สมาคมผู้ค้าปลีกไทยเรียกร้องรัฐฯ ออกมาตรการ “ช้อปดีมีคืน”

กรุงเทพฯ 26 พ.ย. – สมาคมผู้ค้าปลีกไทยเรียกร้องรัฐบาลกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติม เช่น ช้อปดีมีคืน และ Easy E-Receipt จับตามองหนุนตลาดคาดหวังมาตรการของขวัญปีใหม่ที่นายกฯ จะแถลง 12 ธ.ค. มองจิตวิทยาบวกต่อหุ้นค้าปลีกที่มียอดขายต่อบิลสูง อาทิ CRC, COM7, HMPRO


นายกรภัทร วรเชษฐ์ หัวหน้าสายงานวิจัย บริษัทหลักทรัพย์ กรุงศรี จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ตลาดจับตาทองนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลที่จะออกมาเพิ่มเติมเพิ่มกำลังซื้อจะมีอะไรบ้าง โดยล่าสุดสมาคมผู้ค้าปลีกไทยเรียกร้องรัฐบาลเร่งออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติม เช่น ช้อปดีมีคืน และ Easy E-Receipt มองว่าเป็นการหนุนตลาดหุ้น คาดหวังมาตรการของขวัญปีใหม่ที่นายกรัฐมนตรีจะแถลงวันที่ 12 ธ.ค.นี้ และเป็นจิตวิทยาบวกต่อหุ้นค้าปลีกที่มียอดขายต่อบิลสูง

ในขณะเดียวกันมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจฐานรากของรัฐฯ มีสัญญาณออกมาต่อเนื่อง วานนี้มีความคืบหน้า 2 ส่วน 1.รัฐบาลประกาศเตรียมอัดฉีดเงินลง กองทุนหมู่บ้านฯ ทั่วประเทศ ไตรมาสแรกปี 2568 วงเงิน 1.1 หมื่นล้านบาท 2.) คณะกรรมการนโยบายและบริหารข้าวแห่งชาติ (นบข.) เตรียมจ่ายเงินช่วยเหลือ ไร่ละ 1,000 บาท ครอบคลุมชาวนา 4.68 ล้านครัวเรือน วงเงิน 3.8 หมื่นล้านบาทโดยจะเสนอ ครม.สัญจร เชียงใหม่ 29 พ.ย. ทั้งนี้ เม็ดเงินรวมข้างต้น หากรวมกับนโยบาย Digital Wallet เฟส 2 ที่คาดใช้วงเงิน 4 หมื่นล้านบาท และน่าจะผลักดันออกมาหนุนเศรษฐกิจช่วงเวลาใกล้กันต้นปี 2568 จะคิดเป็น 0.5% ของ GDP ซึ่งหุ้น Domestic จะมีโอกาสได้ประโยชน์จากมาตรการดังกล่าวสูง


นายณัฐ วงศ์พานิช ประธานสมาคมผู้ค้าปลีกไทย กล่าวว่า สมาคมฯ ขอเสนอ ต่อภาครัฐเพื่อร่วมกันกระตุ้นค้าปลีกไทยในปี 2568 เช่น คลอดมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจที่มีประสิทธิภาพทั่วถึง และตรงกลุ่มเป้าหมายสร้างโมเมนตัมการใช้จ่ายอย่างได้ผล เช่น ช้อปดีมีคืน, Easy E-Receipt ขับเคลื่อนการลงทุนภาคเอกชนทั้งในและต่างประเทศ ส่งเสริมการลงทุนในภาคเอกชนทั้งนักลงทุนไทยและต่างประเทศเพื่อให้เกิดการขยายตัวของภาคผลิต ด้วยนโยบายจูงใจต่างๆ เร่งเดินหน้าลงทุนและเบิกจ่ายงบประมาณภาครัฐ ปี 2568 โดยจะเห็นได้ว่าจากตัวเลขจีดีพีไตรมาส 3 ปี 2567 ที่ขยายตัว 3% ส่วนใหญ่เกิดจากการลงทุนภาครัฐที่ขยายตัวเป็นครั้งแรกในรอบ 6 ไตรมาส โดยขยายตัวสูงถึง 25.9% ขอให้เสริมแกร่งผู้ประกอบการเอสเอ็มอี ที่มีมากถึง 3.2 ล้านราย คิดเป็น 99.5% ของสถานประกอบการทั้งหมด รวมถึงออกมาตรการในการป้องกันการทะลักของสินค้าจีนราคาถูกที่ส่งผลกระทบโดยตรงต่อเอสเอ็มอีไทยในทุกแพลต์ฟอร์ม รวมทั้ง ยกระดับไทยเป็นจุดหมายปลายทางท่องเที่ยว

ทั้งนี้ ควรโฟกัสกลุ่มนักท่องเที่ยวที่มีกำลังซื้อสูง เช่น พิจารณาลดภาษีสินค้าเพื่อกระตุ้นการจับจ่ายใช้สอยของนักท่องเที่ยว ยกตัวอย่างกรณีประเทศญี่ปุ่นเริ่มมีแผนยกเลิกเพดานภาษี หรือ Tax Free ทำให้สามารถซื้อสินค้าปลอดภาษีมูลค่าเพิ่มเกิน 500,000 เยนต่อวันได้ ขณะที่ประเทศไทยอาจเริ่มต้นมาตรการ Tax Free (การยกเว้นภาษีมูลค่าเพิ่ม) กับยอดซื้อสินค้าทั่วไปที่มีมูลค่ารวมในการซื้อต่อท่านต่อวันในร้านเดียวกันเกิน 5,000 บาทขึ้นไป เป็นต้น ส่งเสริมให้ไทยเป็นจุดหมายปลายทางยอดนิยมของต่างชาติด้วยเสน่ห์ซอฟต์เพาเวอร์ไทย ด้านอาหาร วัฒนธรรมไทย ควบคู่กับการเป็นสวรรค์แห่งการช้อปปิ้ง มุ่งสู่เป้าหมายนักท่องเที่ยว 40 ล้านคนในปี 2568

สำหรับภาพรวมค้าปลีกปี 2567 ยังไม่สดใสเท่าที่ควรจากปัจจัยที่มีผลกระทบต่อภาคครัวเรือนและผู้ประกอบการค้าปลีก ผู้ประกอบการค้าปลีกเกินกว่า 37% ผลิต หรือสตอกสินค้าเกินความเหมาะสมไว้ก่อนแล้ว ในขณะที่มีการหดตัวด้านการลงทุนที่ส่งผลต่ออัตราการจ้างงานและการบริโภค, หนี้ครัวเรือนสูง และภาระหนี้สินของเอสเอ็มอี รวมทั้งมาตรการแจกเงิน 1 หมื่นบาท ให้กลุ่มเปราะบาง 14.5 ล้านคน ยังไม่สามารถกระตุ้นเศรษฐกิจได้ชัดและยังต้องรอความชัดเจนในเฟสต่อไป ประกอบกับเหตุการณ์น้ำท่วมใหญ่ที่สร้างความเสียหายต่อเศรษฐกิจกว่า 5-6 หมื่นล้านบาท รวมทั้งอนาคตของเศรษฐกิจและการค้าโลกที่ไม่แน่นอนจากนโยบายภายใต้ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ล้วนส่งผลต่อความเชื่อมั่นด้านการใช้จ่ายของประชาชน


สมาคมผู้ค้าปลีกไทยมองว่าทิศทางค้าปลีกปี 2568 คาดอาจจะเติบโตราว 3-5% เมื่อเทียบกับจีดีพีของปี 2568 ที่คาดว่าจะเติบโต 2.3-3.3% ด้วยแรงหนุนจากภาคท่องเที่ยวและส่งออก รวมถึงการลงทุนของภาครัฐและเอกชนทั้งไทยและต่างประเทศ ท่ามกลางความท้าทายจากความผันผวนของเศรษฐกิจโลก สถานการณ์ความขัดแย้งทางภูมิรัฐศาสตร์ กำลังซื้อของผู้บริโภคที่ยังไม่ฟื้น และปัญหาหนี้ครัวเรือน โดยสมาคมฯ เชื่อว่าภาคค้าปลีกจะเป็นหนึ่งในเครื่องยนต์สำคัญอันดับต้น ๆ ที่จะช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยให้เติบโตตามเป้าหมาย ด้วยมูลค่าค้าปลีกและบริการกว่า 4.4 ล้านล้านบาท หากได้รับการส่งเสริมและสนับสนุนจากภาครัฐอย่างจริงจังและต่อเนื่อง. -511-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ค้นบ้านสามารถ

ดีเอสไอเข้าค้นบ้าน “สามารถ” คดีฟอกเงินดิไอคอน

ดีเอสไอเข้าค้นบ้าน “สามารถ เจนชัยจิตรวนิช” คดีฟอกเงินดิไอคอน หลังพบเงิน “บอสดิไอคอน” โอนเข้าบัญชีแม่ของนายสามารถ

หมอบุญ

THG แจงบริษัทไม่เกี่ยวข้องคดีต่างๆ ที่เกิดจาก “หมอบุญ”

THG แจงตลาดหลักทรัพย์ฯ ปัจจุบัน “หมอบุญ” ไม่ได้ดำรงตำแหน่งกรรมการและผู้บริหารใน THG คดีฉ้อโกงใดๆ ที่เกิดขึ้น บริษัทไม่เกี่ยวข้อง

คะแนนไม่เป็นทางการ เลือกตั้งนายก อบจ.นครฯ

ลุ้นผลคะแนนเลือกตั้งนายก อบจ.นครศรีธรรมราช นับเสร็จแล้วบางหน่วย ล่าสุด ณ เวลา 19.40 น. “วาริน ชิณวงศ์” เบอร์ 2 จากทีมนครเข้มแข็ง ชนะคู่แข่งขาดลอยในหลายหน่วย คะแนนทิ้งห่างแชมป์เก่า “กนกพร เดชเดโช” เบอร์ 1 จากพรรค ปชป.

“ทนายสายหยุด” จ่อถอนตัวคดีตั้ม หวั่นติดร่างแห

“ทนายสายหยุด” เตรียมถอนตัวเป็นทนายให้ “ตั้ม” เผยในมือมีแต่พยานเท็จ ปิดบังข้อเท็จจริง เสี่ยงเป็นผู้ร่วมกระทำผิด

ข่าวแนะนำ

งด ครม.

งด ครม. ทำเนียบวันนี้ เตรียมสัญจรครั้งแรก “เชียงใหม่-เชียงราย” วันศุกร์

งด ครม. ทำเนียบวันนี้ เตรียมสัญจรครั้งแรก “เชียงใหม่-เชียงราย” ศุกร์นี้ นายกฯ ตั้งเป้าปีหน้าน้ำท่วมภาคเหนือต้องไม่เกิดอีก ด้าน ศปช. เตรียมเสนอแผนแก้อย่างเป็นระบบใน ครม.สัญจร ศุกร์นี้

วิเคราะห์การเมืองสนามใหญ่ หลังศึกเลือกตั้งนายก อบจ.

วิเคราะห์ผลการเลือกตั้งนายก อบจ. 4 สนามใหญ่ โดยเฉพาะอุดรธานี ที่สะท้อนถึงความนิยมในตัวของนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี