“รถบัสเช่าเหมา” 21 ที่นั่งขึ้นไป ต้องมีผู้บริการประจำรถอย่างน้อย 1 คน เริ่ม 10 ธ.ค.นี้

กรุงเทพ 9 ธ.ค. – คณะกรรมการควบคุมการขนส่งทางบกกลางมีมติกำหนดให้รถบัสเช่าเหมาสำหรับบริการนักเรียนและผู้สูงอายุ ขนาด 21 ที่นั่งขึ้นไป จะต้องมีผู้บริการประจำรถอย่างน้อย 1 คน มีผลตั้งแต่ 10 ธ.ค.67 เป็นต้นไป


นายเสกสม อัครพันธุ์ รองอธิบดีกรมการขนส่งทางบก และโฆษกกรมการขนส่งทางบก เปิดเผยว่า การเดินทางด้วยรถโดยสารไม่ประจำทาง (รถเช่าเหมา) ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก ไม่ว่าจะเป็นสถานศึกษาต่าง ๆ ที่มีการพานักเรียนไปทัศนศึกษาหรือทำกิจกรรมอื่นนอกสถานศึกษาเป็นครั้งคราว รวมถึงหน่วยงานที่จัดกิจกรรมพาผู้สูงอายุที่อาศัยอยู่ในที่พักออกนอกสถานที่ เนื่องจากรถโดยสารดังกล่าวมีขนาดและประเภทรถให้เลือกตามความเหมาะสมกับการเดินทาง กรมการขนส่งทางบกในฐานะหน่วยงานที่มีหน้าที่กำกับ ดูแล การขนส่งทางถนนให้มีความปลอดภัย เล็งเห็นว่าการเดินทางด้วยรถโดยสารไม่ประจำทาง เพื่อไปทัศนศึกษาหรือทำกิจกรรมนอกสถานศึกษาของนักเรียนและผู้สูงอายุที่เป็นหมู่คณะ มีความจำเป็นต้องจัดให้มีผู้ดูแลเพื่อให้การช่วยเหลือและอำนวยความสะดวกให้แก่ผู้โดยสารกลุ่มดังกล่าวตลอดการเดินทาง รวมทั้งให้คำแนะนำเกี่ยวกับการใช้อุปกรณ์เพื่อความปลอดภัยภายในรถโดยสารก่อนออกเดินทางทุกครั้ง เพื่อให้ผู้โดยสารสามารถเผชิญเหตุได้เมื่อเกิดเหตุฉุกเฉินและช่วยลดความสูญเสีย

โดยกรมการขนส่งทางบกได้นำเรื่องนี้เสนอคณะกรรมการควบคุมการขนส่งทางบกกลางกำหนดให้มีผู้ประจำรถสำหรับรถโดยสารไม่ประจำทางที่มีจำนวนที่นั่งตั้งแต่ 21 ที่นั่งขึ้นไป ที่นำไปให้บริการนักเรียนและผู้สูงอายุโดยคณะกรรมการควบคุมการขนส่งทางบกกลาง ในการประชุมครั้งที่ 5/2567 เมื่อวันที่ 11 พฤศจิกายน 2567ได้มีมติอนุมัติให้ปรับปรุงหลักเกณฑ์การกำหนดเงื่อนไขเกี่ยวกับจำนวนผู้ประจำรถสำหรับการขนส่งไม่ประจำทางด้วยรถที่ใช้ในการขนส่งผู้โดยสาร เพื่อให้มีความปลอดภัยมากยิ่งขึ้น และออกประกาศฯ เรื่อง กำหนดและปรับปรุงเงื่อนไขในใบอนุญาตประกอบขนส่งไม่ประจำทางด้วยรถที่ใช้ในการขนส่งผู้โดยสาร ตามมาตรา 32 แห่งพระราชบัญญัติการขนส่งทางบก พ.ศ.2522 เพื่อกำหนดให้ผู้ประกอบการขนส่งไม่ประจำทางด้วยรถโดยสารต้องจัดให้มีผู้ประจำรถ ได้แก่ ผู้บริการ อย่างน้อย 1 คน สำหรับรถโดยสารไม่ประจำทางที่มีจำนวนที่นั่งตั้งแต่ 21 ที่นั่งขึ้นไป ในกรณีให้บริการรถโดยสารไม่ประจำทางสำหรับนักเรียนไปทัศนศึกษาหรือทำกิจกรรมอื่นนอกสถานศึกษาเป็นครั้งคราว ที่ไม่ใช่การรับส่งจากที่พักอาศัยไปยังสถานศึกษา รวมถึงการให้บริการรถโดยสารไม่ประจำทางสำหรับผู้สูงอายุที่อาศัยอยู่ในที่พักที่หน่วยงานจัดขึ้น เช่น ศูนย์พัฒนาการจัดสวัสดิการสังคมผู้สูงอายุ สถานสงเคราะห์หรือสถานประกอบกิจการการดูแลผู้สูงอายุที่ได้รับอนุญาตจากกระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ หรือได้รับอนุญาตจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง กรณีไปทัศนศึกษาหรือทำกิจกรรมอื่นนอกที่พักอาศัยดังกล่าวเป็นครั้งคราว


ทั้งนี้ กรมการขนส่งทางบกกำชับให้ผู้ประกอบการขนส่งปฏิบัติตามประกาศฯ ดังกล่าวอย่างเคร่งครัด ซึ่งจะมีผลบังคับใช้ตั้งแต่ วันที่ 10 ธันวาคม 2567 เป็นต้นไป.-513-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“ทรัมป์” เดินทางถึงกรุงวอชิงตัน เตรียมเข้าพิธีสาบานตนรับตำแหน่ง

นายโดนัลด์ ทรัมป์ ว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐ เดินทางถึงสนามบินในกรุงวอชิงตันแล้วในวันเสาร์ตามเวลาท้องถิ้น เพื่อเตรียมตัวเข้าพิธีสาบานตน

พ่อหวั่นไม่ได้รับความเป็นธรรม ลูกชายคนเล็กถูก “ติ๊ก ชีโร” ขับรถชน

พ่อหวั่นไม่ได้รับความเป็นธรรม หลังสูญเสียลูก 2 คน ถูก “ติ๊ก ชีโร” ขับรถชนตกสะพาน ย่านสายไหม กรุงเทพฯ เหตุเกิดเมื่อ 10 ต.ค.67

รถน้ำมันระเบิดไนจีเรียหลังพลิกคว่ำ เสียชีวิต 77 ราย

รถบรรทุกน้ำมันระเบิดหลังจากพลิกคว่ำในพื้นที่ภาคเหนือของประเทศไนจีเรีย คร่าชีวิตชาวบ้านอย่างน้อย 77 คนที่กำลังเอาถังมารองน้ำมันที่รั่วไหลจากรถบรรทุก

ข่าวแนะนำ

นายกฯ ร่วมประชุม World Economic Forum ดึงดูดการลงทุนจากต่างประเทศ

นายกรัฐมนตรีมีกำหนดเข้าร่วมการประชุม World Economic Forum ประจำปี 2568 เพื่อดึงดูดการลงทุนจากต่างประเทศ และตอกย้ำให้นักลงทุนและภาคเอกชนเชื่อมั่นใน “โอกาสของประเทศไทย” ตามแคมเปญ “2568 โอกาสไทย ทำได้จริง”

วันแรก กทม.ขอประชาชน Work From Home

หลังวันแรก กทม. ขอความร่วมมือประชาชน Work From Home พบว่าการจราจรบางจุดคล่องตัว รถลดลง แต่หลายจุดรถยังหนาแน่น โดยการประกาศขอความร่วมมือของ กทม. หลังค่าฝุ่น PM 2.5 ตลอดสัปดาห์เป็นสีส้ม ได้รับความร่วมมือจากหน่วยงานภาคส่วนต่างๆ จำนวนมาก

ยื่นดีเอสไอรับคดีแตงโมเป็นคดีพิเศษ ขีดเส้น 1 เดือน

“อาจารย์ปานเทพ-บอสณวัฒน์” พาตัวแทนมิสแกรนด์ 2025 ทั้ง 77 จังหวัด ยื่นดีเอสไอขอรับคดีแตงโมตกเรือเป็นคดีพิเศษ ขีดเส้น 1 เดือน

คนร้ายอุกอาจยิงระเบิด M79 ใส่ สภ.กะพ้อ จ.ปัตตานี 2 ลูก

คนร้ายอุกอาจยิงระเบิด M79 ใส่ สภ.กะพ้อ จ.ปัตตานี จำนวน 2 ลูก โชคดีไม่มีใครได้รับบาดเจ็บ ด้าน รอง ผบก.ภ.จว.ปัตตานี กำชับเจ้าหน้าที่เร่งรวบรวมพยานหลักฐานและตรวจสอบกล้องวงจรปิด พร้อมวางมาตรการคุมเข้มในพื้นที่