พล.อ.อักษรา ย้ำจัดการกับพวกใช้ความรุนแรงก่อเหตุใต้

กรุงเทพฯ 13 พ.ค.- หัวหน้าคณะพูดคุยยันเดินหน้าทำงานต่อ ไม่ยกเลิกพื้นที่ปลอดภัย ย้ำใช้ความรุนแรงต่อรองไม่เป็นผล ขอสังคมเข้าใจการทำงานอย่าโยนความผิดทุกครั้งที่เกิดเหตุรุนแรงในภาคใต้


พล.อ.อักษรา เกิดผล หัวหน้าคณะพูดคุยเพื่อสันติสุขจังหวัดชายแดนภาคใต้ กล่าวถึงคดีเหตุระเบิดห้างบิ๊กซี จังหวัดปัตตานี และมีผู้นำท้องถิ่นในพื้นที่อำเภอหนองจิกเข้าร่วมด้วยว่า สังคมต้องแยกให้ออกจากกันระหว่างการพูดคุยกับเหตุความรุนแรงในพื้นที่ เนื่องจากทุกครั้งที่เกิดเหตุความรุนแรงสังคมมักจะกล่าวโทษว่าสาเหตุมาจากการทำงานของคณะพูดคุย ทั้งที่การพูดคุยมีความคืบหน้า ที่ผ่านมาได้พบปะกับ 521 เครือข่ายและแกนนำ 6 ขบวนการในพื้นที่หาทางออกในการสร้างความปลอดภัย 

หัวหน้าคณะพูดคุยเพื่อสันติสุขฯ กล่าวว่า เรื่องการรักษาความสงบเรียบร้อยมีหลายกลุ่มงานที่รับผิดชอบโดยตรง ดังนั้นไม่ว่าสถานการณ์จะเป็นอย่างไรการพูดคุยยังเดินหน้าต่อเนื่อง รวมถึงการกำหนดพื้นที่ปลอดภัยใน 5 อำเภอ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ จะไม่มีการยกเลิก เพราะการพูดคุยเป็นนโยบายของฝ่ายความมั่นคงที่จะสร้างสันติสุขในพื้นที่โดยใช้วิธีการสันติ ปราศจากความรุนแรง และทั่วโลกยอมรับกับวิธีการนี้ ส่วนกลุ่มที่ต่อรองใช้ความรุนแรงก็จะต้องถูกดำเนินการตามกฎหมาย ซึ่งในสัปดาห์หน้าจะเชิญนายชาญเชาวน์  ไชยานุกิจ ปลัดกระทรวงยุติธรรม มาพูดคุยเกี่ยวกับการวางแนวทางปฎิบัติในพื้นที่ปลอดภัย


“ยืนยันว่าเรายินดีพูดคุยกับทุกกลุ่ม ทุกฝ่ายที่เห็นด้วยกับแนวทางสันติวิธี และการพูดคุยจะมีต่อ ไม่ใช่พอเกิดเหตุทีก็มีพวกวิจารณ์ที่ไม่รู้จริงและไม่ได้อยู่ในพื้นที่ออกมาวิเคราะห์พูดเป็นฉาก ๆ อย่างนั้นอย่างนี้ ทั้งที่ความเป็นจริงแล้วไม่ได้รู้จริง อยากให้เข้าใจการทำงานด้วย อย่ามาโทษกัน พวกที่ใช้ความรุนแรงก่อเหตุ ไม่ได้ทำให้เราเสียมวลชน เพราะคนใช้ความรุนแรงเป็นพวกสุดโต่งคุยไม่รู้เรื่อง แต่เราพยายามสร้างมวลชนแนวร่วมให้ออกมากดดันกลุ่มคนแหล่านี้ ยิ่งเราทำงานได้มาก ต่อไปตัวละครต่าง ๆ ที่เป็นกลุ่มใช้ความรุนแรงจะออกมามาก ชื่อจะเปิดมากขึ้นเรื่อย ๆ สังคมก็จะกดดันคนเหล่านี้เอง เพราะเขาไม่ต้องการความรุนแรง ดังนั้นการพูดคุยใครจะมาใช้ความรุนแรงข่มขู่ กดดัน ต่อรองไม่เกิดประโยชน์  ในทางกลับกันกลุ่มคนเหล่านี้ต้องถูกดำเนินการทางกฎหมายอย่างเข้มงวด ไม่มีละเว้น  ซึ่งวานนี้ผมได้อธิบายการทำงานและความคืบหน้าในการพูดคุยให้นายกรัฐมนตรีได้รับทราบแล้ว” พล.อ.อักษรา กล่าว .-สำนักข่าวไทย  

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

นร.หญิง ม.1 จมทะเลดับ หลังโรงเรียนพาไปทัศนศึกษาที่ระยอง

โรงเรียนเอกชนแห่งหนึ่งใน จ.นครราชสีมา พานักเรียนไปทัศนศึกษาที่ จ.ระยอง นักเรียนหญิง ม.1 ถูกคลื่นดูดลงทะเลขณะเล่นน้ำ เสียชีวิต พ่อแม่สุดเศร้าสูญเสียลูกสาวคนเดียวของครอบครัว

น้ำท่วมเชียงใหม่

เชียงใหม่จมบาดาล น้ำท่วมครั้งประวัติศาสตร์

น้ำท่วมในตัวเมืองเชียงใหม่ ยังวิกฤติ หลังน้ำในลำน้ำปิงขึ้นสูงสุดทรงตัวสูงกว่า 5.30 เมตร ซึ่งสูงที่สุดตั้งแต่มีการวัดระดับน้ำปิง

น้ำท่วมขนส่งเชียงใหม่กระทบผู้โดยสาร เปิดจุดจอดรับ-ส่งชั่วคราว

น้ำขยายวงกว้างเข้าท่วมสถานีขนส่งเชียงใหม่แห่งที่ 2 และ 3 เต็มพื้นที่ ระดับน้ำสูงเกือบ 50 ซม. ผู้ประกอบการขนส่งต้องนำรถทัวร์โดยสารออกมาจอดรับ-ส่งบนถนนซุปเปอร์ไฮเวย์ ยืนยันผู้ประกอบการยังให้บริการตามปกติ

ระทึก! แท็กซี่พลิกคว่ำเกิดเพลิงไหม้ 5 ชีวิตรอดหวุดหวิด

รถแท็กซี่พลิกคว่ำและเกิดเพลิงลุกไหม้กลางถนนพระราม 9 ผู้โดยสารหญิงสติดีถีบประตูช่วยตัวเองและคนอื่นออกมาจากตัวรถรวม 5 ชีวิตได้ทัน แต่ในจำนวนนี้บาดเจ็บสาหัส 1 คน เป็นคนขับแท็กซี่ ตำรวจเร่งสอบสวนหาสาเหตุ

ข่าวแนะนำ

เขื่อนเจ้าพระยาปรับเพิ่มการระบายน้ำ

น้ำเหนือเขื่อนเจ้าพระยาขึ้นไม่หยุด ล้นตลิ่งท่วมบ้านเรือน ต.ธรรมามูล อ.เมืองชัยนาท ขณะที่เขื่อนเจ้าพระยาปรับเพิ่มการระบายแบบขั้นบันไดต่อเนื่อง ล่าสุดเมื่อเวลา 11.00 น. น้ำระบายท้ายเขื่อนที่ 2,200 ลบ.ม./วินาที

เร่งอพยพชาวบ้านหลายร้อยครอบครัว น้ำปิงยังสูง

แม้ระดับน้ำปิงที่ไหลผ่านตัวเมืองเชียงใหม่ เริ่มลดลง หลังขึ้นสูงสุดถึง 5.30 เมตร แต่หลายชุมชนและย่านการค้ายังมีน้ำท่วมสูง โดยเฉพาะพื้นที่ตอนใต้ของเมือง น้ำยังเพิ่มสูง หลายร้อยครอบครัวต้องอพยพด่วน

อิสราเอลโจมตีทางอากาศมัสยิด-โรงเรียนในกาซา ดับแล้ว 24

สำนักงานสื่อมวลชนของรัฐบาลกาซาที่กลุ่มฮามาสเป็นผู้ดำเนินการ กล่าวว่า อิสราเอลโจมตีทางอากาศโดยมีเป้าหมายเป็นมัสยิดและโรงเรียน ซึ่งเป็นสถานที่พักพิงของผู้พลัดถิ่นฐานในฉนวนกาซา เมื่อตอนเช้าวันอาทิตย์ ทำให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 24 ราย และบาดเจ็บอีก 93 ราย