กรุงเทพฯ 24 ม.ค. – ผู้ว่าฯ กทม. จับมือ คพ. ติดตามสถานการณ์ฝุ่น PM 2.5 เร่งควบคุมสาเหตุการเกิดฝุ่น
นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ประชุมร่วมกับนายปิ่นสักก์ สุรัสวดี อธิบดีกรมควบคุมมลพิษ (คพ.) เพื่อหารือความร่วมมือ รวมทั้งสรุปสถานการณ์ การคาดการณ์ และการยกระดับมาตรการช่วงสถานการณ์ฝุ่น PM 2.5 สูงเกินค่ามาตรฐาน โดยเปิดเผยภายหลังการประชุมว่า ณ เวลา 16.30 น. สถานการณ์ฝุ่น PM 2.5 ในพื้นที่กรุงเทพมหานคร ดีขึ้น เนื่องจากอากาศยกตัวสูงขึ้น และมีลมพัด ค่าฝุ่น PM 2.5 น้อยลงมาก หากดูสถานการณ์ปัจจุบันเป็นรายชั่วโมง ค่าฝุ่นต่ำกว่า 20 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร ดังนั้น อากาศจะค่อยๆ ดีขึ้น ตัวเลขเฉลี่ย 24 ชั่วโมง จะค่อยๆ ดีขึ้น เบื้องต้นแนะนำประชาชนให้ติดตามค่าฝุ่นผ่านทางแอปพลิเคชัน Air4Thai และ AirBKK
สิ่งหนึ่งที่มีปัญหาชัดเจนคือ การเผาในที่โล่ง จะเห็นได้ว่ามีจุด Hot Spot เพิ่มขึ้นในหลายพื้นที่ อาจจะไม่มีผลมาก แต่ก็มีผลในจุดที่มีการเผา ซึ่งอยู่บริเวณปริมณฑล พอลมพัดเข้ามา ฝุ่นส่วนหนึ่งจะมาผสมฝุ่นจากเครื่องยนต์ดีเซลที่สันดาปไม่สมบูรณ์ ทำให้เกิดปริมาณฝุ่นสูงขึ้นได้ สิ่งที่เราต้องทำคือ ควบคุมปริมาณฝุ่นให้ได้มากที่สุด
สาเหตุหนึ่งที่ทำให้เกิดฝุ่นคือ การเผาชีวมวลในกรุงเทพมหานคร โดยจะเร่งควบคุมสาเหตุการเกิดฝุ่น เช่น การเผา หากได้รับรายงานว่าพื้นที่ไหนมีการเผา จะส่งเจ้าหน้าที่ขอความร่วมมือให้หยุดการเผา ส่วนในพื้นที่จังหวัดใกล้เคียง จะทำหนังสือเพื่อขอความร่วมมือเรื่องการเผาชีวมวลให้เกิดการเผาน้อยที่สุด
ส่วนรถควันดำ การปรับมาตรฐานน้ำมัน หรือการเปลี่ยนมาใช้รถยูโร 5 เพื่อลดมลพิษ กรมควบคุมมลพิษกำลังดำเนินการอยู่ ทาง กทม. จะกำจัดต้นตอของการเกิดฝุ่น โดยจัดส่งเจ้าหน้าที่ไปควบคุมการทำงาน ลดการเกิดฝุ่น เช่น ไซต์งานก่อสร้าง โรงปูนและรถบรรทุก พร้อมทั้งเพิ่มจุดตรวจมากขึ้น พร้อมกันนี้ขอความร่วมมือให้ประชาชนช่วยกันหันมาเติมน้ำมันกำมะถันต่ำ หันมาใช้รถสาธารณะเพิ่มขึ้น ลดกิจกรรมการก่อสร้าง รวมทั้งการ work from home ถ้าสามารถทำได้ ก็จะทำให้ลดความเสี่ยงจากกิจกรรมที่ทำให้เกิดฝุ่น
ด้านการป้องกันตนเอง ขอความร่วมมือประชาชนสวมใส่หน้ากาก N95 หากใส่ได้จะดี หรือไม่สะดวก สามารถสวมหน้ากากอนามัยแบบปกติได้ โดย กทม. จะแจกหน้าอนามัยให้แก่กลุ่มเปราะบาง เพื่ออย่างน้อยเป็นการป้องกันตนเอง มาตรการระยะยาวคงต้องเปลี่ยนรูปแบบการใช้รถยนต์มาใช้รถขนส่งสาธารณะที่ใช้พลังงานสะอาด
ในวันที่ 26 ม.ค.นี้ คาดว่าค่าฝุ่นจะสูงอีกวัน อยากให้ประชาชนเตรียมความพร้อมรับมือ ตอนเช้าให้ตรวจสอบค่าฝุ่น เพื่อวางแผนการเดินทาง ส่วน กทม. และ คพ. จะเร่งควบคุมแหล่งกำเนิดฝุ่น และกิจกรรมต่างๆ ที่ก่อให้เกิดฝุ่น เช่น ไซต์ก่อสร้าง หรือรถบรรทุก โรงเรียนก็ยังคงเปิดทำการเรียนการสอนได้ตามปกติ ตอนนี้สถานการณ์ยังไม่น่าเป็นห่วง แต่จะต้องควบคุมและเฝ้าระวังอย่างเข้มข้นไปตลอดทั้งเดือนกุมภาพันธ์ แต่พอเข้าเดือนมีนาคม สถานการณ์จะคลี่คลายกว่านี้.-สำนักข่าวไทย