พิจิตร 11 มี.ค. – ชาวพิจิตรแห่ฟังปราศรัยใหญ่ “เพื่อไทย” ล้นหลามนับหมื่น “เศรษฐา” ปราศรัยครั้งแรก ประกาศอาสาทำเพื่อบ้านเมือง อ้อนชาวพิจิตรเลือก “เพื่อไทย” ทั้งคนทั้งพรรค “ณัฐวุฒิ” เผย 17 มี.ค.นี้ ประกาศนโยบายชุดใหญ่
(11 มีนาคม 2566) พรรคเพื่อไทย เปิดเวทีปราศรัยที่ จ.พิจิตร “คิดใหญ่ ทำเป็น เพื่อไทยทุกคน” ณ วิทยาลัยเทคนิคพิจิตร อ.เมือง จ.พิจิตร ท่ามกลางประชาชนเข้าร่วมฟังการปราศรัยอย่างเนืองแน่นเกือบ 20,000 คน นำโดย นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน หัวหน้าพรรคเพื่อไทย นายชูศักดิ์ ศิรินิล รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย นายสุธรรม แสงประทุม คณะทำงานขับเคลื่อนนโยบายพรรคเพื่อไทย น.ส.แพทองธาร ชินวัตร ประธานคณะที่ปรึกษาด้านการมีส่วนร่วมและนวัตกรรม พรรคเพื่อไทย และหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย นายเศรษฐา ทวีสิน ประธานที่ปรึกษาหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ผู้อำนวยการครอบครัวเพื่อไทย นายพานทองแท้ ชินวัตร ที่ปรึกษาศูนย์ปฏิบัติการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พรรคเพื่อไทย พร้อมด้วย ส.ส.พิจิตร พรรคเพื่อไทย นายภูดิท อินสุวรรณ์ และผู้ซึ่งประสงค์สมัครรับเลือกตั้ง ส.ส.พิจิตร พรรคเพื่อไทย นายปุณยวัจน์ เหลืองวิจิตร นายวิชัย ด่านรุ่งโรจน์ และอดีต ส.ส.เพื่อไทย นางสุณีย์ เหลืองวิจิตร
นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน และหัวหน้าพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ในการประชุมใหญ่สามัญประจำปี 2566 ของพรรคเพื่อไทย ที่ได้ประกาศต่อที่ประชุมไว้ว่า ชูธง ปักชัย แลนด์สไลด์ทั้งแผ่นดิน 310 เสียงขึ้นไป ขอให้พี่น้องประชาชนเข้าไปกาในคูหาให้เกิดขึ้นมาจริงๆ หากเพื่อไทยไม่ได้ 310 เสียง ชาวพิจิตรจะต้องอยู่กับ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ไปอีก 4 ปี เอาหรือไม่ ก่อนหน้านี้ไม่กล้าประกาศ ขอเพียงได้ 250 เสียง เพื่อเอาชนะ ส.ว. 250 คนเท่านั้น แต่จากการรณรงค์พบปะพี่น้องประชาชนและการสำรวจของหลายสำนัก เพื่อไทยอาจได้ถึง 270 เสียงขึ้นไป อยากขอให้พี่น้องช่วยกันขยับเป้าหมายไปที่ 310 เสียง เพื่อปิดกั้นการกลับมาของ พล.อ.ประยุทธ์ ให้สิ้นซาก ช่วยกันจัดตั้งรัฐบาลของชาวพิจิตรและชาวไทยทุกคน
พรรคเพื่อไทยมีความมั่นใจและภูมิใจกับผู้ประสงค์สมัครรับเลือกตั้ง ส.ส.ทั้ง 3 เขตของพิจิตร ว่าเป็นคนที่อยู่กับพี่น้องประชาชน ทำงานกับพี่น้อง โดยเขตเลือกตั้งที่ 1 คือ รองนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด นายปุณยวัจน์ เหลืองวิจิตร เขตเลือกตั้งที่ 2 อดีต ส.ส.ภูดิท อินสุวรรณ์ และเขตเลือกตั้งที่ 3 อดีต ส.จ.วิชัย ด่านรุ่งโรจน์ ทั้ง 3 คน คือโอกาสและความหวังของพี่น้องชาวพิจิตรยกจังหวัด เชื่อว่าการเลือกตั้งจะไม่เกิน 14 พฤษภาคมนี้ ขอให้กา ส.ส.พรรคเพื่อไทย ทั้ง 3 เขต และกาบัญชีรายชื่อเพื่อไทย โดยจำสัญลักษณ์ให้ดี เจอสัญลักษณ์นี้กาทันที
“พรรคเพื่อไทยมีความจำเป็นต้องจับมือกับพี่น้องประชาชน ยืนยันว่า เราไม่ยอมจับมือกับ พล.อ.ประวิตร เพื่อไทยพรรคเดียว ขอให้พี่น้องมั่นใจกับคนที่มาเป็นนายกรัฐมนตรีในนามพรรคเพื่อไทย ถ้าไม่ได้ 310 เสียง เราจะไม่มีอำนาจ ถ้าทำได้จะได้นายกรัฐมนตรีจากพรรคเพื่อไทย” นพ.ชลน่าน กล่าว
นายชูศักดิ์ ศิรินิล รองหัวหน้าพรรค ประธานคณะทำงานด้านกฎหมาย พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า วันนี้ประเทศไทยกำลังเดินเข้าสู่วิกฤติ ถ้าไม่เปลี่ยนรัฐบาล ไม่เปลี่ยนตัวนายกรัฐมนตรีคนนี้ออกไป ประเทศจะตกต่ำจนยากแก้ไข ซึ่งตัวชี้วัดวิกฤติ 3 ประการสำคัญ คือ
- วิกฤติเศรษฐกิจ ทั้งผลิตภัณฑ์มวลรวมของประเทศตกต่ำลงต่อเนื่องทุกปี รายได้พี่น้องลดลง ราคาพืชผลการเกษตรลดลง แต่ค่าครองชีพ ค่าน้ำมัน ค่าก๊าซหุงต้ม ค่าไฟฟ้า ที่เป็นต้นทุนการผลิตทั้งในภาคอุตสาหกรรมและสิ่งจำเป็นในชีวิตพื้นฐาน กลับมีราคาสูงขึ้น
- วิกฤติยาเสพติดเต็มบ้านเต็มเมือง ในโรงเรียนพบเห็นลูกหลานพี้กัญชา ยาบ้า นำไปสู่อาชญากรรมรุนแรง มีการก่ออาชญากรรมในที่สาธารณะอย่างอุกอาจ
- วิกฤติทุจริตคอร์รัปชัน ในระบบราชการทุกวันนี้เต็มไปด้วยทุจริตประพฤติมิชอบและตรวจสอบไม่ได้ และที่น่ารังเกียจที่สุด คือ การซื้อขายตำแหน่งในระบบราชการอย่างเอิกเกริก จะเป็นผู้บริหารหน่วยงานรัฐต้องเสียเงินซื้อขาย คนได้ตำแหน่งเสียเงินไปก็ต้องมีรีดไถเอาจากผู้ใต้บังคับบัญชาและพี่น้องประชาชน
วิกฤติทุจริตคอร์รัปชัน ลุกลามเข้ามาถึงในสภาผู้แทนราษฎร เพราะทุกวันนี้ลิงมากินกล้วยในสภาฯ ลิงไม่กินข้าวแล้ว รอกินกล้วยกันเป็นล่ำเป็นสัน ตอนฤดูอภิปรายไม่ไว้วางใจ และที่น่าเกลียดที่สุดคือเรื่อง ส.ส. วันนี้เป็น ส.ส.พรรคนี้ แต่วันดีคืนดีไปนั่งกับอีกพรรคหนึ่ง โดยเป็น ส.ส.เหมือนเดิม เราเองอยากจะขับไล่ เขาก็อยากให้ขับไล่ไวๆ เพราะหากขับไล่แล้ว เขาก็จะได้ไปกินกล้วยเครือใหญ่ๆ ทั้งวิกฤติเศรษฐกิจ วิกฤติยาเสพติด ตลอดจนทุจริตคอร์รัปชันที่ลุกลามไปทั่วประเทศเข้ามายังในสภาผู้แทนฯ เป็นความเลวร้ายที่เราทุกคนต้องร่วมมือช่วยกันเปลี่ยน คือ เปลี่ยนรัฐบาล เปลี่ยนนายกรัฐมนตรี เราเห็นแล้วว่า นายกฯ คนเดิมยึดอำนาจมา สร้างรัฐธรรมนูญสืบทอดอำนาจ ตั้ง ส.ว. มาสืบทอดอำนาจตัวเอง เราต้องร่วมมือกันเอาระบอบประยุทธ์นี้ออกไปเสียที
“เราต้องการผู้นำที่ก้าวทันโลก มีความรู้ความสามารถ และวันนี้เราก็เห็นกันอยู่แล้วว่า คุณสมบัติผู้นำรัฐบาลที่ถึงพร้อมมีอยู่ในบุคลากรของพรรคเพื่อไทย ดังนั้น พี่น้องชาวพิจิตรต้องเลือกเพื่อไทยทั้ง 2 ใบ เพื่อป้องกัน ส.ว. และพรรคเสียงข้างน้อยไปตั้งรัฐบาลแบบหน้าด้านแข่งกับเรา เราจึงต้องแลนด์สไลด์ เพื่อไทย 2 ใบ 310 เสียงขึ้นไปเท่านั้น” นายชูศักดิ์ กล่าว
น.ส.แพทองธาร ชินวัตร ประธานคณะที่ปรึกษาด้านการมีส่วนร่วมและนวัตกรรม พรรคเพื่อไทย และหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย กล่าวว่า พรรคเพื่อไทยทราบดีว่าพี่น้องเจอปัญหามากมาย เพื่อไทยจะแก้ปัญหาให้เกษตรกร เรามีนโยบายพักหนี้เกษตรกร 3 ปี และเพิ่มรายได้ให้เกษตรกร 3 เท่า ผ่าน 3 ดี ได้แก่ ดินดี น้ำดี เมล็ดพันธุ์ดี เพื่อให้ราคารสินค้าเกษตรดีถ้วนหน้า ราคาผลิตภัณฑ์ขึ้นยกแผง และจากปัญหาที่ดินทำกิน พรรคเพื่อไทยมี 4 ขั้นตอนที่จะทำให้ชีวิตของพี่น้องประชาชนดีขึ้นได้ คือ
- นำเทคโนโลยีมาใช้ในการพิสูจน์สิทธิอย่างเป็นธรรม
- จัดสรรที่ดินสำหรับผู้ที่ไม่มีที่ดินทำมาหากิน
- แก้กฎหมายที่ขัดต่อความเป็นธรรม เป็นอุปสรรคในการทำมาหากินของประชาชน
- ที่ดินของรัฐที่ไม่ได้ใช้จะถูกจัดสรรให้พี่น้องประชาชนได้มีที่ดินทำกินถ้วนหน้า
น.ส.แพทองธาร กล่าวอีกว่า เกษตรกรต้องมีลดต้นทุนลง ราคาสินค้าเกษตรต้องดียกแผง ข้าวราคาดี ปุ๋ยราคาถูก พรรคเพื่อไทยมีนโยบายนำนวัตกรรมมาเสริม เวลานาล่มก็ไม่ต้องเสียเงิน มีทุนมาให้ทำเกษตรกรรมต่อเนื่อง เราเล็งเห็นปัญหาและพร้อมแล้วที่จะแก้ไขปัญหานี้ให้กับพี่น้องประชาชนในทุกช่วงอายุ ช่วงวัย ช่วงอาชีพ จึงขอฝากผู้สมัครทั้ง 3 เขตของพิจิตร ให้แลนด์สไลด์ทั้งจังหวัดพิจิตร
“คุณเศรษฐา ทวีสิน ประธานที่ปรึกษาหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย บุคคลท่านนี้เรามั่นใจได้เลยว่า เศรษฐกิจของประเทศไทยจะขึ้นอย่างแน่นอน” น.ส.แพทองธาร กล่าวทิ้งท้าย
นายเศรษฐา ทวีสิน ประธานที่ปรึกษาหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย และทีมเศรษฐกิจพรรคเพื่อไทย ขึ้นปราศรัยครั้งแรกที่เวทีพิจิตร “คิดใหญ่ ทำเป็น เพื่อไทยทุกคน” ในวันนี้ว่า รู้สึกเป็นเกียรติ และรู้สึกอบอุ่นที่ได้รับการตอบรับที่ดี เป็นความภูมิใจ มีความซึ้งใจเป็นอย่างมาก วันนี้ตนมีหัวใจที่รักพี่น้องประชาชนเป็นที่ตั้ง ไม่เอาเผด็จการ ยึดมั่นในระบอบประชาธิปไตย วันนี้ถึงเวลาแล้วที่ตนในฐานะนักธุรกิจที่สั่งสมประสบการณ์มากว่า 30 ปี ต้องก้าวออกมาจากวงการธุรกิจ และมาทำเพื่อบ้านเมือง
ทั้งนี้ ในระยะเวลา 8 ปีที่ผ่านมา ยาวนานมาก สูญเสียโอกาส รายได้ลดลง รายจ่ายสูงขึ้น ยาเสพติดระบาดทั่วทุกระแหง ลูกหลานไม่เห็นอนาคตประเทศ คนที่มีความสามารถในการย้ายถิ่นฐาน ย้ายประเทศ บุตรหลานไม่อยากมีลูก เพราะไม่อยากเห็นอนาคตที่ไม่สดใส คนแก่เฒ่าเกษียณอายุ มีเงินเก็บไม่พอเลี้ยงดูตัวเองอย่างมีความสุข มีศักดิ์ศรีได้ในสังคม ไทยเคยเป็นเสือตัวที่ 5 ของเอเชีย วันนี้เราถดถอยขนาดไหน มาเลเซีย อินโดนีเซีย เวียดนาม จีดีพีเติบโตมากกว่าเรามโหฬาร ประเทศไทยไม่มีที่ยืนในเวทีโลก ผู้นำไม่เคยออกไปเปิดตลาดขายสินค้า เปิดตลาดใหม่ๆ เป็นความคับแค้นใจของพวกเรา
ในอดีต พรรคไทยรักไทย พรรคพลังประชาชน ทำนโยบายนำ นำความเจริญรุ่งเรืองให้พี่น้องประชาชนทุกคน วันนี้พรรคเพื่อไทย ภายใต้สโลแกน “คิดใหญ่ ทำเป็น เคยทำ และหวังว่าจะได้ทำ” มาขอเสียงพี่น้องประชาชนสู่จุดมุ่งหมายแลนด์สไลด์เพื่อไทยทุกคน ตนอยากเห็นประเทศชาติมีอนาคต มีแสงสว่างที่ดี นำพาลูกหลานไปสู่อนาคตที่สดใส
“8 ปีที่ผ่านมาเพียงพอหรือยัง ผมว่าพอนะครับ อีกไม่กี่เดือน วันที่ 7 หรือ 14 พฤษภาคม เราจะมีวันสำคัญยิ่ง ที่จะเกิดขึ้นคือวันเลือกตั้ง ถ้าเราไม่พอใจกับสิ่งที่เป็นอยู่ใน 8 ปี เข้าคูหากาเพื่อไทยทั้งสองเบอร์ ทั้งคน ทั้งพรรค ไม่ปันใจให้คนอื่น ไม่สามารถทำได้ เพราะหากมีพรรคอื่นเข้ามาเป็นพรรคร่วมรัฐบาล จะไม่สามารถขับเคลื่อนนโยบายที่ิคิดมาและเห็นว่าเหมาะสม และพี่น้องจะไม่ได้ในสิ่งที่เราสัญญาไว้ ผมและเพื่อนร่วมทีมจากพรรคเพื่อไทยไม่อยากจะกลับมาอีก มาอธิบายว่าทำไมเราทำไม่ได้ อยากจะกลับมาอีกพร้อมกับนโยบายใหม่ๆ ที่จะทำให้รายได้ของพี่น้องสูงขึ้น วันนี้ผมขอ ครั้งแรกที่มาปราศรัยที่นี่ ขอชาวพิจิตรแลนด์สไลด์เพื่อไทยทั้ง 3 เบอร์” นายเศรษฐา กล่าว. – สำนักข่าวไทย