นายกฯ เข้มกฎหมายจราจร หลังพบสถิติอุบัติเหตุสูง

กทม. 4 ก.พ.-นายกฯ ห่วงใยผู้ใช้รถใช้ถนน หลังข้อมูลเดือน ม.ค. ยอดผู้เสียชีวิตจากอุบัติเหตุทางถนนยังเพิ่มขึ้น กำชับ ตร.บังคับใช้มาตรการตามกฎหมาย

น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกกรัฐมนตรี กล่าวว่า ตามที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติและกรมการขนส่งทางบกได้เริ่มใช้ระบบตัดแต้มใบอนุญาตขับขี่ตาม พ.ร.บ.จราจรทางบก มาตั้งแต่วันที่ 9 ม.ค. 66 เป็นต้นมา พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ได้ให้ความสนใจติดตามข้อมูลเกี่ยวกับดำเนินการตามมาตรการและผลต่อสถานการณ์อุบัติเหตุบนท้องถนนอย่างใกล้ชิด


อย่างไรก็ตาม ข้อมูลผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บจากอุบัติเหตุทางถนนในเดือน ม.ค. 66 ยังอยู่ในระดับสูง ทำให้นายกรัฐมนตรีห่วงใยต่อพี่น้องประชาชนผู้ใช้รถใช้ถนนทุกท่าน และได้กำชับให้เจ้าหน้าที่ตำรวจได้มีการกวดขัน บังคับใช้มาตรการทั้งส่วนของการตัดแต้มใบอนุญาตขับขี่ และตามกฎหมายที่เกี่ยวข้องอย่างเข้มงวด เพื่อสร้างวินัยจราจรให้เกิดขึ้นกับผู้ขับขี่

นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรียังห่วงใยกรณีของอุบัติเหตุที่เกิดจากงานก่อสร้างบนท้องถนน จึงขอให้หน่วยงานที่รับผิดชอบการก่อสร้างทั้งส่วนของกรมทางหลวง ทางหลวงชนบท หรือหน่วยงานท้องถิ่นที่ควบคุมการก่อสร้างในสายทางย่อย ให้กำกับติดตามการทำงานของผู้รับเหมาให้มีการจัดสัญญาณแจ้งเตือนประชาชน หรือมีมาตรการป้องกันอุบัติเหตุให้รัดกุมด้วย


น.ส.ไตรศุลี กล่าวว่า ศูนย์ข้อมูลอุบัติเหตุทางถนน รายงานว่า ตั้งแต่วันที่ 1-31 ม.ค.66 ได้มีผู้เสียชีวิตจากอุบัติเหตุทางถนนทั้งสิ้น 1,408 ราย เพิ่มขึ้นจาก 1,302 ราย ในช่วงเดียวกันของปี 65 หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 8.14 ขณะที่จำนวนผู้บาดเจ็บอยู่ที่ 70,044 คน ลดลงจาก 80,178 คน ในปี 65 หรือลดลงร้อยละ 12.63 ซึ่งจากผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บทั้งหมดนี้เป็นผู้ประสบภัยจากจักรยานยนต์ถึงร้อยละ 80 ส่วนอีกร้อยละ 20 มาจากรถยนต์

ทางด้านกรมการขนส่งทางบก รายงานข้อมูลการดำเนินการตัดแต้มใบอนุญาตขับขี่ตั้งแต่วันที่ 9 ม.ค.เป็นต้นมา พบว่าจนถึงวันที่ 30 ม.ค.66 มีผู้กระทำผิดกฎหมายจราจรและถูกตัดแต้มสะสม 11,531 คน ส่วนใหญ่เป็นผู้ที่ถูกตัด 1 คะแนน ซึ่งเป็นกลุ่มความผิด เช่น ใช้โทรศัพท์ขณะขับรถ ไม่สวมหมวกนิรภัย ไม่รัดเข็มขัดนิรภัย ขับรถเร็วเกินกำหนด ขับรถบนทางเท้า ไม่หยุดให้คนข้ามทางม้าลาย ไม่หลบรถฉุกเฉิน เป็นต้น

น.ส.ไตรศุลี กล่าวว่า จากผู้ถูกตัดแต้มใบอนุญาตขับขี่ทั้งหมดข้างต้นเป็นผู้มีคะแนนคงเหลือจากคะแนนเต็ม 12 คะแนน สรุปได้ดังนี้ เหลือ 11 คะแนน จำนวน 9,717 คน เหลือ 10 คะแนน 1,718 คน เหลือ 9 คะแนน 71 คน เหลือ 8 คะแนน 14 คน เหลือ 7,6,5 และ 2 คะแนน อย่างละ 1 คน และเหลือ 1 คะแนน 7 คน


ทั้งนี้ กรมการขนส่งทางบกได้เตรียมความพร้อมสำหรับผู้ที่กระทำผิดแล้วโดนตัดแต้มใบขับขี่ให้สามารถเข้าอบรบเพื่อขอคืนแต้ม ซึ่งจะเป็นแนวทางที่ช่วยสร้างพฤติกรรมการขับรถที่ถูกต้องตามกฎหมาย ลดพฤติกรรมเสี่ยงสร้างจิตสำนึกด้านความปลอดภัย ลดอุบัติเหตุและการสูญเสียในภาพรวมลง.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สำนักสงฆ์หูตาทิพย์

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์”

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์” พระอ้างใช้สอนวิปัสสนากรรมฐาน เบื้องต้นอายัดไว้พิสูจน์ดีเอ็นเอ พร้อมเอาผิดหัวหน้าสำนักสงฆ์ ฐานนำศพเก็บไว้ในสถานที่ที่ไม่ใช่สุสานและฌาปนสถาน

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

รัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มยูเครน

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย แถลงยืนยันว่ารัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มภาคตะวันออกยูเครนเมื่อวานนี้ ตอบโต้ที่ยูเครนใช้ขีปนาวุธที่ได้รับมอบจากสหรัฐและอังกฤษ

ข่าวแนะนำ

โค้งสุดท้าย ศึกสองนารีชิงเก้าอี้ นายก อบจ.นครฯ

เหลือไม่ถึง 2 วันแล้ว ที่ชาวนครศรีธรรมราชจะได้ออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งนายก อบจ.นครฯ ศึกนี้เป็นการสู้กันเองของพรรคร่วมรัฐบาล ฝ่ายหนึ่งต้องการรักษาฐานที่มั่นไว้ให้ได้ อีกฝ่ายต้องการเจาะฐานให้แตก เพื่อหวังครองที่นั่งการเมืองระดับชาติในสมัยหน้า

ร้อนระอุโค้งสุดท้าย ศึกชิงเก้าอี้ นายก อบจ.อุดรธานี

การเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี ครั้งนี้ดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครจาก 2 พรรคใหญ่ลงชิงชัย ต่างเร่งเครื่องเต็มที่ในโค้งสุดท้าย การเลือกตั้งจะเกิดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 24 พ.ย.นี้ ใครจะเป็นผู้คว้าชัยชนะและสร้างการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญให้จังหวัดอุดรธานี ไปติดตามจากรายงาน

ความเห็นนักวิชาการ คดีทักษิณ

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติไม่รับคำร้อง นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีและพรรคเพื่อไทย ร่วมกันกระทำการอันเป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครอง ขณะที่นักวิชาการชี้ว่าไม่ได้พลิกไปจากความคาดหมาย และผลจากคดีนี้ ไม่ทำให้เกิดจุดเปลี่ยนทางการเมือง แต่ก็ยังมีจุดเสี่ยงที่ต้องระวัง