กรุงเทพฯ 13 พ.ค.- รองประธาน สปท. ห่วงความขัดแย้งทางการเมืองทำปฏิรูปประเทศสะดุด ยืนยันประเทศดีขึ้นกว่าเมื่อ 3 ปีก่อน เรียกร้องฝ่ายการเมืองทบทวนความผิดพลาดในอดีต
นายอลงกรณ์ พลบุตร รองประธานสภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ (สปท.) กล่าวว่า รู้สึกกังวลต่อสถานการณ์บ้านเมืองที่กลับมาปั่นป่วนอีกครั้งจากการเคลื่อนไหวทางการเมืองของหลายฝ่ายซึ่งจะกระทบต่อการเดินหน้าปฏิรูปประเทศและการสร้างความสามัคคีปรองดอง ขณะนี้การปฏิรูปกำลังคืบหน้า แม้ว่ายังไม่ดีทุกด้านแต่ประเทศแข็งแรงขึ้นอันเป็นผลจากการปฏิรูปประเทศ วันนี้เศรษฐกิจกำลังเติบโตต่อเนื่อง 3 ปีสูงกว่าอเมริกาและยุโรป ทุนสำรองระหว่างประเทศของไทยสูงสุดเป็นอันดับ12 ของโลก ทำให้มีการยื่นขอส่งเสริมการลงทุนในปี2559 คิดเป็นตัวเงินเพิ่มขึ้นเกือบ 200% และเป็นการลงทุนในอุตสาหกรรมใหม่ถึง51% สะท้อนความเชื่อมั่นของต่างประเทศและการเปลี่ยนแปลงการพัฒนาประเทศสู่เศรษฐกิจฐานใหม่ เน้นนวัตกรรม สร้างมูลค่าเพิ่มตามแนวทางปฏิรูปเริ่มเห็นผล ซึ่งหากไม่มีปัญหาการเมืองอีก ทุกอย่างจะดีขึ้นอย่างมีอนาคต
รองประธาน สปท. กล่าวว่า ทุกฝ่ายควรแยกการเมืองออกจากการปฏิรูปและต้องตระหนักว่าการปฏิรูปเป็นหน้าที่ของทุกคน เพื่ออนาคตที่ดีกว่าของประเทศ การวิพากษ์วิจารณ์ควรอยู่บนข้อเท็จจริงและเสนอแนะอย่างสร้างสรรค์จะเกิดประโยชน์ต่อส่วนรวมมากกว่าการมุ่งดิสเครดิต บิดเบือนข้อมูล ทำลายกันเหมือนการเมืองในอดีตที่เคยสร้างความขัดแย้งแตกแยกแบ่งฝ่ายจนสูญเสียประชาธิปไตยถึง 2 ครั้งในช่วง10ปี
“ผมคิดว่าฝ่ายการเมืองต้องทบทวนความผิดพลาดในอดีตและแปรวิกฤติเป็นโอกาสใช้เวลาให้มีคุณค่าที่สุดด้วยการปฏิรูปพรรคให้เป็นสถาบันทางการเมืองในระบอบประชาธิปไตยของประชาชน โดยประชาชนเพื่อประชาขน ต้องคิดใหม่ทำใหม่เปลี่ยนวัฒนธรรมการเมืองแบบปฏิปักษ์ เป็นแบบปฏิรูปจึงจะฟื้นศรัทธาของประชาชนที่มีต่อนักการเมืองได้สำเร็จ” นายอลงกรณ์ กล่าว.-สำนักข่าวไทย