เห็นชอบใช้งบกองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา ปี 67


ทำเนียบรัฐบาล 24 ม.ค.- ครม.เห็นชอบแผนการใช้เงินของกองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา ปีงบฯ 67 วงเงิน 7,985,786,100 บาท แก้ปัญหาเหลื่อมล้ำการศึกษา ช่วยนักเรียนขาดแคลนทุนทรัพย์ หรือด้อยโอกาส 2,636,304 คน


น.ส.ทิพานัน ศิริชนะ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงผลการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า ที่ประชุม ครม.มีมติเห็นชอบแผนการใช้เงินของกองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 ตามที่กองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษาเสนอ ซึ่งประกอบไปด้วย 9 แผนงาน โดยมีสาระสำคัญสรุปได้ ดังนี้

  1. นวัตกรรมและการวิจัยเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา เช่น วิจัยและพัฒนาร่วมกับพันธมิตรและเครือข่ายทั้งในและต่างประเทศ เพื่อแก้ไขปัญหาความเหลื่อมล้ำทางการศึกษาในมิติต่างๆ กรอบวงเงินงบประมาณ 267.50 ล้านบาท
  2. พัฒนาระบบหลักประกันความเสมอภาคทางการศึกษา (ปฐมวัย-ภาคบังคับ) เช่น พัฒนาระบบคัดกรองและช่วยเหลือกลุ่มเป้าหมายที่อยู่ในครัวเรือนยากจนที่สุดร้อยละ 15 ล่างของประเทศ เพื่อให้เข้าถึงการเรียนรู้ การจัดสรรเงินอุดหนุนแบบมีเงื่อนไขสำหรับนักเรียนทุนเสมอภาค โดยผลักดันให้มีการปรับอัตราเงินอุดหนุนนักเรียนทุนเสมอภาค เพื่อให้สอดคล้องกับค่าครองชีพในปัจจุบัน รวมทั้งติดตามนักเรียนเพื่อป้องกันการหลุดออกจากระบบการศึกษา กรอบวงเงินงบประมาณ 5,359.05 ล้านบาท
  3. พัฒนาคุณภาพโรงเรียนทั้งระบบ เช่น พัฒนากลไกและสร้างเครือข่ายโรงเรียนเชิงพื้นที่ในระดับจังหวัดให้เป็นต้นแบบการพัฒนาคุณภาพการศึกษา กรอบวงเงินงบประมาณ 280 ล้านบาท
  4. จัดการศึกษาเชิงพื้นที่เพื่อลดความเหลื่อมล้ำ เช่น จัดเวทีแลกเปลี่ยนเรียนรู้/สังเคราะห์ข้อมูลระหว่างคณะทำงานจัดการศึกษาเชิงพื้นที่ กรอบวงเงินงบประมาณ 70 ล้านบาท
  5. พัฒนาระบบการผลิตและพัฒนาครูสำหรับโรงเรียนพื้นที่ห่างไกล เช่น ส่งเสริมนักเรียนยากจนพิเศษและครูตำรวจตระเวนชายแดนประจำการพื้นที่ห่างไกลที่มีใจรักในวิชาชีพครูได้เรียนครูและกลับไปเป็นครูยังภูมิลำเนาของตนเอง กรอบวงเงินงบประมาณ 394.11 ล้านบาท
  6. ส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพการศึกษาระดับสูงกว่าภาคบังคับ เช่น สนับสนุนเยาวชนที่ขาดแคลนทุนทรัพย์และด้อยโอกาสให้ได้รับโอกาสในการศึกษาต่อในสายอาชีพที่เสมอภาคกับเยาวชนทุกคน กรอบวงเงินงบประมาณ 1,025.92 ล้านบาท
  7. ส่งเสริมและพัฒนาเยาวชน และประชากรวัยแรงงานนอกระบบ เช่น ส่งเสริมให้ได้รับโอกาสกลับเข้าสู่ระบบการศึกษา หรือได้รับการพัฒนาความรู้ความสามารถจนมีทักษะที่สามารถนำไปใช้ในการประกอบอาชีพตามศักยภาพ กรอบวงเงินงบประมาณ 251 ล้านบาท
  8. สื่อสารความรู้และระดมความร่วมมือเพื่อขับเคลื่อนนโยบายสาธารณะ เช่น สนับสนุนให้เกิดพื้นที่การมีส่วนร่วมในกระบวนการนโยบายสาธารณะ กรอบวงเงินงบประมาณ 46.50 ล้านบาท
  9. บริหารและพัฒนาระบบงานโดยพัฒนาระบบตามแผนดำเนินงานด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ เพื่อช่วยลดภาระงานเชิงปริมาณ เกิดความแม่นยำ ลดความเสี่ยงจากความผิดพลาดเชิงปฏิบัติงาน กรอบวงเงินงบประมาณ 291.71 ล้านบาท

    “ผลผลิตสำคัญ ผลต่อประชาชนและประเทศ ของการดำเนินงานของกองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษาที่สำคัญ เช่น เด็กและเยาวชนที่ขาดแคลนทุนทรัพย์หรือด้อยโอกาสได้รับการอุดหนุนเงินเพื่อบรรเทาอุปสรรคการเข้าถึงการศึกษาที่สอดคล้องกับความจำเป็น ตั้งแต่ระดับปฐมวัยจนสำเร็จการศึกษาขั้นพื้นฐาน จำนวน 2,636,304 คน/ครั้ง ในขณะที่เยาวชนและแรงงานนอกระบบการศึกษาได้รับการช่วยเหลือตามความจำเป็น หรือสนับสนุนให้กลับเข้าสู่ระบบการศึกษาหรือได้รับการพัฒนาทักษะวิชาชีพที่เหมาะสม ส่วนครูและหน่วยจัดการเรียนรู้ทั้งในและนอกระบบการศึกษาได้รับการพัฒนาคุณภาพทั่วถึง” น.ส.ทิพานัน กล่าว.-สำนักข่าวไทย.


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สำนักสงฆ์หูตาทิพย์

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์”

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์” พระอ้างใช้สอนวิปัสสนากรรมฐาน เบื้องต้นอายัดไว้พิสูจน์ดีเอ็นเอ พร้อมเอาผิดหัวหน้าสำนักสงฆ์ ฐานนำศพเก็บไว้ในสถานที่ที่ไม่ใช่สุสานและฌาปนสถาน

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

รัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มยูเครน

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย แถลงยืนยันว่ารัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มภาคตะวันออกยูเครนเมื่อวานนี้ ตอบโต้ที่ยูเครนใช้ขีปนาวุธที่ได้รับมอบจากสหรัฐและอังกฤษ

ข่าวแนะนำ

โค้งสุดท้าย ศึกสองนารีชิงเก้าอี้ นายก อบจ.นครฯ

เหลือไม่ถึง 2 วันแล้ว ที่ชาวนครศรีธรรมราชจะได้ออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งนายก อบจ.นครฯ ศึกนี้เป็นการสู้กันเองของพรรคร่วมรัฐบาล ฝ่ายหนึ่งต้องการรักษาฐานที่มั่นไว้ให้ได้ อีกฝ่ายต้องการเจาะฐานให้แตก เพื่อหวังครองที่นั่งการเมืองระดับชาติในสมัยหน้า

ร้อนระอุโค้งสุดท้าย ศึกชิงเก้าอี้ นายก อบจ.อุดรธานี

การเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี ครั้งนี้ดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครจาก 2 พรรคใหญ่ลงชิงชัย ต่างเร่งเครื่องเต็มที่ในโค้งสุดท้าย การเลือกตั้งจะเกิดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 24 พ.ย.นี้ ใครจะเป็นผู้คว้าชัยชนะและสร้างการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญให้จังหวัดอุดรธานี ไปติดตามจากรายงาน

ความเห็นนักวิชาการ คดีทักษิณ

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติไม่รับคำร้อง นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีและพรรคเพื่อไทย ร่วมกันกระทำการอันเป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครอง ขณะที่นักวิชาการชี้ว่าไม่ได้พลิกไปจากความคาดหมาย และผลจากคดีนี้ ไม่ทำให้เกิดจุดเปลี่ยนทางการเมือง แต่ก็ยังมีจุดเสี่ยงที่ต้องระวัง