ตรัง 14 ก.พ. – ชาวใต้นับพันคนจากหลายจังหวัด หิ้ว “นกปรอดหัวโขน” หรือ นกกรงหัวจุก กว่า 800 ตัว เข้าร่วมแข่งขันประชันเสียงฉายา “สมรภูมิบนราวเหล็ก” จนเต็มสนาม โดยเจ้าของสนามจัดขึ้น เพื่อฉลองวันเกิดให้กับตัวเอง และพบปะเพื่อนฝูงคนรักนก
ที่สนามแข่งขันนกปรอดหัวโขนหรือนกกรงหัวจุก ริมถนนเลียบสนามบินตรัง ต.โคกหล่อ อ.เมือง จ.ตรัง นายประทีป เครือเอียด หรือ หมี สนามบิน ข้าราชการสำนักงานที่ดิน จ.ตรัง พร้อมทีมงานร่วมกันจัดการแข่งขันประชันเสียงนกปรอดหัวโขน หรือนกกรงหัวจุก หลังต้องหยุดชะงักไปเกือบ 3 ปี จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ปีนี้ได้กำหนดจัดขึ้นมาอีกครั้ง เพื่อให้ผู้เลี้ยง และผู้ที่ชื่นชอบนกกรงหัวจุก ได้มีสนามในการแข่งขันประชันเสียง ประกอบกับวันนี้เป็นวันเกิดของนายประทีป จึงมีการนำเค้กมามอบให้กลางสนาม พร้อมกับร้องเพลงอวยพรวันเกิดให้ในคราวเดียวกัน
การแข่งขันครั้งนี้มีผู้ที่เลี้ยงนกกรงหัวจุกจาก จ.ตรัง กระบี่ พัทลุง สตูล และนครศรีธรรมราช กว่า 1,000 คน นำนกกรงหัวจุกกว่า 800 ตัว ซึ่งการแข่งขันในครั้งนี้ได้กำหนดเป็น 4 ยก 8 ดอก นกตัวไหนร้องได้ 8 ดอกก่อน ก็จะได้เข้ารอบชิง โดยแต่ละยกจะใช้ขันน้ำเจาะรู ใส่ลงไปในน้ำหากน้ำเต็มขันจมลงไปและมีการเป่านกหวีดถือว่าหมดไปหนึ่งยก ซึ่งการแข่งขันใช้เวลาโดยรวมประมาณ 1 ชั่วโมง โดยขณะการแข่งขันเจ้าของนกต่างใส่ลีลาการเชียร์อย่างสนุกสนาน เพื่อเรียกนกของตนเองให้ส่งเสียงร้อง ขณะที่กรรมการเข้ามานับคะแนน โดยมีถ้วยและเงินรางวัลเป็นเดิมพัน ซึ่งคณะกรรมการจะฟังเสียงนกเป็นรายตัว หากตัวไหนร้องเป็นสำนวน ชัดถ้อยชัดคำ จำนวน 3 พยางค์ ถึงจะได้ 1 คะแนน ซึ่งรางวัลในการแข่งขันครั้งนี้มีทั้งหมด 140 รางวัล รางวัลที่ 1 เงินสด 7,000 บาท รางวัลที่ 2 เงินสด 5,000 บาท รางวัลที่ 3 เงินสด 3,000 บาท รางวัลที่ 4-400 เป็นเงินสด 500 บาท ส่วนรางวัลที่ 101-140 เป็นข้าวสารส้มโอ 5 กก. และข้าวสารส้มโอ 1 กระสอบ
สำหรับนกกรงหัวจุกที่นำมาแข่งขันจะต้องมีใบอนุญาตถูกต้อง และมีการขออนุญาตจัดการแข่งขันอย่างถูกกฎหมาย ซึ่งการเลี้ยงนกกรงหัวจุกถือเป็นวิถีชีวิตของชาวปักษ์ใต้มาตั้งแต่ครั้งสมัยอดีต และการแข่งขันถือเป็นกีฬาพื้นบ้านชนิดหนึ่ง เช่นเดียวกับการแข่งขันประชันเสียง “นกเขาชวา” โดยในอดีตจะมีการนิยมเลี้ยงและแข่งขันกันเฉพาะพื้นที่ภาคใต้เท่านั้น แต่ในปัจจุบันมีการเพาะเลี้ยง และการแข่งขันกันทั่วทุกภาคของประเทศไทย. -สำนักข่าวไทย