ระยอง 22 ก.พ.- นายกรัฐมนตรี เปิดมหกรรมยางพาราและพืชเศรษฐกิจ EEC 2023 ประกาศลดต้นทุนการผลิตยาง ส่งเสริมการส่งออกและในประเทศ ย้ำความสัมพันธ์กับ “สาธิต ปิตุเตชะ” รักกันดี ยันเป็นนายกฯ จับต้องได้ ไม่โก้หรู-แอคอาร์ต สวมหัวโขน ต้องให้ดีที่สุด
พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เป็นประธานในพิธีเปิดงานมหกรรมยางพาราและพืชเศรษฐกิจ EEC 2023 โดยมีพลเอกอนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน และนายธนกร วังบุญคงชนะ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายสาธิต ปิตุเตชะ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข เข้าร่วม ที่สำนักงานตลาดกลางยางพาราจังหวัดระยอง ต.ชุมแสง อ.วังจันทร์ จ.ระยอง
โดยนายกรัฐมนตรี นั่งรถตู้อัลพาร์ด สีขาว ทะเบียน กม 7000 ระยอง และทันทีที่นายกฯ มาถึง ได้โบกมือทักทายประชาชน พร้อมกล่าวขอโทษประชาชนที่มาช้า ทำให้รอนาน
ด้านนายสาธิต กล่าวว่า ตลอดระยะเวลาที่ทำงานกับนายกรัฐมนตรี ตนทราบว่านายกรัฐมนตรีทุ่มเทเต็มที่ ในการทำงาน ในฐานะหัวหน้ารัฐบาลและในฐานะนายกรัฐมนตรี จังหวัดระยองได้โอกาสอย่างมากจากคณะรัฐมนตรีชุดนี้ โครงการสำคัญที่เกิดขึ้นที่นายกรัฐมนตรีได้อุดหนุนลงมา เส้นโครงการป่ากลางเมือง ซึ่งเป็นผลพลอยได้ จากการประชุมคณะรัฐมนตรีสัญจร ยังมีอีกหลายโครงการทั้งผ่านช่องทางของคณะกรรมการนโยบาย EEC ที่จะเกิดโรงพยาบาลร่วมทุนแห่งแรกในประเทศไทย คนอยากพูดด้วยใจจริงในฐานะส.ส.จังหวัดระยอง และในฐานะที่เป็นคณะรัฐมนตรี
ขณะเดียวกันระหว่างการกล่าวรายงานต่อนายกรัฐมนตรี ของนายบุญสวยโสภณ สกุลกิจเจริญชัย ประธานจัดหารายได้ และประชาสัมพันธ์ สมาคมเครือข่ายสภาบันเกษตรกรชาวสวนยางแห่งประเทศไทย มีการแฉถึงการอนุมัติงบให้การช่วยเหลือของรัฐบาล โดยกล่าวว่า ตนได้ร่างจดหมาย สิ่งที่ไม่ดี ตนได้ขีดฆ่าไปแล้ว แต่เราคนจริง ต้องพูดกันตรงๆ หยุดความขัดแย้งได้แล้ว ซึ่งระหว่างนั้นนายอุทัย สอนหลักทรัพย์ นายกฯสมาคมสหพันชาวสวนยางแห่งประเทศไทย ได้เดินเข้าไปห้ามให้นายบุญสวยโสภณ หยุดพูด
จากนั้น นายกรัฐมนตรี กล่าวเปิดงานว่า ขอกล่าวว่า สวัสดีระยองฮิ พี่น้องชาวตะวันออก ก่อนที่จะกล่าวชมว่า ภาษาระยองพูดไพเราะดี ประเทศไทยเป็นประเทศที่มีวัฒนธรรมหลากหลาย มีคนอยู่หลายสัญชาติ อยู่ร่วมกันแบบพหุวัฒนธรรม ภาษาใดก็ตามหากพูดรู้เรื่องก็ใช้ได้ทั้งหมด ตนอยากให้ทุกอย่างเป็นไปด้วยความเข้าใจกัน ที่ผ่านมารัฐบาลพยายามทำในเรื่องของเกษตร ที่มีอยู่ 6 ชนิด ซึ่งต้องใช้การประกันราคาทั้งสิ้น ปัจจุบันราคายางตกด้วยสถานการณ์โลก จึงต้องช่วยกันคิดว่าจะทำอย่างไรให้ราคายางนั้นสูงขึ้น เราเป็นประเทศที่ผลิตยางได้เป็นอันดับต้นๆของโลก และคิดว่ประเทศผู้ผลิตยางจะสามารถรวมกลุ่มกันได้หรือไม่ เพื่อที่จะเกิดการต่อรองในเวทีโลก และทำอย่างไรชาวสวนยางจะมีรายได้ที่ดีขึ้นและลดต้นทุนการผลิตให้มากขึ้น ย้ำการเกษตรของเราจะต้องไม่ทำลายสิ่งแวดล้อมลดการใช้สารเคมี การปลูกพืชในพื้นที่ที่ไม่ถูกต้องตามกฏหมาย ซึ่งเรื่องนี้จะต้องระมัดระวังและหลายประเทศ ต้องตรวจสอบที่มาของผลิตภัณฑ์ทางการเกษตร ซึ่งคิดว่าหลายคนคงเตรียมความพร้อมไว้บ้างแล้ว พร้อมขอชื่นชมที่สามารถผลิตยางออกมาได้เป็นจำนวนมาก วันนี้เราต้องพัฒนา ติดตามสถานการณ์โลกและทำให้ทุกประเทศในโลกเลือกซื้อยางจากไทย
นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า หลังจากมีกระแสข่าวว่าถุงมือยางจากประเทศไทย ถูกจำกัดการส่งออก ตนเองได้สั่งการให้ตรวจสอบและแก้ไขทันที
นายกรัฐมนตรี ย้ำว่า การจัดตั้งอีอีซี มีประโยชน์ ขอให้ทุกคนมองให้ไกล เพื่อที่ประเทศจะได้มีจีดีพีที่สูงขึ้น และรัฐบาลได้วางโครงสร้างพื้นฐานไปแล้ว และบางอย่างรัฐบาลกำลังทำอยู่ และบางอย่างต้องทำต่อ ยืนยันว่าจะให้ความร่วมมือกับชาวสวนยาง และพร้อมที่จะรับข้อเสนอนำไปแก้ไข ส่งเสริมการใช้ยาง เช่น นำไปผลิตยางรถยนต์ โดย ประเทศไทยได้ทำกติกาและ สัญญาการลงทุนให้กับผู้ประกอบการไว้แล้ว จะต้องใช้ผลิตผลภายในประเทศ หลายหน่วยงานได้ทำงานวิจัยและช่วยเหลือกันอยู่ เพื่อใช้ประโยชน์ยางในประเทศให้มากที่สุด ย้ำว่ารัฐบาลต้องการแก้ไขปัญหาความยากจนลดความเหลื่อมล้ำ แลถทุกคนต้อง มีความเท่าเทียมทางโอกาส โดยใช้กฎหมายเดียวกัน รวมถึง ใช้งบประมาณในการดูแลผู้มีรายได้น้อย กลุ่มเปราะบาง เด็ก นักเรียน ทั้งหมดใช้เงินถึง 1 ล้านล้านบาทต่อปี ซึ่งในฐานะที่เป็นรัฐบาล ขอทราบเรื่องการใช้จ่ายงบฯ และทราบว่าบางอย่าง ใช้เงินถึง 9 แสนล้านบาท บางอย่างใช้ 3-4 แสนล้านบาท จึงขอตั้งคำถามว่า แล้วเงิน 1 ล้านล้านบาทเดิม จะเอาจากไหนมาให้ และหากตัดงบประมาณของแต่ละกระทรวง แล้วประเทศจะเกิดง่อยเปลี้ยเสียขาไป แล้วจะทำอย่างไร
นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ตนรักทุกคน และในฐานะที่เป็นนายกรัฐมนตรีตนอยากช่วย อยากให้ แต่บางอย่างทำไม่ได้ ก็ขอให้เข้าใจด้วยแล้วกัน ยินดีที่ได้วันนี้มีการจัดงานขึ้นมาเป็นความร่วมมือจากทุกฝ่าย รวมถึง มีการจับคู่ธุรกิจจากประเทศจีน พร้อมกล่าว “ขอบคุณ เซี๊ยะๆ”
ขณะที่ประชาชนตะโกนว่า ”รักลุงตู่ที่สุดเลย” นายกฯ จึงบอกว่า “รักให้น้อยกว่ารัฐมนตรีสาธิตหน่อยแล้วกัน บ้านอยู่ที่นี่ เดี๋ยวเขาน้อยใจ เดี๋ยวจะโดนเล่นงาน แหย่เล่นๆ” ย้ำว่า เป็นคนไทยต้องรักกัน ตนเป็นนายกที่จับต้องได้ ไม่ต้องโก้หรู แอคอาร์ต ตนไม่ใช่แบบนั้น มนุษย์เป็นอะไรก็เหมือนกัน หัวโขน แต่ระหว่างที่สวมหัวโขย ทำให้ดีที่สุดก็แล้วกันใช่หรือไม่
นายกฯ ย้ำว่าเคยมาที่จังหวัดระยองหลายครั้งแล้ว ดังนั้น ขอให้ทุกคนรักกัน ตนกับรัฐมนตรีสาธิต รักกันอยู่แล้ว ไม่ได้มีปัญหากัน เหมือนพี่น้องและช่วยกันทำงาน รวมถึงคณะกรรมการยางทุกคนที่รู้จัก และได้สู้กับปัญหานี้มาตลอด ดังนั้นเราจะต้องสู้ต่อไป เพื่อประเทศไทยของเรา เพื่อชาติศาสนาพระมหากษัตริย์ และเพื่อประชาชน
นายกฯ ย้ำว่าได้เร่งพัฒนาในหลายพื้นที่ให้เป็นเขตเศรษฐกิจพิเศษตั้งแต่เหนือจรดใต้ มี การวางโครงสร้างพื้นฐานไว้ให้ แต่จะมีความขัดแย้งบ้างแต่ก็ไม่น่าจะส่งผลกระทบ แต่ถ้าหากไม่ขัดแย้งทุกอย่างจะดี
นายกฯ ขออย่าไปทะเลาะกันไร้ประโยชน์ สิ่งที่เราต้องสำนึกอยู่เสมอ คือเราต้องหาให้เจอได้ทำอะไรไปบ้างแล้ว คือ ทำแล้ว สิ่งที่ทำไม่เสร็จก็ทำอยู่ และทำต่อ คือ ขยายสิ่งที่ทำไปแล้วและสิ่งที่ทำอยู่ ไปสู่ข้างหน้า เพื่อเชื่อมโยงไปยังสิ่งต่างๆ
จากนั้น นายกฯ เป็นสักขีพยานในโอกาสการลงนามการจับคู่ธุรกิจ โดยบันทึกความร่วมมือในการทำธุรกิจร่วมกันในประเทศไทย และเยี่ยมชมนิทรรศการการประยุกต์และพัฒนาเทคโนโลยีทางการเกษตรอุตสาหกรรม ที่ตอบสนองต่อความต้องการของตลาด พร้อมกันนี้ ได้ทดลอง กรีดยาง ด้วยเครื่องกรีดยางไฟฟ้า สวมถุงมือผ้าเคลือบยางฟองน้ำ ขณะที่ มีประชาชนมามอบดอกไม้ให้กำลังใจนายกฯ ด้วย .-สำนักข่าวไทย