมีความสุขดีไม่มีปัญหาอะไร และก็ยังไม่เคยมีใครมาอ้างสิทธิ์ว่าเกาะกูดเป็นของคนนั้นคนนี้ อีกทั้งตนไปเยี่ยมกองทัพเรือ ที่ดูแลเกาะกูดเขาก็ยังตั้งอยู่ในที่มั่น” นายภูมิธรรม กล่าว

นายภูมิธรรม ยังอีกระบุว่า ที่จริงแล้วตนไม่ควรจะพูด หรือตอบเรื่องนี้ เพราะไม่ใช่ภารกิจโดยตรง แต่ในช่วงนั้นปรากฏข่าวว่าจะมีการตั้งคณะกรรมการร่วมด้านเทคนิคฝ่ายไทย หรือ JTC และจะตั้งตนเองเป็นประธานสื่อก็มาถามที่ตนเองมากหน่อย ซึ่งตนเองก็พยายามที่จะอธิบาย


“มันเป็นแค่สัญญาที่ว่าอะไรที่ยังไม่สามารถตกลงกันได้ก็ให้มีสองฝ่ายมาเจรจามีเงื่อนไขสำคัญก็คือต้องเป็นเรื่องที่ประชาชนทั้งสองฝ่ายเห็นพ้องต้องกันต้องเป็นเรื่องที่รัฐสภาสองฝ่ายเห็นพ้องตกลงกัน และเป็นเรื่องที่ต้องอิงหลักกฏหมายทั่วไป สรุปได้อย่างไรเห็นพ้องต้องกันก็มาสรุปว่ามีอะไรที่เห็นต่างในเรื่องใดบ้าง อีกทั้งก็เป็นเรื่องที่ยังไม่เกิดขึ้น เป็นเพียงสนธิสัญญาที่ตีกรอบให้เกิดการเจรจากันโดยสันติ แต่ว่าก็ปั่นกันไปจนไกลมากจนจะออกนอกอวกาศอยู่แล้ว ซึ่งตนคิดว่าไม่ใช่ประเด็น และขณะนี้ ที่ช้าก็เพราะว่ามีการรับฟังความเห็น“ นายภูมิธรรม ระบุ

นายภูมิธรรม ยังกล่าวว่า เช่นเดียวกับกรณีของดิจิตอลทัลวอลเล็ต ที่รัฐบาลมีการรับฟังความคิดเห็น จึงทำให้โครงการมีความล่าช้าไปเยอะ การจ่ายเงิน 100% ที่จริงไม่ใช่วิถีที่เราอยากจะทำ เพราะการกระตุ้นเศรษฐกิจต้องอาศัยความร่วมมือจากคนไทยทุกคนได้ร่วมมือกันกระตุ้น หัวใจสำคัญอีกอย่างหนึ่งของเรื่องนี้คืออยากให้ทุกคนมีประสบการณ์ที่จะก้าวเข้าสู่สังคม สังคมเศรษฐกิจดิจิทัล เดี๋ยวนี้เขาเป็นอย่างนี้กันหมดแล้วไม่ถือเงินสด เช่นสิงคโปร์เวียดนาม ฮ่องกง เงินสดแทบไม่ต้องใช้แม้กระทั่งค้าที่ขายของข้างทาง ยังจ่ายเงินผ่านระบบออนไลน์ ซึ่งมองว่าต้องมีประสบการณ์ต้องเรียนรู้และการจะใช้ดิจิทัลวอลเล็ต ผ่านกลไกทางดิจิทัลคือการเรียนรู้ของคนครั้งใหญ่จากประสบการณ์ที่จะใช้ตรงนี้เป็นเครื่องมือในการกระตุ้นเศรษฐกิจ

”ปัญหาที่เราต้องทำ ไม่ใช่เพราะอยากแจกเงิน แต่ต้องทำเพื่อเพิ่มกำลังซื้อให้มีศักยภาพเพราะกำลังซื้อกำลังขาดแคลนทำให้หน่วยการผลิตต่างๆหยุดหมดเพราะฉะนั้นกลไกเศรษฐกิจไม่มีจะมีเฉพาะการลงทุนภาครัฐเท่านั้นที่มากระตุ้นเศรษฐกิจขนาดนี้ ส่วนการท่องเที่ยวก็เจอปัญหาที่ติดขัดแต่ตอนนี้ก็ดีขึ้นเยอะ ดังนั้นขณะนี้เรากำลังเพิ่มกระตุ้นเศรษฐกิจ โดยเพิ่มกำลังซื้อทั้งในประเทศและต่างประเทศด้วยการดึงการลงทุนเข้ามา“ นายภูมิธรรม ระบุ


ส่วนคดีความต่างๆ ที่โดนร้องเรียนอยู่ในขณะนี้ ปลายทางจะสิ้นสุดในปี 2568 มองว่าจะทำให้รัฐบาลนี้อายุสั้นหรือไม่ นายภูมิธรรม ระบุว่า ยังไม่ทันทำอะไรเลยหรอคิดว่ารัฐบาลนี้ผิดแล้วหรือ สิ่งที่ร้องเรียนมาไม่มีความผิดก็เยอะ ตนมองว่าอย่าด่วนตัดสินใจและไปประเมินบนฐานที่ไม่ใช่ข้อเท็จจริง ต้องให้กระบวนการยุติธรรมเดินหน้าไป และถึงแม้ว่าจะผิดหรือไม่นั้นก็มีทางทางออก สมมุติ หากมีกระบวนการที่นายเศรษฐา ทวีสิน อดีตนายกรัฐมนตรีได้เผชิญ กลไกของรัฐธรรมนูญและประชาธิปไตยก็ยังทำงานได้ ซึ่งในส่วนของพรรคเพื่อไทย ยังมีแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี ในบัญชีรายคนที่ 3 ถ้าหากเราโชคร้ายและเกิดกระบวนที่มีปัญหา แต่หากมองว่าคนที่ 3 ไม่เหมาะสม พรรคการเมืองต่อไป คนที่ 1-2 ก็ยังทำหน้าที่ต่อไปได้ ทั้งนี้กระบวนการประชาธิปไตยเราไม่ใช่เจ้าของสิทธิ์ เราเป็นเพียงเจ้าของสิทธิ์เพียงคน 3 คน ที่จะเป็นนายกรัฐมนตรี ทั้งนี้หากความร่วมมือในการแก้ปัญหายังไม่มีความขัดแย้งก็สามารถเดินต่อได้ เพราะประชาธิปไตยไม่ได้ผูกขาดไว้ที่ใคร

ส่วนกรณีนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ออกมาเดินคู่ขนานช่วยพรรคเพื่อไทยหาเสียงเลือกตั้ง มองว่าในอนาคตอย่างไรบ้าง นายภูมิธรรมระบุว่า ปฎิเสธไม่ได้ว่านายทักษิณ มีความห่วงใย มีใจเชียร์ให้กับพรรคเพื่อไทยประสบความสำเร็จ การที่เคยเป็นบุคคลก่อตั้งพรรคไทยรักไทยและพัฒนาการมาเป็นพรรคเพื่อไทย ก็ปฏิเสธไม่ได้เช่นกันว่าความสัมพันธ์ของคนในองค์กรรู้สึกดีต่อกัน หรือแม้กระทั่งประชาชนที่อยู่ข้างนอกยังชื่นชม ในวิธีการจัดการปัญหาของนายทักษิณ ไม่น้อย ฉะนั้นถ้ากฎหมายเปิดให้ มามีบทบาทหรือช่วยเหลือพรรคได้ ก็ถือว่าเป็นไปตามกระบวนการ แต่ถ้ากฎหมายไม่เปิดโอกาสก็ไม่สามารถมาร่วมได้ วันนี้ไม่ใช่เพียงแค่พรรคเพื่อไทยแต่พรรคประชาชน ก็ยังมีนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ นายปิยะบุตร แสงกนกกุล ก็เข้ามามีส่วนร่วมด้วย จึงอยากกราบเรียนว่าการเข้ามาของนายทักษิณสามารถเข้ามาช่วยได้ในฐานะที่เป็นประชาชนคนหนึ่งตามกรอบกฎหมายที่อนุญาต และย้ำว่าการที่นายทักษิณ เข้ามาช่วยมีทั้งด้านบวก คนที่ศรัทธาเห็นชอบนิยมก็พร้อมที่จะสนับสนุนในสิ่งที่เขาสนับสนุนด้วย แต่ด้านลบ หากไม่ชอบ ก็จะมีการคัดค้านซึ่งถือเป็นเรื่องธรรมดาอยู่แล้ว อย่าไปมองเกินไปว่าจะเกิดความไม่ดีไม่งามเกินไป.-316.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ชูความสำเร็จทีมไทยแลนด์ ปิดดีลภาษีสหรัฐที่ 19%

ทำเนียบ 1 ส.ค.-โฆษกรัฐบาล เผย ปิดดีลภาษีนำเข้าสหรัฐสำเร็จที่ 19% เกาะกลุ่มระดับใกล้เคียงกับประเทศในภูมิภาค ชู เป็นอีกหนึ่งความสำเร็จสำคัญของทีมไทยแลนด์ ในแนวทาง Win-Win นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า รัฐบาลไทยสามารถเจรจาและบรรลุข้อตกลงเกี่ยวกับอัตราภาษีนำเข้าต่างตอบแทน (Reciprocal Tariffs) กับสหรัฐอเมริกาได้สำเร็จ โดยขณะนี้ รัฐบาลสหรัฐได้ประกาศแล้วว่าจะเรียกเก็บอัตราภาษีนำเข้าฯ จากสินค้าของไทยในอัตรา 19 % ซึ่งข้อตกลงดังกล่าวจะมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันนี้วันที่ 1 สิงหาคม 2568 เป็นต้นไป นายจิรายุ กล่าวว่า อัตราภาษีดังกล่าวที่ ต่ำกว่า อัตราเดิม 36 % และเกาะอยู่อยู่ในระดับใกล้เคียงกับประเทศในภูมิภาค อาทิ เวียดนาม ฟิลิปปินส์ และญี่ปุ่น สามารถรักษาการแข่งขันได้ เมื่อเทียบกับประเทศอื่นในภูมิภาคอาเซียน ซึ่งได้เจรจากับสหรัฐสำเร็จแล้วก่อนหน้านี้ “การปิดดีลครั้งนี้ของรัฐบาลไทย ในระดับภาษีนำเข้าฯ ไว้ที่ 19% ถือเป็นอีกหนึ่งความสำเร็จสำคัญของทีมไทยแลนด์ ในแนวทาง Win-Win เพื่อรักษาฐานการส่งออกและเสถียรภาพทางเศรษฐกิจของประเทศในระยะยาว ย้ำถึงศักยภาพของประเทศไทยในเวทีการค้าโลก ท่ามกลางความเปลี่ยนแปลงในนโยบายการค้าระหว่างประเทศ” นายจิรายุกล่าว […]

รพ.สรรพสิทธิประสงค์ แจ้งยกเลิกรับผู้ป่วยกัมพูชาชั่วคราว

อุบลราชธานี 31 ก.ค. – โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ จังหวัดอุบลราชธานี ออกหนังสือขอยกเลิกการให้บริการผู้ป่วยชาวกัมพูชา และยกเลิกการปฏิบัติงานชั่วคราวของผู้ช่วยสื่อสารภาษากัมพูชา เนื่องจากสถานการณ์ความไม่สงบแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ซึ่งส่งผลต่อความมั่นคงของประเทศ เมื่อวานนี้ (30 ก.ค.) พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 ลงพื้นที่เยี่ยมให้กำลังใจผู้ได้รับบาดเจ็บจากสถานการณ์ความไม่สงบในพื้นที่ชายแดนไทย-กัมพูชา พร้อมทั้งให้กำลังใจแก่เจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติ งานด้านการแพทย์และพยาบาล ณ โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ จังหวัดอุบลราชธานี นายแพทย์ มนต์ชัย วิวัฒนาสิทธิพงศ์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ พร้อมด้วยคณะผู้บริหาร ให้การต้อนรับและรายงานความคืบหน้าการดูแลรักษาผู้ได้รับบาดเจ็บ รวมถึงการเตรียมความพร้อมด้านการรักษาพยาบาลรองรับสถานการณ์ฉุกเฉินในพื้นที่ชายแดน รพ.สรรพสิทธิประสงค์ แจ้งยกเลิกรับผู้ป่วยกัมพูชาชั่วคราวขณะที่ในวันเดียวกัน โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ ได้ออกเอกสารขอยกเลิกการให้บริการผู้ป่วยชาวกัมพูชา และยกเลิกการปฏิบัติงานชั่วคราวของผู้ช่วยสื่อสารภาษากัมพูชา ใจความในหนังสือว่า “โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ได้ให้การตรวจรักษาพยาบาลแก่ผู้ป่วยทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ รวมถึงผู้ป่วยชาวกัมพูชาที่เดินทางเข้ามารักษาอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากสถานการณ์ความไม่สงบแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ซึ่งส่งผลต่อความมั่นคงของประเทศ และจากมติที่ประชุมคณะกรรมการคลินิกพิเศษนอกเวลาราชการ โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ มีมติดังนี้ 1.ยกเลิกการปฏิบัติงานชั่วคราวของผู้ช่วยสื่อสารภาษากัมพูชา และจิตอาสาภาษาต่างประเทศ2.ปิดการให้บริการ SMC Premium ชั่วคราว3.ยกเลิกการรับยาแทน และงดรับเคสใหม่ผู้ป่วยชาวกัมพูชา4.ผู้ป่วยชาวกัมพูชาที่ยังนอนอยู่ในโรงพยาบาลให้จำกัดพื้นที่ชัดเจน ในการนี้ให้มีผลตั้งแต่วันที่ 31 กรกฎาคม 2568 ถึงวันที่ 10 […]

รมช.มท. โฟนอินผู้ว่าฯ อุบลฯ ตอบกลางสภา ยันไม่มีปัญหาเบิกจ่ายงบ

รัฐสภา 31 ก.ค.-สส.ศรีสะเกษ ภูมิใจไทย ทวงถามเงินช่วยเหลือเยียวยาจังหวัดชายแดนไทย-กัมพูชา ชี้ตั้งแต่วันแรกยังไม่ได้เงินรัฐบาลสักบาท ซัด “ผู้ว่าฯ อุบล” อ้างกลัวติดคุกไม่กล้าเบิกงบ ด้าน รมช.มหาดไทย ต่อสายโฟนอิน ผู้ว่าฯ ตอบกลางสภา ยืนยันไม่มีปัญหาเบิกจ่ายงบ ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ที่มีนายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎร ทำหน้าที่ประธานการประชุม พิจารณากระทู้ถามสดด้วยวาจา โดยนายธนา กิจไพบูลย์ชัย สส.ศรีสะเกษ พรรคภูมิใจไทย สอบถามกรณีเหตุปะทะชายแดนไทย-กัมพูชา ซึ่งนายกรัฐมนตรี มอบหมาย นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรมว.มหาดไทย เป็นผู้ตอบกระทู้ แต่เนื่องจากนายภูมิธรรม ติดภารกิจจึงมอบหมายให้ น.ส.ธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ รมช.มหาดไทย ชี้แจงแทน นายธนา กล่าวว่า จากเหตุปะทะบริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา ส่งผลกระทบต่อประชาชนในพื้นที่ 4 จังหวัดชายแดน ทั้งศรีสะเกษ สุรินทร์ บุรีรัมย์ และอุบลราชธานี ตั้งแต่เกิดเหตุจนถึงขณะนี้ ยังไม่มีงบประมาณจากส่วนกลางลงพื้นที่แม้แต่บาทเดียว ทุกวันนี้เราอาศัยเงินบริจาคเป็นหลัก และนำงบขององค์การปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) […]

ทูตไทยตอบโต้กัมพูชา หลังยกกรณีปัญหาชายแดนที่ยูเอ็น

นิวยอร์ก 31 ก.ค. – เอกอัครราชทูตผู้แทนถาวรไทยประจำองค์การสหประชาชาติ โต้ผู้แทนกัมพูชา ซึ่งหยิบประเด็นชายแดนไทย-กัมพูชา ขึ้นพูดผิดกาลเทศะ ผิดวาระ ในที่ประชุมสหประชาชาติ วาระสำคัญของการประชุมระดับสูงระหว่างประเทศในเวทีสหประชาชาติ ที่นครนิวยอร์ก ประเทศสหรัฐ เมื่อวานนี้ คือการผลักดันเพื่อระงับข้อพิพาทปัญหาปาเลสไตน์โดยสันติวิธี แต่ปรากฏว่านาย เจีย แก้ว เอกอัครราชทูตกัมพูชาประจำสหประชาชาติ กลับพูดในประเด็นที่ไม่เกี่ยวข้องกับวาระการประชุม โดยพาดพิงถึงไทยเกี่ยวกับสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา นายเชิดชาย ใช้ไววิทย์ เอกอัครราชทูต ผู้แทนถาวรไทยประจำสหประชาชาติ จึงกล่าวตอบโต้โดยชี้แจงข้อมูลความจริงในประเด็นที่กัมพูชาละเมิดข้อตกลงหยุดยิง โดยระบุว่า เป็นที่น่าเสียดายที่มีคณะผู้แทนหยิบยกประเด็นที่ไม่เกี่ยวข้องขึ้นมาในที่ประชุม ซึ่งเป็นเวทีที่หลายฝ่ายรอคอย และมีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมการสนับสนุนจากประชาคมระหว่างประเทศต่อการแก้ไขปัญหาความขัดแย้งระหว่างอิสราเอลและปาเลสไตน์อย่างเป็นธรรม ถาวร และครอบคลุม ผ่านแนวทางสันติวิธีโดยการดำเนินการตามแนวทางสองรัฐ นายเชิดชาย กล่าวในที่ประชุมว่า ประเทศไทยไม่ได้มีเจตนาจะนำเรื่องทวิภาคีเข้าสู่เวทีสำคัญดังกล่าว แต่ต้องขอชี้แจงข้อเท็จจริงเพื่อป้องกันความเข้าใจผิด โดยย้ำว่าเมื่อวันที่ 28 กรกฎาคม 2568 ไทยและกัมพูชา ได้บรรลุข้อตกลงหยุดยิง โดยได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดีจากนายกรัฐมนตรีมาเลเซีย ในฐานะประธานอาเซียน แต่หลังจากที่ข้อตกลงหยุดยิงมีผลบังคับใช้ในวันที่ 29 กรกฎาคม อีกฝ่ายกลับใช้อาวุธข้ามพรมแดน และบุกรุกเข้ามาในดินแดนของไทยอีกครั้ง ซึ่งถือเป็นการละเมิดข้อตกลงอย่างร้ายแรง ประเทศไทยจึงขอเรียกร้องให้ประเทศเพื่อนบ้านปฏิบัติตามข้อตกลงหยุดยิงอย่างเคร่งครัด และยืนยันความมุ่งมั่นของไทยที่จะใช้กลไกทวิภาคีที่มีอยู่ในการแก้ไขปัญหา หลีกเลี่ยงการเผยแพร่ข้อมูลที่เป็นเท็จหรือทำให้เข้าใจผิด และให้มีส่วนร่วมด้วยเจตนาดี.-810.-813.-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

มทภ.2 ยันไม่เคยสั่งกำลังพลไปเก็บศพเขมร อย่าเชื่อข่าวปลอม

5 ส.ค. – แม่ทัพภาคที่ 2 ยืนยันไม่เคยมีคำสั่งให้กำลังพลไปเก็บศพชาวกัมพูชา บริเวณชายแดน ขออย่าหลงเชื่อข่าวปลอม เมื่อวันที่ 5 ส.ค.68 พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 เปิดเผยว่า จากกรณีที่สื่อโซเชียลมีเดียได้ลงข้อความอันเป็นเท็จ ที่ทำให้พี่น้องประชาชนเข้าใจผิดว่า แม่ทัพภาคที่ 2 ได้สั่งให้กำลังพลไปเก็บศพชาวกัมพูชาที่อยู่บริเวณชายแดนนั้น ตนยืนยันว่าไม่เป็นความจริง และไม่เคยมีคำสั่งให้กำลังพลไปปฏิบัติอย่างนั้น ผู้เสียชีวิตนั้นเป็นชาวกัมพูชา ไม่ได้เกี่ยวอะไรกับทางประเทศไทย “ผมไม่เคยมีคำสั่งแบบนี้ และขอยืนยันว่า ข่าวที่ออกมานั้นเป็นข่าวปลอม ขอให้พี่น้องประชาชนอย่าได้หลงเชื่อ“ แม่ทัพภาคที่ 2 กล่าว.-313-สำนักข่าวไทย

ทหารไทยยอมรับได้กลิ่นศพทหารกัมพูชาจริง

ศรีสะเกษ 5 ส.ค. – วันนี้ยังมีการเก็บกู้ระเบิดที่กัมพูชายิงเข้ามาในพื้นที่พลเรือนฝั่งไทย ส่วนเมื่อคืนนี้ (4 ส.ค.) เป็นคืนแรกของการประชุม GBC ชุด ชรบ.หมู่บ้านแนวชายแดน อ.กันทรลักษ์ จึงออกตรวจตราเข้มข้น ขณะที่ทหารแนวหน้ายอมรับได้กลิ่นศพทหารกัมพูชาจริง ทีมข่าวมีโอกาสได้พูดคุยกับทหารที่ปฏิบัติหน้าที่ตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา สอบถามถึงเรื่องที่กำลังเป็นประเด็น คือกลิ่นศพของทหารกัมพูชา ทหารยอมรับว่ามีกลิ่นจริง และมีศพทหารกัมพูชาถูกทิ้งไว้จริง แต่ไม่สามารถทำอะไรได้ เพราะอยู่ในระหว่างการปฏิบัติหน้าที่ หากมีหน้ากากอนามัยเชื่อว่าจะช่วยบรรเทาได้บ้าง อย่างไรก็ตาม ขณะนี้มีหน้ากาก N95 ส่งถึงพื้นที่บ้างแล้ว พร้อมขอบคุณพี่น้องประชาชนที่ส่งกำลังใจ ทหารยังพร้อมปฏิบัติหน้าที่อย่างเต็มกำลังความสามารถ วันนี้ทีมข่าวยังเกาะติดภารกิจเก็บกู้ระเบิดที่กัมพูชายิงใส่พื้นที่พลเรือนของไทยใน อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ จุดแรก จรวด BM-21 ถูกกัมพูชายิงตกใส่ลงทุ่งนาของชาวบ้าน พื้นที่ ต.ทุ่งใหญ่ เมื่อวันที่ 24 กรกฎาคม วันเดียวกับที่ยิงใส่ปั๊ม ปตท.บ้านผือ โดยห่างกันราว 1 กิโลเมตร ส่วนอีกจุดเป็นการทำลายลูกจรวด PG-7 ที่ถูกยิงจากเครื่องยิงจรวด RPG ตกลงในสวนยางพาราของชาวบ้าน ต.เสาธงชัย อ.กันทรลักษ์ ที่ถูกพบในสภาพพร้อมทำงาน จุดนี้อยู่ห่างจากชายแดนกัมพูชาเพียง […]

เปิดศักยภาพ Gripen เขี้ยวเล็บใหม่กองทัพอากาศไทย

5 ส.ค. – เปิดคุณสมบัติโดดเด่นของ “กริพเพน” เครื่องบินรบฝูงใหม่ ซึ่งกองทัพอากาศและประเทศไทยกำลังจะทำสัญญาจัดซื้อจากสวีเดน .-สำนักข่าวไทย

มทภ.2 ขึ้นภูมะเขือ ย้ำกำลังพลไม่ประมาท นำร้องเพลงชาติไทย

5 ส.ค.- แม่ทัพภาค 2 ตรวจเยี่ยมภูมะเขือ ย้ำกำลังพลไม่ประมาท ปกป้องอธิปไตย พร้อมร่วมร้องเพลงชาติ เมื่อเวลา 17.00 น. วันที่ 5 ส.ค.68 พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 ลงพื้นที่หน่วยเฉพาะกิจที่ 1 กองกำลังสุรนารี พื้นที่ภูมะเขือ อำเภอกันทรลักษ์ จังหวัดศรีสะเกษ โดยได้ทำการเดินลาดตระเวน ตรวจเยี่ยมให้กำลังใจกำลังพลที่วางกำลังฐานปฏิบัติการ ทั้งนี้ มีพระสงฆ์จำนวน 3 รูปจากวัดใกล้เคียง มารอแม่ทัพภาคที่ 2 เพื่อมอบวัตถุมงคลและให้กำลังใจในการปฏิบัติหน้าที่ พร้อมให้พรกำลังพลทุกนาย ให้แคล้วคลาดปลอดภัยจากอันตรายต่างๆ จากนั้นแม่ทัพภาคที่ 2 ได้ฟังบรรยายสรุปสถานการณ์ในพื้นที่ภูมะเขือ โดยเน้นย้ำให้อยู่ในความไม่ประมาท ปฏิบัติหน้าที่รักษาอธิปไตยของชาติ ด้วยความปลอดภัยและให้ดูแลรักษาสุขภาพให้ดี จากนั้น พล.ท.บุญสิน ได้ให้กำลังพลเปลี่ยนธงชาติไทยผืนใหญ่กว่าเดิม นำร้องเพลงชาติบนยอดภูมะเขือร่วมกัน ก่อนเดินทางกลับได้มอบเครื่องอุปโภคบริโภคและถ่ายรูปร่วมกับกำลังพล -สำนักข่าวไทย