เร่งสอบหน่วยงานใดเข้าข่ายความผิดกรณีต้นไม้หักทับสาวขี่จยย.ดับแยกชิดลม

กรุงเทพฯ 14 พ.ค.- ตำรวจเร่งสอบพยานและรวบรวมหลักฐานพิจารณาหน่วยงานหรือผู้ใดเข้าข่ายความผิด กรณีเหยื่อสาวถูกต้นไม่ล้มทับขณะติดไฟแดงย่านชิดลม ขณะที่ครอบครัวผู้เสียชีวิตเข้ารับศพท่ามกลางบรรยากาศโศกเศร้า 


ครอบครัว นางสาวณัชชาพัชร์ สมเจษ ผู้เสียชีวิตจากเหตุเสาไฟฟ้าล้มทับ บริเวณถนนข้างห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัลชิดลม เข้ารับศพของนางสาวณัชชาพัชร์  ที่ภาควิชานิติเวชศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ก่อนนำไปประกอบพิธีทางศาสนา ที่วัดแก้วฟ้าจุฬามณี  เขตดุสิต ด้วยความโศรกเศร้า พร้อมเปิดเผยว่า ครอบครัวรู้สึกเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น แต่ก็ไม่ได้คิดโทษว่าเป็นความผิดของใคร ขอให้เป็นหน้าที่ของตำรวจในการตรวจสอบว่ามีผู้ใดกระทำผิดหรือต้องรับโทษหรือไม่ ซึ่งขณะเกิดเหตุ นางสาวณัชชาพัชร์ กำลังเดินทางไปทำงานที่ร้านเบเกอรี่ ในห้างสรรพสินค้า เซ็นทรัลแอมบาซซี่ ซึ่งใช้เส้นทางนี้เป็นประจำ ทั้งนี้ทางครอบครัวได้รับการช่วยเหลือเรื่องค่าดำเนินการจัดงานศพเบื้องต้น จากทางเจ้าของอาคารอัลมาลิงค์ ตรงจุดเกิดเหตุ ที่เป็นเจ้าของต้นไม้ดังกล่าวแล้ว  ส่วนการไฟฟ้าครอบครัวยังไม่ได้รับการติดต่อช่วยเหลือคาดคงมีการเยียวยาให้

ส่วนความคืบหน้าคดี พันตำรวจเอกพรชัย ชลอเดช ผู้กำกับการสถานีตำรวจนครบาลลุมพินี เปิดเผยเบื้องต้นยังไม่มีการแจ้งข้อกล่าวหา ดำเนินคดีกับใคร เนื่องจากการตรวจสอบหาสาเหตุยังไม่แล้วเสร็จ โดยพนักงานสอบสวนได้เรียก เจ้าหน้าที่กรมป่าไม้ ตัวแทนเจ้าของอาคารที่เป็นผู้ดูแลต้นไม้ ญาติผู้เสียชีวิต และพยานแวดล้อม เข้าให้ปากคำบางส่วนแล้ว ขณะที่ ตัวแทนการไฟฟ้านครหลวง กทม. และห้างสรรพสินค้า ขอนัดเข้าให้ปากคำวันพรุ่งนี้ เนื่องจากวันนี้เป็นวันหยุดราชการ 


ทั้งนี้ หากเป็นอุบัติเหตุที่เกิดจากธรรมชาติก็อาจดำเนินคดีกับใครไม่ได้ ยืนยันให้ความเป็นธรรมทุกฝ่ายและจะดำเนินการตรวจสอบตามหลักฐานที่พบ ซึ่งทาง พลตำรวจโทศานิตย์ มหถาวร ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล มีคำสั่งให้คณะทำงานในคดีนี้ตรวจสอบรายละเอียดด้วยว่าเหตุการณ์ลักษณะนี้จะมีผู้ใดเข้าข่ายกระทำการโดยประมาทหรือไม่ อาทิ การตรวจสอบว่าการติดตั้งเสาไฟฟ้ามีระยะห่างจากต้นไม้ใหญ่ตามที่กำหนดหรือไม่ รวมถึงการดูแลต้นไม้ของผู้ที่ปลูก มีการดูแลดีหรือไม่  เพื่อเป็นบรรทัดฐานหากเกิดเหตุการณ์คล้ายลักษณะนี้อีก โดยให้รองผู้บังคับการตำรวจนครบาล 5 ลงมาควบคุมดูแล.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สำนักสงฆ์หูตาทิพย์

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์”

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์” พระอ้างใช้สอนวิปัสสนากรรมฐาน เบื้องต้นอายัดไว้พิสูจน์ดีเอ็นเอ พร้อมเอาผิดหัวหน้าสำนักสงฆ์ ฐานนำศพเก็บไว้ในสถานที่ที่ไม่ใช่สุสานและฌาปนสถาน

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

รัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มยูเครน

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย แถลงยืนยันว่ารัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มภาคตะวันออกยูเครนเมื่อวานนี้ ตอบโต้ที่ยูเครนใช้ขีปนาวุธที่ได้รับมอบจากสหรัฐและอังกฤษ

ข่าวแนะนำ

โค้งสุดท้าย ศึกสองนารีชิงเก้าอี้ นายก อบจ.นครฯ

เหลือไม่ถึง 2 วันแล้ว ที่ชาวนครศรีธรรมราชจะได้ออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งนายก อบจ.นครฯ ศึกนี้เป็นการสู้กันเองของพรรคร่วมรัฐบาล ฝ่ายหนึ่งต้องการรักษาฐานที่มั่นไว้ให้ได้ อีกฝ่ายต้องการเจาะฐานให้แตก เพื่อหวังครองที่นั่งการเมืองระดับชาติในสมัยหน้า

ร้อนระอุโค้งสุดท้าย ศึกชิงเก้าอี้ นายก อบจ.อุดรธานี

การเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี ครั้งนี้ดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครจาก 2 พรรคใหญ่ลงชิงชัย ต่างเร่งเครื่องเต็มที่ในโค้งสุดท้าย การเลือกตั้งจะเกิดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 24 พ.ย.นี้ ใครจะเป็นผู้คว้าชัยชนะและสร้างการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญให้จังหวัดอุดรธานี ไปติดตามจากรายงาน

ความเห็นนักวิชาการ คดีทักษิณ

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติไม่รับคำร้อง นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีและพรรคเพื่อไทย ร่วมกันกระทำการอันเป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครอง ขณะที่นักวิชาการชี้ว่าไม่ได้พลิกไปจากความคาดหมาย และผลจากคดีนี้ ไม่ทำให้เกิดจุดเปลี่ยนทางการเมือง แต่ก็ยังมีจุดเสี่ยงที่ต้องระวัง