กรุงเทพฯ 26 มี.ค. – “บิ๊กโจ๊ก” สั่งขยายผลดำเนินคดีกับผู้เกี่ยวข้องทั้งหมด หลังพบแก๊งคนจีนปลอมหนังสือเดินทางหลอกธนาคาร รอถอนเงิน 176 ล้านบาท
จากกรณีเมื่อวันที่ 24 มี.ค.ที่ผ่านมา พนักงานสอบสวน สน.ทองหล่อ รับแจ้งจากธนาคารว่ามีบุคคลต่างด้าวใช้เอกสารหนังสือเดินทางปลอมมาขอทำสมุดบัญชีใหม่ จึงไปตรวจสอบและพบว่ามีการใช้เอกสารเดินทางปลอม เป็นเจ้าของบัญชี ซึ่งในบัญชีดังกล่าวมีเงินมากถึง 176 ล้านบาท
กรณีดังกล่าว พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. สั่งการให้ พ.ต.อ.พันษา อมราพิทักษ์ ผกก.สน.ทองหล่อ ดำเนินการสืบสวนเกี่ยวกับกลุ่มบุคคลดังกล่าวเพื่อขยายผลจับกุมโดยเร่งด่วน รวมทั้งตรวจสอบที่มาของเงินในบัญชีดังกล่าวว่าเงินจำนวนมากซึ่งมีเจ้าของเป็นชาวต่างชาติ เข้ามาอยู่ในราชอาณาจักรได้อย่างไร
พฤติกาณ์คือมีกลุ่มคนไทย 4 คน พร้อมชาวกัมพูชา 1 คน อ้างตัวว่าเป็นเจ้าของบัญชีดังกล่าว นำเอาเอกสารเดินทางสัญชาติกัมพูชาเข้ามาติดต่อกับธนาคารขอทำสมุดบัญชีเล่มใหม่ เพื่อใช้ในการถอนเงินออกจากบัญชีดังกล่าว แต่ปรากฏว่าใบหน้าของชาวกัมพูชาไม่ตรงกับใบหน้าของบุคคลเจ้าของบัญชี ธนาคารจึงแจ้งให้ตำรวจทราบเพื่อตรวจสอบ
พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ กล่าวว่า จากการสืบสวนทราบว่ากลุ่มบุคคลดังกล่าวมีความพยายามหลายครั้งในการมาขอถอนเงินออกจากบัญชี แต่ไม่สามารถหาเอกสารตามที่ธนาคารต้องการมายื่นให้ได้ ในส่วนของบัญชีตรวจสอบทราบว่ามียอดเงินสูงถึง 176 ล้านบาท จากการทยอยโอนเงินสูงถึงหลักล้านบาทเข้าในบัญชีหลายครั้งตั้งแต่ปี 2561 คาดว่าเป็นเงินที่ได้จากแก๊งคอลเซ็นเตอร์ อยู่ในระหว่างสืบสวนขยายผลเพิ่มเติม เบื้องต้นมีการจับกุมดำเนินคดีชายชาวกัมพูชา ข้อหาเป็นบุคคลต่างด้างหลบหนีเข้ามาในราชอาณาจักรโดยไม่ได้รับอนุญาต
พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ กล่าวว่า เงินในบัญชีดังกล่าวคาดเป็นของแก๊งชาวจีนซึ่งกระทำผิดแล้วโอนเงินมารวมไว้ในบัญชีดังกล่าว ก่อนจะใช้ความพยายามในการถอนเงินออกจากบัญชี โดยการปลอมเอกสารเดินทาง ในชั้นนี้ได้กำชับให้เจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวนรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อขยายผลจับกุมคนไทยที่เกี่ยวข้องทั้งหมด ทราบว่ามีบุคคลที่เป็นผู้ใหญ่มีส่วนร่วมด้วย และขยายผลว่าเงินจำนวนดังกล่าวเข้ามาอยู่ในเมืองไทยได้อย่างไร โดยได้ประสานไปยังทางการกัมพูชาให้ช่วยตรวจสอบเส้นทางการเงินของชาวกัมพูชา รวมถึงเรื่องการปลอมหนังสือเดินทาง ทั้งนี้ หากพบผู้ใดมีส่วนเกี่ยวข้องในการกระทำผิดดังกล่าว จะดำเนินคดีให้ถึงที่สุด.-สำนักข่าวไทย