นนทบุรี 25 พ.ค. – รมว.พาณิชย์สั่งพาณิชย์จังหวัดเร่งสำรวจตลาดติดชายแดน เพื่อผลักดันเป็นตลาดประชารัฐ หวังดึงคนประเทศเพื่อนบ้านข้ามฝั่งมาซื้อสินค้าไทย นำร่องคุยลาวตั้งตลาด 2 ฝั่ง
นางอภิรดี ตันตราภรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า ได้สั่งการให้พาณิชย์จังหวัดที่อยู่ในจังหวัดติดชายแดนไทยกับประเทศเพื่อนบ้าน ทั้ง สปป.ลาว กัมพูชา เมียนมาร์ และมาเลเซีย และกรมการค้าภายในทำการสำรวจตลาดในพื้นที่ก่อนที่จะพัฒนาให้เป็นตลาดประชารัฐ โดยเข้าไปปรับปรุงให้ตลาดมีมาตรฐานและผลักดันให้เป็นตลาดที่ทำการซื้อขายสินค้าของคนในพื้นที่และดึงให้คนจากประเทศเพื่อนบ้านเข้ามาซื้อขาย เพื่อขยายมูลค่าการค้าชายแดน
“แผนผลักดันตลาดประชารัฐรูปแบบนี้ไม่เพียงแต่ช่วยเกษตรกร ประชาชน ผู้ผลิตสินค้าชุมชนในพื้นที่ มีสถานที่จำหน่ายสินค้า แต่ยังเป็นการเชื่อมโยงการค้าออกไปยังประเทศเพื่อนบ้าน โดยดึงให้เข้ามาซื้อสินค้าในตลาดฝั่งไทยและยิ่งเป็นตลาดที่ติดกับด่านชายแดนก็จะช่วยทำให้การค้ามีความคึกคักมากขึ้น” นางอภิรดี กล่าว
ทั้งนี้ ในเบื้องต้นได้ใช้โอกาสที่ร่วมคณะนายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี ไปเยือน สปป.ลาว ได้หารือกับ สปป.ลาว เพื่อให้มีการจัดตั้งตลาดประชารัฐไทย-สปป.ลาว โดยการนำสินค้าจาก สปป.ลาว มาขายในพื้นที่ของตลาดอุดรเมืองทอง จ.อุดรธานี และตลาดเจริญศรี จ.อุบลราชธานี รวมทั้งเสนอให้ฝ่าย สปป.ลาวพิจารณาจัดตั้งตลาดประชารัฐลักษณะเดียวกันนี้ที่บ่อเต็น ซึ่งเป็นจุดกระจายสินค้าของไทยและสปป.ลาวไปยังประเทศอื่น ๆ ซึ่งฝ่าย สปป.ลาวให้ความสนใจและพร้อมที่จะสนับสนุนโครงการดังกล่าวนี้ โดยหน่วยงานของทั้ง 2 ประเทศจะมีการหารือแนวทางการจัดตั้งตลาดประชารัฐไทย-สปป.ลาวโดยเร็วต่อไป ส่วนจังหวัดติดชายแดนอื่นจะมีการสำรวจ เพื่อผลักดันเปิดตลาดประชารัฐต่อไป ซึ่งจะเน้นจังหวัดที่มีด่านชายแดน เพื่อให้ประชาชนของประเทศเพื่อนบ้านข้ามฝั่งเข้ามาซื้อสินค้าได้โดยสะดวก โดยมองว่า เช่น ตลาดแถวด่านแม่สอด จ.ตาก ตลาดโรงเกลือ จ.สระแก้ว เป็นต้น
สำหรับการผลักดันการขยายการค้าชายแดนไทย-สปป.ลาว ทั้ง 2 ฝ่ายตั้งเป้าหมายการค้าเป็น 10,000 ล้านเหรียญสหรัฐภายใน 5 ปี และเพื่อให้บรรลุเป้าหมายตามที่ได้ตั้งไว้ ทั้งสองฝ่ายเห็นควรมีการดำเนินการที่สำคัญ โดยการยกระดับด่านท้องถิ่นของสปป.ลาว ซึ่งอยู่ตรงข้ามกับจุดผ่านแดนถาวรของไทย โดยไทยขอให้ สปป.ลาว พิจารณายกระดับด่านท้องถิ่นเป็นด่านสากล 7 ด่าน เพื่อส่งเสริมและอำนวยความสะดวกการค้าชายแดน เช่น ด่านเมืองละคอนเพ็ง แขวงสาละวัน ซึ่งอยู่ตรงข้ามกับจุดผ่านแดนถาวรบ้านปากแซง อ.นาตาล จ.อุบลราชธานี เป็นต้น โดยฝ่าย สปป.ลาว รับจะไปหารือกับกระทรวงการต่างประเทศของ สปป.ลาว นอกจากนี้ ไทยเสนอให้ทั้ง 2 ฝ่ายพิจารณาจัดทำร่างยุทธศาสตร์ไทย-สปป.ลาว เพื่อเตรียมหาแนวทางเชื่อมโยงกับยุทธศาสตร์ One Belt One Road ของจีนที่จะเข้ามามีบทบาทในภูมิภาคอินโดจีน (Indochina) ซึ่ง สปป.ลาวรับที่จะไปหารือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องและหารือกับฝ่ายไทยในรายละเอียดต่อไป
ส่วนความร่วมมือด้านเกษตรอินทรีย์ ไทยเชิญผู้แทน สปป.ลาวเข้าร่วมงาน Organic and Natural Expo 2017 ซึ่งไทยจะเป็นเจ้าภาพจัดงานระหว่างวันที่ 27-30 กรกฎาคม 2560 ที่กรุงเทพฯ พร้อมทั้งขอให้ สปป.ลาวจัดส่งเจ้าหน้าที่ภาครัฐและเกษตรกรของ สปป.ลาว เข้าร่วมโครงการ “World Wide Opportunities On Organic Farms (WWOOF) for CLMVT 2017” เพื่อแลกเปลี่ยนเรียนรู้การทำฟาร์มเกษตรอินทรีย์ระหว่างกัน ซึ่งไทยจะเป็นเจ้าภาพปีนี้และยังเชิญชวนฝ่าย สปป.ลาว เข้าร่วมกิจกรรมของ ASEAN Design Center ที่จังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งเป็นศูนย์รวบรวมสินค้าจากผู้ประกอบการในพื้นที่และจัดให้มีการเจรจาธุรกิจกับผู้ประกอบการต่างประเทศด้วย.-สำนักข่าวไทย