นายกฯ ลงพื้นที่สุพรรณบุรี ติดตามกรณีชาวบ้าน 113 ราย ไร้ที่ทำกิน

สุพรรณบุรี 24 ม.ค. – นายกฯ ลงพื้นที่ อ.ด่านช้าง จ.สุพรรณบุรี รับปัญหาชาวบ้านไร้ที่ทำกิน 113 ราย หลังร้องเรียนไม่คืบ ย้ำมาแก้ปัญหายึดตามกฎหมาย ไม่ได้หวังให้รักและไม่ได้มาการเมือง เจอชาวบ้านขอหอมแก้ม แก้เขินบอกต้องระวังโควิด แต่ให้ถ่ายรูปแทน


ภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรีแล้วเสร็จ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม พร้อมด้วยนายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค เลขาธิการนายกรัฐมนตรี นายธนกร วังบุญคงชนะ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เดินทางลงพื้นที่อำเภอด่านช้าง จังหวัดสุพรรณบุรี เพื่อตรวจราชการ

เมื่อเดินทางถึง นายกรัฐมนตรีเดินทางไปยังพื้นที่ใช้ประโยชน์ ณ แปลงจัดสรร ตำบลวังยาว อำเภอด่านช้าง ตรวจติดตามพื้นที่ทำกิน กรณีชาวบ้านไร้ที่ทำกิน 113 ราย ร้องเรียนการขอจัดที่ดินทำกินล่าช้า


จากนั้นนายกรัฐมนตรีพบปะกับประชาชนที่ได้รับจัดสรรพื้นที่ใช้ประโยชน์ ที่ อบต.วังยาว เมื่อนายกรัฐมนตรีมาถึงได้รับพวงมาลัยและดอกไม้จากชาวบ้าน นายกรัฐมนตรีระบุว่าขอบคุณทุกคน ตนมีกำลังใจมากขึ้น

นายกรัฐมนตรีได้สอบถามปัญหากับชาวบ้าน โดยนายกรัฐมนตรีระบุว่าทำคณะกรรมการนโยบายที่ดินแห่งชาติ หรือ คทช. มาหลายปีแล้ว จัดตั้งคณะกรรมการแก้ไขปัญหาให้กับผู้มีรายได้น้อย ตั้งแต่รัฐบาลที่แล้วจนถึงรัฐบาลนี้ วันนี้ถือโอกาสมาดูว่ามีปัญหาอะไรอีกบ้าง ยืนยันว่าตนมาในนามนายกฯ รักทุกคนอยู่แล้ว ต้องทำให้ถูกต้อง โดยระหว่างที่นายกรัฐมนตรีพูดกับชาวบ้าน ไมค์ติดๆ ดับๆ จนชาวบ้านแซวว่าไม่ต้องใช้ไมค์ นายกฯ ไฟแรงอยู่แล้ว

นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า วันนี้มาเพื่อให้ความเป็นธรรมกับประชาชน ซึ่งนายกรัฐมนตรีเองมีนโยบายเรื่องความเท่าเทียมและการเข้าถึงโอกาส ดูแลผู้มีรายได้น้อย แต่ทั้งหมดต้องอยู่บนพื้นฐานของกฎหมาย กฎกติกา ต้องยอมรับซึ่งกันและกัน


นายกรัฐมนตรีรับปากว่าหลักการทั้งหมดนั้นอนุมัติให้อยู่แล้ว แต่ต้องตรวจสอบเอกสารสิทธิ์ว่าถูกต้องหรือไม่ โดยได้สั่งการให้ดูที่ดิน 2 แปลงใหญ่ ว่าเป็นการเช่าตามกฎหมายหรือไม่ พร้อมระบุอีกว่ากติกาสำคัญคือต้องตรวจสอบว่าชาวบ้าน 113 ราย มีที่ดินทำกินที่อื่นหรือไม่ ถ้ามีจะไม่ได้รับการจัดสรร ซึ่งชาวบ้านรับปากว่าครับ จนนายกรัฐมนตรีแซวว่าพูดเพราะ เป็นทหารเก่าหรือเปล่า

นายกรัฐมนตรีถามว่าใครเป็นคนจัดสรรให้ ชาวบ้านบอกว่า “คุณพี” นายกฯ ถามว่า “คุณพี” คือใคร แต่ไม่ว่าใครก็ตัดสินไม่ได้ เพราะตนคือ นายกฯ ถ้านายกฯ ตัดสินไม่ได้ ใครก็ทำให้ไม่ได้เหมือนกัน

ทั้งนี้ ชาวบ้านบอกว่าผู้ว่าราชการจังหวัดไม่ดำเนินการให้ นายกฯ จึงรีบปรามว่าไม่ใช่ศัตรูกัน คนไทยด้วยกันทั้งนั้น ตอนนี้ตนได้มอบหมายให้ผู้ว่าฯ ไปดำเนินการเรียบร้อยแล้ว

นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ได้สั่งการไปว่าให้ดำเนินการให้ชาวบ้าน 113 รายนี้ หากถูกต้องจะต้องทำผัง และจับสลากว่าใครอยู่ตรงไหน จากการดูเอกสารพบว่ามีชาวบ้านไม่ผ่านการพิจารณาตามหลักเกณฑ์ 59 ราย เหลือเพียง 54 รายที่ถูกต้อง พร้อมย้ำว่าให้ทุกคนยอมรับกฎกติกาตรงนี้ พร้อมสอบถามถึงที่ดินแปลงหนึ่งที่มีการไปล้อมรั้วลวดหนาม บ้านเมืองไม่มีขื่อมีแปหรืออย่างไร

“ตนมาประสานให้ทุกอย่างเดินหน้า ไม่ได้มาทำเพื่อให้ทุกคนรักตน หากจะรักก็รักอยู่แล้ว แต่ทำวันนี้คือทำให้ถูกต้อง วันนี้ตนมาประสาน เพื่อให้ดำเนินงานต่อไปให้ได้ ไม่ได้ทำเพื่อเอาใจ วันนี้หากสำเร็จต้องให้เครดิตกับผู้ว่าฯ และคณะทำงาน อย่าไปโกรธกัน โกรธกันไม่ได้ เพราะต้องรักษากฎหมาย หลักนิติศาสตร์กับรัฐศาสตร์ต้องเดินคู่กัน หากขัดแย้งกันบ้านเมืองก็เดินต่อไปไม่ได้ ต้องสร้างความรักความสามัคคี จะบอกว่ารักนายกฯ หรือไม่ชอบผู้ว่าฯ ก็ไม่ได้ ต้องมีกฎหมายดูแล วันนี้การทำงานก็มีรองนายกฯ อยู่หลายคน” นายกรัฐมนตรี กล่าว

ทั้งนี้ ชาวบ้านบอกว่ารู้สึกดีใจที่นายกฯ ลงมาดูด้วยตัวเอง เมื่อคืนนอนไม่หลับ ถ้านายกฯ ไม่มาอาจทำให้ถูกตัดสิทธิได้ พร้อมกันนี้มีชาวบ้าน สวมกอดนายกฯ และขอถ่ายรูป บอกว่านายกฯ หล่อกว่าในโทรทัศน์ อีกทั้งมีชาวบ้านขอหอมแก้ม แต่นายกฯ บอกว่าโควิดยังมีอยู่ จึงให้ถ่ายรูปด้วยเท่านั้น

ช่วงท้ายนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ปัญหามีแต่จะให้ลงไปทุกพื้นที่คงไม่มีเวลา เพราะมีปัญหาและงานอีกเยอะที่ต้องทำ แค่ขอให้ยกปัญหาครั้งนี้เป็นบทเรียน เพื่อจะนำร่องไปแก้ไขปัญหาที่ดินทำกินในพื้นที่อื่นได้อย่างไร

นอกจากนี้ยังมีตัวแทนชาวบ้านอีก 6 คน ขอให้นายกฯ แก้ไขปัญหาที่ดินทำกินที่ทับซ้อนกับที่ดินของรัฐ มีชาวบ้าน 95 ครอบครัวที่ยังไม่มีเอกสารสิทธิ ปัญหานี้ชาวบ้านเข้ามาทำกินในพื้นที่ก่อนปี 2506 ที่ภาครัฐเข้ามาจัดระเบียบ ประกาศเป็นพื้นที่ป่าสงวนฯ ทำให้ไม่มีเอกสารสิทธิ โดยนายกรัฐมนตรีขอให้ชาวบ้านใจเย็น ตอนนี้กำลังอยู่ในกติกาที่กำลังแก้อยู่ และจะรับเรื่องนี้ไปพิจารณา ซึ่งปัญหานี้เป็นการประกาศพื้นที่ทับซ้อน หลังจากจัดทำพื้นที่อัตรา 1:4000 วันนี้ตนมาแล้วก็จะรับเรื่องไว้ใหม่

นายกรัฐมนตรีกล่าวก่อนเดินทางกลับว่า วันนี้ตนพูดในนามรัฐบาล ไม่ได้มาหาเสียง หน้าที่ของนายกรัฐมนตรีคือให้ความเป็นธรรมกับประชาชนทั่วประเทศ การลงพื้นที่ครั้งนี้ การนำแนวทางไปใช้กับพื้นที่อื่นด้วย เพราะ คทช. จะจัดระเบียบทุกจังหวัดทั่วประเทศ ซึ่งมีปัญหาอยู่มาก ชาวบ้านมีทั้งเข้าใจและไม่เข้าใจ แต่นายกฯ ในฐานะประธาน คทช. ก็ได้มารับฟังปัญหาแล้ว แก้ไขเพื่อลดความขัดแย้ง ให้ชาวบ้านได้รับความเป็นธรรมอย่างทั่วถึง ซึ่งทั้งหมดคือหน้าที่ของรัฐบาล.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ทหารทำร้าย

ทบ.ตั้ง กก.สอบปมกรมยุทธศึกษาทหารบก ทำร้ายผู้ใต้บังคับบัญชา

“ธนเดช” เผย กมธ.ทหาร รับเรื่องร้องเรียนเจ้ากรมยุทธศึกษาทหารบก ทำร้ายร่างกายผู้ใต้บังคับบัญชา ขณะ ทบ. ตั้งกรรมการสอบแล้ว หวังเป็นตัวอย่างการลงโทษผู้บังคับบัญชาระดับสูงหากพบผิดจริง

“บิ๊กแจ๊ส” ลั่นพร้อมดูแลสนามกอล์ฟธูปะเตมีย์ ให้เป็นปอดประชาชน

“บิ๊กแจ๊ส” ลั่นหากได้รับถ่ายโอน อบจ.ปทุมฯ พร้อมจัดงบดูแลสนามกอล์ฟธูปะเตมีย์ ให้เป็นปอดประชาชน หลังขาดพื้นที่ออกกำลังกาย แต่จะกระทบความมั่นคงหรือไม่เป็นเรื่องละเอียดอ่อนต้องคุยกันต่อ

ข่าวแนะนำ

ทนายดิไอคอน แจ้งความเอาผิด “กฤษอนงค์-ฟิล์ม” พยายามฉ้อโกง

“ทนายบอสพอล” แจ้งความเอาผิด “กฤษอนงค์-ฟิล์ม” พยายามฉ้อโกง จ่อฟันเอาผิดเพิ่ม 89 ขบวนการอ้างตัวเป็นผู้เสียหาย

นายกฯ เผยเศรษฐกิจฟื้นตัวต่อเนื่อง เล็งออกมาตรการช่วยผู้สูงอายุ

นายกฯ เป็นประธานประชุมบอร์ดกระตุ้นเศรษฐกิจนัดแรก เผยจีดีพีรวม 3 ไตรมาส 2.3% ฟื้นตัวต่อเนื่อง เล็งออกมาตรการช่วยกลุ่มผู้สูงอายุต่อไป