fbpx

กทม.เตรียมแถลงจัดสงกรานต์-เปิดตัวแอปฯ บอกระดับความเปียกทั่วกรุง

กรุงเทพฯ 27 มี.ค. – กทม.เตรียมแถลงข่าว 7 เม.ย.นี้ จัดงานสงกรานต์ 2566 เน้นมรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรม พร้อมเปิดตัวแอปฯ แสดงจุดจัดงานและระดับความเปียกทั่วกรุง เน้นเที่ยวแบบกระจาย ไม่กระจุก จัดยาวตั้งแต่ 8-15 เม.ย.66


นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร พร้อมด้วยนายศานนท์ หวังสร้างบุญ รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เปิดเผยถึงเทศกาลสงกรานต์ประจำปี 2566 โดยรองผู้ว่าฯ ศานนท์ กล่าวว่า สำหรับประเด็นของการจัดงานสงกรานต์ กทม. ร่วมมือกับกรมส่งเสริมวัฒนธรรม โดยมีวัตถุประสงค์ในการผลักดันงานสงกรานต์เป็น Intangible Cultural Heritage (มรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรม) ซึ่งคือศิลปวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ เช่น ต้มยำกุ้ง ปีนี้เลยต้องมีธีมตามที่กำหนดประมาณ 7-8 ข้อ หนึ่งในนั้นคือ การสืบสานวัฒนธรรม ซึ่งจะจัดที่ลานคนเมืองในวันที่ 12-14 เมษายน 2566 ซึ่งจะมีการแนะนำว่าวัดไหนที่สามารถไปสักการะได้ มีการรดน้ำดำหัว การรดน้ำมนต์จากวัดดัง นอกจากนั้นมีงานสงกรานต์ที่คลองผดุงกรุงเกษม ซึ่งในตอนนี้กำลังปรับปรุงทางเท้าอยู่ เราอยากทดลองความเป็นพื้นที่สาธารณะ อยากให้คนมาเดิน ในการนี้ กทม. โดยสำนักวัฒนธรรม กีฬา และการท่องเที่ยว ได้นำเรือ เช่น เรือปั่น เรือคายัค มาทดลองให้ประชาชนได้มาเล่น แล้วดูผลว่าประชาชนรู้สึกอย่างไร ควรจะจัดต่อหรือไม่

ในส่วนกิจกรรมที่ทางเอกชนจัด ทาง กทม.ก็ทำหน้าที่เป็นตัวกลางเชื่อมต่อกับภาคเอกชนหลายๆ เจ้าจัดทำแมป (แผนที่) ที่สามารถดูทางออนไลน์ได้ ใครเป็นสายปาร์ตี้ สายสาดน้ำ อยากเปียก จะแสดงระดับน้ำให้เห็น ประชาชนช่วยกันบอกได้ว่า ตรงนี้เปียก จะมีแมปที่สามารถให้เรตติ้งน้ำได้ ถ้าใครไม่อยากเปียก ก็สามารถเช็กในแมปก่อนได้ ในตอนนี้รวบรวมได้แล้วกว่า 30 งาน คาดว่าใกล้ๆ วันแถลงข่าวน่าจะชัดว่ามีทั้งหมดกี่งาน โดยในแต่ละเขตจะมีพื้นที่ที่เอกชนที่ดำเนินการจัดอยู่แล้ว นอกจากนี้ ในแต่ละเขตก็จะมีชุมชนที่จัดงานด้วย เช่น ชุมชนบ้านบาตร ที่ได้กำหนดจัดงานสงกรานต์โดยมี Hidden ต่างๆ ไม่ให้คนเบื่อ ซึ่งครั้งนี้กิจกรรมจะยาวหน่อย เพราะเริ่มตั้งแต่วันที่ 8-15 เมษายน โดยบางที่อาจจะจัดเร็ว บางที่อาจจะจัดช้า ทาง กทม.ก็จะมีการประชาสัมพันธ์เรื่อยๆ


ทั้งนี้ หากทำแมปเสร็จแล้ว จะขอให้สื่อมวลชนช่วยในเรื่องการประชาสัมพันธ์ เพื่อให้ประชาชนและนักท่องเที่ยวได้ทราบว่ามีงานสงกรานต์จัดขึ้นที่ไหนบ้าง ซึ่งในส่วนของแอปพลิเคชันแมปที่ระบุจุดเปียกน้ำ จะเปิดตัวในวันแถลงข่าว คือวันที่ 7 เมษายนนี้ เป็นรูปแบบเว็บแอปฯ ไม่ต้องดาวน์โหลด ใช้งานได้ง่าย โดยรูปแบบแอปพลิเคชันนี้เคยใช้ในช่วง Bangkok Design Week มาแล้ว คิดว่าน่าจะรองรับการใช้งานของประชาชนได้

สำหรับเรื่องความปลอดภัยของประชาชน ผู้ว่าฯ ชัชชาติ กล่าวเสริมว่า ครั้งนี้น่าจะเป็นครั้งแรกที่สถานการณ์โควิดดีขึ้น ข้อกังวลจึงเป็นเรื่องของความปลอดภัยในการเบียดเสียดต่างๆ ซึ่งทางเทศกิจได้มีการลงพื้นที่อยู่ เพื่อกำกับดูแลทางเข้า-ออกงาน และร่วมมือกับผู้จัดงานแต่ละพื้นที่ในการดูแลความปลอดภัยให้แก่ประชาชน

ในส่วนของจำนวนนักท่องเที่ยว ปีนี้น่าจะคึกคักมาก สังเกตจากอัตราการเข้าพักโรงแรม (Occupancy Rate หรือ OR) ที่ส่วนใหญ่มีอัตราใกล้เคียงก่อนโควิดแล้ว ซึ่งเป็นจังหวะที่ดี เมืองก็พร้อม และเรามีพื้นที่เปิดอีกมากมาย เรามีสวนเพิ่มขึ้น ถ้าหากเรามีพื้นที่สาธารณะเพิ่มขึ้นและมีการจัดงานที่ไม่ได้กระจุกอยู่ในแค่บางพื้นที่ ประชาชนและนักท่องเที่ยวก็จะกระจายกันมากขึ้น ซึ่งเป็นผลดีในการกระจายทั้งในแง่เศรษฐกิจและความหนาแน่น


ปัจจุบันเราจะเห็นนักท่องเที่ยวที่ไปเที่ยวสถานที่ Unseen เยอะ ขี่จักรยานไปตามพื้นที่ต่างๆ ที่ไม่เคยไป และนักท่องเที่ยวจำนวนมากก็อาจจะเบื่อกับพื้นที่เดิมๆ แล้ว เพราะฉะนั้นเราก็จะพยายามสร้างอัตลักษณ์ให้กระจายไปในทุกชุมชนให้มากที่สุด เพื่อให้นักท่องเที่ยวได้สัมผัสประสบการณ์ใหม่ๆ ที่หลากหลายในพื้นที่กรุงเทพฯ

ผู้ว่าฯ กทม.กล่าวว่า ต้องบอกว่าในช่วงนี้กรุงเทพมหานครมีชีวิตชีวา ซึ่งไม่ใช่เพราะ กทม.เพียงคนเดียว แต่มีหลายหน่วยงานร่วมมือกันในการจัดกิจกรรมต่างๆ ขึ้น ทำให้เมืองมีสีสันและสามารถกระจายกิจกรรมไปในพื้นที่ต่างๆ ได้มากขึ้น ส่วนข้อกังวลในเรื่องของการซื้อ-ขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์นั้น ต้องเป็นไปตามกฎหมาย ห้ามทำผิดกฎหมาย ความสนุกของเทศกาลไม่สามารถใช้เป็นข้ออ้างได้ เพราะความสนุกไม่ต้องมีสุราก็ได้ และงานของเราก็เน้นประเพณีวัฒนธรรมของไทย ไม่ได้เน้นเรื่องสุราอยู่แล้ว ฉะนั้น ต้องทำตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

พบศพโบลท์หญิงวัย 47 ในป่าหญ้าริมทาง คาดถูกฆ่าชิงรถ

โบลท์หญิงวัย 47 ปี หายตัวจากบ้านพักย่านดินแดง 9 วัน ล่าสุดพบเป็นศพในป่าหญ้าริมถนนสายนครชัยศรี-ห้วยพลู อ.นครชัยศรี จ.นครปฐม ส่วนรถยนต์โผล่ที่ จ.ภูเก็ต คาดถูกคนร้ายฆ่าชิงรถ

pagers on display

ทำไมยังมีการใช้ “เพจเจอร์” ในยุคสมาร์ทโฟน

ลอนดอน 19 ก.ย.- เพจเจอร์ หรือวิทยุติดตามตัวเป็นอุปกรณ์การสื่อสารยอดนิยมในช่วงคริสต์ทศวรรษ 1990 ที่ต้องหลีกทางให้แก่โทรศัพท์เคลื่อนที่ เนื่องจากเป็นการสื่อสารทางเดียว แต่ยังคงมีการใช้งานในบางกลุ่ม รวมถึงกลุ่มฮิซบอลเลาะห์ที่เพจเจอร์ระเบิดพร้อมกันหลายพันเครื่องทั่วเลบานอนเมื่อวันที่ 17 กันยายน แหล่งข่าวเผยว่า ฮิซบอลเลาะห์ใช้เพจเจอร์ เนื่องจากเป็นช่องทางสื่อสารเทคโนโลยีต่ำ ส่งข้อความผ่านสัญญาณวิทยุ จึงตรวจจับสัญญาณและตำแหน่งได้ยากกว่าโทรศัพท์เคลื่อนที่ที่ส่งสัญญาณไปยังเสาส่งที่อยู่ใกล้ที่สุด อีกทั้งไม่มีเทคโนโลยีระบุพิกัดบนพื้นโลกอย่างจีพีเอสด้วย อดีตเจ้าหน้าที่สำนักงานสอบสวนกลางหรือเอฟบีไอ (FBI) ของสหรัฐเผยว่า ในอดีตแก๊งอาชญากรรมโดยเฉพาะแก๊งค้ายาเสพติดในสหรัฐเคยนิยมใช้เพจเจอร์ แต่ขณะนี้หันมาใช้โทรศัพท์เคลื่อนที่แบบเติมเงินราคาถูกที่สามารถเปลี่ยนเครื่องและหมายเลขได้อย่างง่ายดาย ทำให้เจ้าหน้าที่ติดตามแกะรอยได้ยาก อย่างไรก็ดี  ศัลยแพทย์โรงพยาบาลใหญ่แห่งหนึ่งในสหราชอาณาจักรเผยว่า เพจเจอร์เป็นอุปกรณ์ที่แพทย์และพยาบาลสังกัดสำนักงานบริการสุขภาพแห่งชาติหรือเอ็นเอชเอส (NHS) ต้องพกติดตัวอยู่เสมอ เพื่อรับแจ้งข่าวในการปฏิบัติหน้าที่ เป็นช่องทางที่ถูกที่สุดและมีประสิทธิภาพมากที่สุดในการแจ้งข่าวทางเดียวกับคนจำนวนมาก เพจเจอร์หลายรุ่นสามารถส่งเสียงไซเรนและมีข้อความเสียงแจ้งให้ทีมแพทย์ไปรวมตัวที่ห้องฉุกเฉินได้ทันที ข้อมูลล่าสุดในปี 2562 ระบุว่า เอ็นเอชเอสใช้เพจเจอร์ประมาณ 130,000 เครื่อง คิดเป็นสัดส่วนมากกว่า 1 ใน 10 ของที่ใช้ทั่วโลก คอกนิทีฟมาร์เก็ตรีเสิร์ช  (Cognitive Market Research) ซึ่งเป็นบริษัทวิจัยคาดการณ์ว่า ตลาดเพจเจอร์จะเติบโตร้อยละ 5.9 ต่อปี จากปี 2566 ถึงปี 2573 […]

ข่าวแนะนำ

นายกฯ ขอบคุณทุกหน่วยงานระดมช่วยผู้ประสบภัย

“นายกฯ แพทองธาร” ขอบคุณทุกหน่วยงานระดมช่วยผู้ประสบอุทกภัย หวัง ศปช.รับมือ-ช่วยเหลือรวดเร็วทันท่วงที รวมถึงการเยียวยาหลังจากนี้

ฟื้นฟูชายแดนแม่สาย-เร่งกู้ตลาดสายลมจอย

เจ้าหน้าที่เร่งฟื้นฟูชุมชนชายแดนแม่สายที่ถูกน้ำท่วมและจมโคลนมานาน 10 วัน รวมทั้งเร่งกู้ตลาดสายลมจอยแหล่งจำหน่ายสินค้าชายแดนที่เสียหายอย่างหนัก

ฆ่ารัดคอขับโบลท์

รวบ “ไอ้แม็ก” ฆ่ารัดคอหญิงขับโบลท์ พบเคยถูกจับคดีโหด

จับแล้ว “ไอ้แม็ก” เดนคุก ฆ่ารัดคอหญิงขับโบลท์ ทิ้งร่างอำพราง ริมถนนห้วยพลู จ.นครปฐม ก่อนเอารถไปขาย สอบประวัติ พบเพิ่งพ้นโทษ คดีล่ามโซ่ล่วงละเมิดเด็กวัย 13 ปี นาน 1 สัปดาห์ เมื่อปี 2553