ปัตตานี 7 พ.ย.- คณะสงฆ์ 4 จังหวัดใต้เรียกร้องตั้งสมาคมความมั่นคงพระพุทธศาสนาจังหวัดชายแดนภาคใต้ หลังเกิดเหตุยิงที่ยะลาดับกว่า 10 ราย ด้าน “เทวัญ” รวบรวมข้อเสนอแนวทางแก้ปัญหารายงานรัฐบาล
เมื่อเวลา 13.00 น. (7 พ.ย.) ที่วัดตานีนรสโสร พระอารามหลวง อ.เมือง จ.ปัตตานี นายเทวัญ ลิปตพัลลภ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี พร้อมคณะเดินทางลงพื้นที่พบปะพระสงค์ในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ และ 4 อำเภอของจังหวัดสงขลา มาประชุมสัมมนาพระสังฆาธิการ ตามโครงการสัมนาและรับฟังนโยบายของรัฐมนตรี พร้อมทั้งรับฟังปัญหาและหารือร่วมกันในการแก้ไขความเดือดร้อนของชาวไทยพุทธในพื้นที่ หลังจากผู้ก่อเหตุไม่ต่ำกว่า 10 คน ใช้อาวุธสงครามยิงป้อมจุดตรวจชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้าน (ชรบ.) หมู่ 4 ต.ลำพะยา อ.เมือง จ.ยะลา เจ้าหน้าที่ ชรบ.เสียชีวิตกว่า 10 ราย เมื่อคืนวันที่ 5 พ.ย.ที่ผ่านมา ประกอบกับก่อนหน้านี้ยังมีเหตุการณ์ไม่สงบเกิดขึ้นในพื้นที่ ซึ่งส่งผลกระทบต่อการดำเนินชีวิตและการปฏิบัติศาสนกิจของพระภิกษุ สามเณร และวิธีการดำเนินชีวิตของพุทธศาสนิกชนในพื้นที่ ดังนั้น จึงได้มีเวทีสัมมนาเพื่อหาทางร่วมกันในการแก้ปัญหา โดยมีเจ้าคณะจังหวัดใน 4 จังหวัดชายแดนภาคใต้ พระสังฆาธิการ เครือข่ายไทยพุทธ และเจ้าหน้าที่ กองพันราษฎรอาสารักษาหมู่บ้านจังหวัดปัตตานี เข้าร่วมในครั้งนี้
พระสิริจริยาลังการ เจ้าคณะจังหวัดปัตตานี กล่าวบนเวทีสัมมนาว่า คณะสงฆ์จะจัดตั้งเป็นสมาคมความมั่นคงพระพุทธศาสนาจังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยมีคณะสงฆ์ทั้ง 5 จังหวัด มีสำนักงานพระพุทธศาสนาประจำจังหวัด 5 จังหวัด มี กอ.รมน. มี ศอ.บต. มีสมาคม สมาพันธ์ของชาวไทยพุทธ ในจังหวัดชายแดนภาคใต้ เข้ามามีส่วนร่วมในการจัดตั้งสมาคม เมื่อมีการจัดตั้งสมาคมถูกต้องตามกฎหมาย ทางคณะสงฆ์ และชาวพุทธในพื้นที่ ก็จะได้มีตัวตน เพื่อช่วยกันสร้างความมั่นคงและความเข้มแข็งให้กับพระพุทธศาสนาอย่างแน่นอน ซึ่งขณะนี้กำลังยื่นจัดตั้งสมาคมโดยมีศูนย์การพัฒนาและส่งเสริมพระพุทธศาสนาใน 5 จังหวัดชายแดนภาคใต้ รวมตัวกันในการทำงาน ซึ่งเป็นแนวทางเดียวที่จะสามารถให้มีความเสมอภาคของคนในพื้นที่ ที่มีความหลากหลายในพหุวัฒนธรรม คณะสงฆ์ขอให้รัฐช่วยส่งเสริมในเรื่องนี้ให้เกิดขึ้น
นายพงษ์พันธ์ จันทร์เล็ก ประธานสมาพันธ์ไทยพุทธจังหวัดชายแดนภาคใต้ ได้เสนอผ่านรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี จำนวน 2 ข้อ คือ 1. กำหนดนโยบายให้กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน รับผิดชอบในแต่ละพื้นที่เพื่อความปลอดภัย ในชีวิตและทรัพย์สินทั้งไทยพุทธ และมุสลิม และกำหนดบทลงโทษกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ที่ละเว้นไม่ปฏิบัติหน้าที่ ให้มีองค์กรอิสระในการติดตามดำเนินผล ข้อที่ 2 กำหนดให้ อิหม่าม คอติบ บิหลั่น รับผิดชอบความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน ของไทยพุทธและมุสลิม แต่ละชุมชนที่มีมัสยิดนั้น ๆ รายงานผลการปฏิบัติ ต่อกำนัน และผู้ใหญ่บ้านได้รับทราบ ทุก 3 เดือน และกำหนดบทลงโทษ สำหรับอิหม่าม คอติบ บิหลั่น ที่ไม่ปฏิบัติตามข้อกฎหมาย เพราะถือว่าเป็นเจ้าพนักงานของรัฐ เพราะได้รับค่าตอบแทน
ด้านนายเทวัญ กล่าวว่า จะนำปัญหาและแนวทางที่คณะสงฆ์และเครือข่ายไทยพุทธที่เสนอมารายงานต่อคณะรัฐมนตรีในการประชุมในคราวหน้า เพื่อเร่งช่วยเหลือความเดือดร้อนของประชาชนในพื้นที่.-สำนักข่าวไทย