ทำเนียบรัฐบาล 20 มี.ค.-“พล.อ.ประยุทธ์” ติงสื่ออย่าถาม “อนุทิน” กินข้าว “ พล.อ.ประวิตร” ไม่ได้อยู่ในเหตุการณ์ ไม่สนใจข่าว ไม่ถาม “พี่” ไม่ใช่คนจุกจิกที่ต้องรู้ทุกเรื่อง ไม่คิดเรื่องจับขั้ว หรือกลับมาเป็นนายกฯ อีกหรือไม่ ขึ้นอยู่กับประชาชน
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวถึงกรณีปรากฎภาพพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ รับประทานอาหารร่วมกับนายอนุทิน ชาญญวีรกูล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขและหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ เลขาธิการพรรคภูมิใจไทยที่มูลนิธิป่ารอยต่อฯ เป็นการจัดตั้งรัฐบาลล่วงหน้าหรือไม่ ว่า เขาไปทานข้าวด้วยกันไม่ใช่หรือ
เมื่อผู้สื่อข่าวบอกว่า เป็นการไปทานข้าวเพื่อจับมือเป็นพันธมิตรทางการเมือง นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า “คุณไปคิดเอาเองหมด คุณไม่ได้ไปนั่งอยู่กับเขา เขาพูดอะไรกัน ผมก็ไม่ทราบ”
ส่วนได้คุยเรื่องนี้กับพล.อ.ประวิตรหรือไม่ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า “ทำไม เขาทานข้าวกัน เขาไปไหน ก็ต้องคุยด้วยหมดเหรอ ว่าพี่ไปทำอะไรมา พี่ไปกินข้าวเพราะอะไร พี่ไปกินข้าวกับเขาทำไม ผมไม่ใช่คนแบบนั้นที่จะไปจุกจิก ผมไม่ใช่”
เมื่อผู้สื่อข่าวถามต่ออีกว่า มีการจับมือกัน นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า “คุณคิดเอาเอง ผมไม่เห็นรูปเขาจับมือกัน เขาคุยกัน ก็ต้องไปถามคนคุยสิ ผมไม่ได้คุยด้วยนี่นา เออ ก็เท่านั้นแหละ อย่าถามเรื่องอะไรที่ผมไม่ได้เกี่ยวข้องแล้วกัน”
ส่วนนายกรัฐมนตรีพร้อมร่วมรัฐบาลด้วยใช่หรือไม่ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ไม่ทราบ ยังไม่ได้เลือกตั้ง และไม่คิดว่าจะได้กลับมาเป็นนายกรัฐมนตรีอกครั้งหรือไม่ ทำให้ดีที่สุดก็แล้วกัน
เมื่อถามถึงผลสำรวจของนิด้าโพลเกี่ยวกับความนิยมแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีแต่ละพรรค ซึ่งนายกรัฐมนตรีได้เป็นลำดับที่ 3 นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า โพลก็คือโพล อยู่ที่ประชาชนว่าต้องการอะไร อย่างไร ที่ถูกต้องและควรจะทำให้ประเทศชาติไม่เสียหาย ซึ่งเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุดของรัฐบาลต่อไป ตนจะพยายามทำให้ดีที่สุด
ส่วนวางแผนแล้วหรือไม่ หากได้กลับมาจะจับมือกับพรรคการเมืองใด นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ไม่รู้ ยังไม่ทราบเหมือนกันว่าใครจะได้ และว่า “แล้วเขาจะจับกับผมหรือเปล่า ก็ยังไม่รู้ ผมอยากจะจับกับเขาข้างเดียวได้เมื่อไหร่ ก็แล้วแต่ เอาประเทศชาติมาก่อนก็แล้วกัน จะทำอะไรก็ขอให้ยึดประเทศชาติและประชาชนเป็นหลัก” พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว
ทั้งนี้ ในฐานะเป็นประธานยุทธศาสตร์พรรครวมไทยสร้างชาติ จุดขายของพรรคต่อประชาชนคืออะไร นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า เคยบอกแล้วว่าทุกอย่างให้ดูที่ผลงาน การทำงานในช่วงที่ผ่านมา หากพูดในส่วนของพรรคคือพรรคร่วมรัฐบาล ซึ่งวันนี้ลงเลือกตั้งกันทั้งหมด และมีพรรคใหม่ขึ้นมาคือรวมไทยสร้างชาติ ที่เขาให้ตนเป็นประธานยุทธศาสตร์พรรค และตนจะเอาแนวทางที่ขับเคลื่อนมาขับเคลื่อนต่อ เพื่อไปสู่ความมั่นคง มั่งคั่งและยั่งยืน นั่นคือวิสัยทัศน์ของเรา
“จะทำอะไรก็ตามต้องคำนึงถึงวิสัยทัศน์ ว่าเราต้องการประเทศชาติให้เดินหน้าไปทางไหน นั่นคือคำว่าวิสัยทัศน์ในอนาคต ว่าประเทศของเราจะมีรายได้สูงขึ้นหรือไม่ หรือเป็นประเทศที่มีรายได้เพิ่มขึ้นจากการเป็นประเทศที่มีรายได้ปานกลาง หรือเป็นประเทศที่มีรายได้ระดับสูงได้หรือไม่ นั่นคือความมุ่งหมายและวิสัยทัศน์ของเรา ควรจะเป็นอย่างนั้น ประเทศชาติมั่นคง ประชาชนมั่งคั่ง ให้เราอยู่กันอย่างพอเพียงและยั่งยืนในอนาคต” นายกรัฐมนตรี กล่าว
เมื่อถามว่า วันนี้เดินบนถนนทางการเมืองมาค่อนทางแล้ว ไม่ได้ตัดสินใจผิดใช่หรือไม่ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ถามอย่างนั้นไม่ได้ และตนก็ตอบอย่างนั้นไม่ได้ ว่าตัดสินใจถูกหรือผิด ตนพยายามทำในสิ่งที่ดีที่สุด ผลเลือกตั้งออกมาก็ตามนั้น ประชาชนต้องการอย่างไรก็อย่างนั้น
ส่วนตัดสินใจลงสมัครส.ส.บัญชีรายชื่อแล้วหรือไม่ นายกรัฐมนตรี ปฏิเสธที่จะตอบคำถามโดยระบุว่า ไม่ขอตอบประเด็นการเมืองอีกแล้ว
ส่วนที่มีกระแสหากพล.อ.ประยุทธ์หรือพล.อ.ประวิตร ใครได้คะแนนเสียงมากกว่าคนนั้นเป็นนายกรัฐมนตรีจริงหรือไม่ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ไม่ได้ยิน และพลงองประวิตรไม่ได้พูดกับตน ถ้าได้ยินก็ไปถามพล.อ.ประวิตร ยืนยันว่าไม่ได้อยู่ร่วมในเหตุการณ์สักเหตุการณ์หนึ่งที่ผู้สื่อข่าวสอบถามมา มาถามตน ไม่รู้หรอก และไม่ได้สนใจที่จะอ่านด้วย.-สำนักข่าวไทย