กทม. 7 เม.ย.-‘ชูวิทย์’ ควงทนายอนันตชัย ฟ้อง ‘ทนายตั้ม’ หมิ่นประมาท ตั้งโต๊ะแถลงข่าวใส่ร้าย ‘ชูวิทย์’ รับเงินจากบ่อนเว็บพนันออนไลน์ จำนวน 10 ล้านบาท ไม่ใช่ 6 ล้านบาท เพื่อเป็นค่าปิดปากหยุดแฉบ่อนเว็บพนันออนไลน์ พร้อมเรียกค่าเสียหาย 100 ล้านบาท
นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ อดีตนักการเมือง และนักธุรกิจกลางคืน พร้อมนายอนันต์ชัย ไชยเดช ทนายความ ได้เดินทางมาที่ศาลอาญา รัชดาภิเษก เมื่อช่วงเช้าวันนี้ (7 เม.ย.) เพื่อยื่นฟ้องนายษิทรา เบี้ยบังเกิด หรือทนายตั๊ม ในข้อหา “หมิ่นประมาทโดยการโฆษณา” พร้อมทั้งเรียกค่าเสียหาย 100 ล้านบาท จากกรณีที่ทนายตั้ม ได้แถลงข่าวต่อสื่อมวลชน ว่า ชูวิทย์ได้รับเงินจากบ่อนเว็บพนันออนไลน์ จำนวน 10 ล้านบาท ไม่ใช่ 6 ล้านบาท เพื่อเป็นค่าปิดปากหยุดแฉบ่อนเว็บพนันออนไลน์ แล้วนำเอาเงินจำนวนนั้นไปทำบุญ รวมถึงกล่าวหาว่าลูกชายของนายชูวิทย์ ได้รับเงินสกุลดิจิทัลจากบ่อนเว็บพนันออนไลน์ จำนวน 50 ล้านบาท และกล่าวหาว่านายชูวิทย์ เรียกรับเงินจากสารวัตรซัว และบ่อนเว็บพนันออนไลน์
ก่อนขึ้นศาลนายอนันต์ชัย กล่าวว่า เมื่อวันที่ 23-27 มีนาคม ที่ผ่านมา ทนายตั้ม ได้แถลงข่าวต่อผู้สื่อข่าวหลายสำนัก เพื่อนำคำสัมภาษณ์ดังกล่าวไปเผยแพร่ให้ประชาชนทราบ ต่อมาในห้วงวันที่ 24-27 มีนาคม ทนายตั้ม ก็ได้แถลงข่าวกล่าวหาว่านายชูวิทย์ เป็นโจรโรบินฮู้ด หมายถึง เป็นโจรปล้นเงินคนรวยมาให้คนจน โดยการเรียกรับเงินจากบ่อนเว็บพนันออนไลน์ดังกล่าวแล้วแสร้งเอาเงินที่ได้มาทำบุญบริจาค และกล่าวหาว่า ลูกชายของนายชูวิทย์พานายแทนไทมาที่โรงแรมเดอะเดวิส ในวันตรุษจีน แล้วนายชูวิทย์ เรียกรับเงินจากนายแทนไท เพื่อไม่ให้เปิดเผยเรื่องบ่อนเว็บพนันออนไลน์ของนายแทนไท ซึ่งเป็นความเท็จ
ความจริงก็คือ นายชูวิทย์ ได้รับเงินจากอดีตนายตำรวจท่านหนึ่ง จำนวน 6 ล้านบาท ไม่ใช่ 10 ล้านบาท เพื่อมอบให้นายชูวิทย์ นำไปทำบุญ หรือบริจาค ส่วนลูกชายของนายชูวิทย์ ก็ไม่เคยได้รับเงินดิจิตอล จำนวน 50 ล้านบาท และนายชูวิทย์ ก็ไม่เคยเรียกเงินจากบ่อนเว็บพนันออนไลน์ หรืออาบอบนวด และไม่เคยนำเงินจากเว็บพนันออนไลน์ไปทำบุญ ซึ่งเงินทำบุญเป็นเงินจากกิจการของนายชูวิทย์ เอง และนายชูวิทย์ ก็ไม่ใช่โรบินฮู้ด หรือโจรที่เรียกรับเงินจากเว็บพนันออนไลน์แล้วนำเงินไปทำบุญด้วย
การกระทำของทนายตั้ม ทำให้นายชูวิทย์ เสียชื่อเสียง ซึ่งขัดต่อความเป็นจริง จึงขอเรียกค่าเสียหาย 100 ล้านบาท ฐานหมิ่นประมาทโดยการโฆษณา และให้ลงโฆษณาคำพิพากษา คำขอโทษต่อสื่อมวลชน โดยให้ทนายตั้ม เป็นผู้เสียค่าใช้จ่ายเอง เป็นเวลา 7 วัน ผ่านสื่อรวม 45 สื่อ นอกจากนี้ การ กระทำของทนายตั้ม ยังเป็นการกระทำผิดมรรยาททนายความอีกด้วย โดย ในวันจันทร์ที่ 10 เมษายนนี้ นายชูวิทย์ก็จะเดินทางไปยื่นที่สภาทนายความเพื่อขอให้ลบชื่อทนายตั้มออกจากสารบบทนายความด้วย
ทนายอนันตชัย ยังกล่าวถึงเหตุผลที่ทำไมถึงต้องเรียกถึง 100 ล้านบาท เพราะว่าทนายตั้มเป็นคนมีฐานะใส่เครื่องประดับสินค้าแบรนด์เนมเต็มตัว อยากฝากเตือนไปยังทนายตั้มว่า ถ้าจะโพสต์อะไร อย่าทำเหมือนลักษณะโยนหินถามทาง เพราะจะทำให้วิชาชีพจรรยาบรรณทนายความเสื่อมเสีย ขอให้มาสู้กันในศาล อย่าสู้กันในโซเชียล ถือว่าเตือนกันในฐานะพี่น้อง ทนายความ
ส่วนประเด็นเรื่องเงิน6ล้าน ทนายอนันตชัย บอกว่า ตนเองเป็นคนช่วยนายชูวิทย์วางแผนเรื่องเงิน 6 ล้านบาท ซึ่งนายชูวิทย์ได้มาให้คำปรึกษาและตนเองก็ช่วยวางแผนไป
ทนายอนันตชัย ยังกล่าวถึงกรณีที่นายชูวิทย์ ถูกโจมตีเรื่องสวนชูวิทย์ว่า คุณสนธิลิ้มทองกุล ควรหยุดพฤติกรรม หรือพูดอะไรที่ไม่เป็นความจริง ส่วนกรณีที่นายชูวิทย์เคยให้สัมภาษณ์เรื่องเงิน 6 ล้านบาท ที่ไม่ตรงกับการให้การกับตำรวจ ทนายอนันตชัยบอกว่า ถ้าเคยดูสามก๊กก็จะเข้าใจ และสิ่งที่นายชูวิทย์ให้การกับตำรวจกับสัมภาษณ์สื่อ ถือว่าไม่คลาดเคลื่อน แต่ขอให้ดูที่พยานหลักฐานและไปสู้กันในศาลจะดีกว่า
นายชูวิทย์ บอกว่า ทนายตั้มไม่มีความจริงใจใช้สื่อไปเครื่องมือและหาลูกความโดยวิธีการแปลกๆ ทนายอนันตชัยถือเป็นทนายความที่ดีมีคุณธรรม แต่สิ่งนี้สอนกันไม่ได้ทนายตั้มควรต้องเรียนรู้ ซึ่งวิชาชีพทนายความต้องใช้จรรยาบรรณจริยธรรมเป็นอย่างสูง ยืนยันว่า จะไม่ยกโทษหรืออโหสิกรรมให้ทนายตั้ม ถ้าได้เงินจากการฟ้องร้องทนายตั้มก็จะเอาเงินไปทำบุญ ให้โรงพยาบาลหรือสถานที่ต่างๆ
ส่วนเรื่องกรณีสวนชูวิทย์นั้น นายชูวิทย์บอกว่า อยากฝากไปถึงคุณสนธิ ลิ้มทองกุล ว่าคุณสนธิ อาจมีอำนาจบารมี แต่ตนเองมีเจตนาดีสร้างเพื่อชุมชน มีรั้วรอบขอบชิด เปิดปิดตามเวลา เสียภาษีทุกปี จะมายึดของๆตนได้เหรอ จากนี้จะปล่อยให้นายสนธิพูดไป อยากพูดไป และตนจะแถลงข่าวทีเดียว และอยากถามกลับไปว่าตนเองทำสวนมา 20 ปี ทำไมนายสนธิ ถึงไม่ออกมาพูดบ้าง
ทนายอนันตชัย ยังกล่าวถึงกรณีที่นายชูวิทย์ จะไปขอเพิกถอนคุ้มครองชั่วคราว ไม่ให้นายชูวิทย์ พูดเรื่องกัญชา ว่า คุณชูวิทย์ พูดเรื่องกัญชาได้ แต่ไม่ต้องเอ่ยชื่อคู่กรณี ยืนยันไม่ใช่ศรีธนญชัย แต่ทำเพื่อประโยชน์สาธารณะ ยืนยัน “ชูวิทย์” ไม่ฟ้องกลับ เพราะเป็นการวิพากษ์วิจารณ์นโยบายสาธารณะต่อพรรคการเมือง.-สำนักข่าวไทย