รวบนักตุ๋นสาว สวมชุดขาวเข้าไปมั่วในสภา

6 ต.ค. – สืบนครบาลรวบนักตุ๋นสาว สวมชุดขาวเข้าไปมั่วในสภา ถ่ายรูปกับ สส.-สว. อ้างลองใส่ ส่วนชุดขาวยืมเพื่อนมา พบมีประวัติฉ้อโกง 14 คดี รัฐสภาปิดประกาศแบนห้ามเข้าพื้นที่


จากกรณีหญิงนักต้มตุ๋นรายหนึ่ง สวมชุดเครื่องพร้อมติดเครื่องราชฯ เข้าไปเดินมั่วอยู่ในสภา ทำทีตีสนิทก่อนถ่ายภาพกับ สว. และ สส. หลายคน โดยมีพฤติกรรมแอบอ้างเป็นคนสนิทผู้ใหญ่ว่าเป็น “เลขาอดีตนายกรัฐมนตรี” ล่าสุดเรื่องแดงถูกขุดมีประวัติฉ้อโกงมา 14 คดี อีกทั้งรัฐสภาปิดประกาศแบนห้ามเข้าพื้นที่ พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.น.สั่งให้ พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น.จัดทีมสืบสวนจับกุมตัว ล่าสุดถูกจับกุมได้ที่ห้องพักรายวันย่านลาดกระบัง โดยยังใส่กำไร EM เจ้าตัวอ้าง “ลองใส่เฉย ชุดขาวยืมเพื่อนมา”
         
จากการสืบค้นในระบบข้อมูลพบว่าคดีที่ก่อเหตุมา เริ่มจากการฉ้อโกงเล็กๆ น้อยๆ โดยทำตัวเป็นบริษัทรับเหมาก่อสร้าง ตระเวนรับเงินค่าจ้างแล้วเบี้ยว หลายรายเป็นเวลาเกือบ 10 ปี จนห้วงปี 60 เริ่มหลอกลวงรูปแบบใหม่คือ “การแอบอ้าง” โดยเริ่มอ้างเป็นคนสนิทอธิการบดีมหาวิทยาลัยชื่อดังย่านปทุมวัน หลอกลงทุนหุ้น ลงทุนเปิดร้านค้าในมหาวิทยาลัย จนเมื่อเข้าสู่ห้วงปี 64 เริ่มแอบอ้างเป็นคนสนิทระดับ “นายกรัฐมนตรี” หลอกลวงจะวิ่งเต้นให้ได้ตำแหน่งในสำนักนายกรัฐมนตรี หลอกจะวิ่งเต้นให้เป็นผู้ช่วย สว. จนถึงหลอกลวงลงทุน “บัตรลุงตู่พลัส” จนล่าสุดถึงขนาด สวมชุดขาวติดเครื่องราชฯ เดินเข้ามาป้วนเปี้ยนในรัฐสภาในทุกสมัยการเปิดประชุมสภา

จนกระทั่งได้มีสมาชิกวุฒิสภาท่านหนึ่งได้กล่าวในที่ประชุมเพื่อหารือเรื่องของมิจฉาชีพรายนี้กลางสภา ในการประชุมวุฒิสภาครั้งที่ 6 เมื่อวันที่ 20 ส.ค. 67 โดยกล่าวถึงมิจฉาชีพรายนี้ว่าแอบแฝงเข้ามาในรัฐสภา ทำการตีสนิทกับ สว. และ สส. ชื่อดังหลายท่าน ก่อนที่มิจฉาชีพรายนี้จะทำการแอบอ้างถึงบุคคลสำคัญ เช่น ตนเองเคยทำงานร่วมกับ พล.อ.ประยุทธ จันทร์โอชา อดีตนายกรัฐมนตรี, อ้างว่าตนเองเป็นลูกบุญธรรมของภรรยาของ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา, อ้างว่าตนเป็นญาติกับภรรยาของ นายอนุทิน ชาญวีรกูล, อ้างว่าตนเป็นคนสนิทของ นายเนวิน ชิดชอบ โดยมักทำพฤติกรรมทำทีโทรศัพท์โชว์ให้ผู้อื่นหลงเชื่อ และล่าสุดทำพฤติกรรมแต่งชุดขาวพร้อมติดเครื่องราชฯ ทั้งที่ไม่ได้มีตำแหน่งหน้าที่ใดๆ เข้ามามั่วถ่ายรูปคู่กับหลายๆ คนภายในรัฐสภา โดยอ้างว่าตนเป็นราชการสำนักนายกรัฐมนตรี ซึ่งต่อมาตรวจสอบจนไปทราบว่าเป็นผู้ต้องหาตามหมายจับ จึงได้เสนอให้มีการสอบสวนเป็นวาระเร่งด่วนโดยตอนนี้ทางเจ้าหน้าที่ของรัฐสภาต้องติดประกาศห้ามเข้าพื้นที่


ต่อมาก็ได้ถูกพนักงานสอบสวน สน.บางโพ ออกหมายจับ และเมื่อเรื่องแดงขึ้นที่สภา ก็ไหวตัวหลบหนีเข้ากลีบเมฆไป พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.น.วิเคราะห์พฤติกรรมแล้วเป็นภัยต่อสังคม เร่งสั่งการ พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. ส่งชุดไล่ล่าติดตามตัวทันที โดยระหว่างที่ชุดสารวัตรแจ๊ะ ได้ล่าติดตามพบว่าคนร้ายได้หลบหนีไปกบดาลอยู่กับ “หมอดูชื่อดัง” ตระเวนเช่าห้องพักรายวันอยู่ในละแวก ถ.ลาดกระบัง โดยจะเปลี่ยนที่พักทุกๆ วันไม่ให้ซ้ำ เพื่อป้องกันการติดตามของเจ้าหน้าที่ กระทั่งวันที่ 5 ต.ค. 67 ชุดสืบสวนได้พบคนร้ายกำลังจะย้ายที่พักจึงทำการจับกุมตัวไว้ทันที ซึ่งหลังการจับกุมชุดสืบสวนได้ขยายผลตรวจค้นพบ ชุดข้าราชการ (ชุดขาว) ติดเครื่องราชฯ, เสื้อคลุมตราสำนักนายกรัฐมนตรี, เสื้อคลุมตรารัฐสภา, บัตรตัวแทนพรรคการเมืองชื่อดัง ซุกซ่อนอยู่ในรถยนต์เช่า โดยไปจอดแอบไว้อยู่ภายในโรงแรมแห่งหนึ่งย่านอ่อนนุช

จากการตรวจสอบโทรศัพท์พบภาพถ่ายคู่กับนักการเมืองชื่อดังหลายท่าน มีภาพถ่ายการสวมชุดข้าราชการ (ชุดขาว) หลายภาพ และจากการสอบถามบุคคลในพื้นที่ละแวกที่คนร้ายหลบหนีไปกบดาลนั้นได้ข้อมูลว่า คนร้ายมักแอบอ้างว่าตนเองมีตำแหน่งทางการเมือง ลักษณะอวดกับพนักงานหลายๆ แห่งในพื้นที่

น.ส.สุวดี ให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา โดยให้การว่า ทางคดีตนเองได้นำเครื่องแบบของเพื่อนมาสวม โดยที่ปรากฏภาพที่ไปถ่ายชุดขาวกับคนอื่นๆ ในรัฐสภา เป็นเพราะวันนั้นตนเองลองสวมดูเฉยๆ ตั้งใจจะไปถ่ายภาพเพื่อนำไปสมัครเป็น สส. โดยต้นเหตุที่โดนคดีมาจากการถูกกลั่นแกล้วจาก สว. ท่านหนึ่งที่มีปัญหากับตน เพราะเข้าใจว่าตนเป็นสาเหตุให้ สว. ท่านนั้นเลิกกับภรรยา จึงเดินหน้าหาเรื่องส่วนที่บอกว่าตนเองสนิทสนมกับ พล.อ.ประยุทธฯ นั้นเพราะตนเองเคยช่วยหาเสียงให้พรรคพลังประชารัฐและได้ถ่ายภาพคู่กับ พล.อ.ประยุทธฯ หลายครั้งแต่ไม่ทราบว่า พล.อ.ประยุทธฯ จะรู้จักตนเองหรือไม่ ยืนยันว่าไม่เคยไปทำอะไรเสียหายๆให้กับ สว. และ สส. ในสภา แต่คดีฉ้อโกงที่เกิดขึ้นนั้นส่วนใหญ่จบไปแล้วเพราะตนนำเงินไปคืนให้กับผู้เสียหาย แต่ยังมีคดีที่อยู่บนศาลคือที่ไปหลอกลวงลงทุน “บัตรลุงตู่พลัส” ความเสียหาย 1,700,000 บาท ศาลชั้นต้นตัดสินจำคุก 3 ปี ตอนนี้อยู่ระหว่างการสู้ชั้นอุทรณ์ยืนยันว่าตนเองไม่เคยไปแอบอ้างไปอวดเบ่งผู้ใด แต่ถ้ามีคนบอกว่าตนเองเคยไปแอบอ้างตนยินดีไปพูดคุยกับทุกคน”


พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. กล่าวว่า ยังไม่ปักใจเชื่อในคำให้การของผู้ต้องหา เพราะจากพฤติกรรมที่ได้ข้อมูลประวัติคดี ข้อมูลจากการสืบสวนค่อนข้างมีทิศทางตรงข้ามกับคำให้การของผู้ต้องหา จากประวัติต้องคดีของผู้ต้องหารายนี้นับว่าก่อคดีมามาก ซึ่งทั้งหมดล้วนเป็นคดีในข้อหา ฉ้อโกง แต่จากพฤติการณ์แล้วจะเห็นว่าผู้ต้องหานั้นไม่ได้ประกอบอาชีพใดๆ มีพฤติกรรมเข้าไปในสภาถือว่าผู้ต้องหาล่าสุดได้ถูกออกหมายจับในเรื่องของการสวมเครื่องแบบและเครื่องราช ซึ่งในทางคดีนั้นพยานหลักฐานและยังพบว่ามีการกระทำเช่นนี้หลายครั้ง ซึ่งหลังจากนี้เราจะมีการขยายผลโดยละเอียด ขอประชาสัมพันธ์เพื่อประโยชน์ต่อสาธารณะชน ผู้ใดเคยถูกผู้ต้องหารายนี้ซึ่งใช้ชื่อว่า น้ำหนึ่ง หลอกลวงไม่ว่าจะรูปแบบใดก็ตาม สามารถแจ้งเบาะแสมาได้ที่เพจ สืบนครบาล IDMB เราจะมีการขยายผลให้ถึงที่สุด แม้ว่าจะไม่ใช่คดีอุกฉกรรจ์ แต่หากเป็นความเดือดร้อนของประชาชน เราทำทันที ตามนโยบายของ พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.น.”

หลังจับกุมขยายผลได้นำตัวพร้อมของกลางนำส่งพนักงานสอบสวน สน.บางโพ ดำเนินคดีต่อไป.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ออกหมายจับ 5 คนแก๊ง “เสือปุ่น” ปล้นเงินสด 3.4 ล้าน

กทม. 1 ก.ค.-ออกหมายจับ 5 คนแก๊ง “เสือปุ่น” ปล้นเงินสด 3.4 ล้านตุ๋นแลกคริปโตฯ ชุดสืบปูพรมล่า จากกรณีกลุ่มคนร้าย 7 คน ก่อเหตุปล้นทรัพย์ เงินสด 3.4 ล้านบาท โดยใช้อาวุธมีดจี้ ข่มขู่ผู้เสียหาย 3 คน ที่มาซื้อเงินคริปโตเคอร์เรนซี่ สกุลเวิน USDT จำนวน 100,000 ดอลล่า ภายในลานจอดรถศูนย์การค้าชื่อดังย่านลาดพร้าว แขวงและเขตจตุจักร กทม. เมื่อช่วงเวลา 19.30 น. ของวานนี้ (30 มิ.ย.) ภายหลัง พล.ท.สยาม บุญสม ผบช.น. และ พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รอง ผบช.น. นำชุดสืบสวนเร่งรัดติดตามตัว จนสามารถจับกุมผู้ต้องหาได้ 2 ราย คือ นายเฌอพัชญ์ หรือหนาว อายุ 25 ปี […]

“ทักษิณ” พร้อมลูกสาว เดินทางออกจากศาลอาญา หลังสืบพยานนัดแรก

1 ก.ค. – บรรยากาศที่ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก ภายหลังนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เดินทางเข้าสืบพยานโจทก์นัดแรกในคดีหมายเลขดำ อ.1860/2567 ที่พนักงานอัยการฝ่ายคดีอาญา 8 เป็นโจทก์ยื่นฟ้องนายทักษิณ เป็นจำเลยในความผิด ฐานดูหมิ่นสถาบันฯ ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา ม.112 และ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ เมื่อเวลา 12.10 น. นายทักษิณ พร้อมด้วย น.ส.พินทองทา ชินวัตร คุณากรวงศ์ หรือเอม ได้เดินทางกลับโดยใช้ประตูด้านข้างของศาลอาญา ก่อนขึ้นรถออกไป โดยเลี้ยวออกไปทางประตูของศาลแพ่ง และเลี้ยวออกถนนพหลโยธินโดยทันที โดยมีกลุ่มมวลชนสวมเสื้อสีแดงยืนคอยให้กำลังใจอยู่บริเวณริมฟุตบาธบริเวณประตูทางออกอยู่จำนวนหนึ่ง ทั้งนี้มีนางเพญ พินิจอักษร ชาวจังหวัดศรีสะเกษ ถือรูปนายทักษิณ โดยมีการเขียนข้อความในภาพว่าขอส่งกำลังใจให้นายกฯในดวงใจ พร้อมถือพวงมาลัยดอกมะลิพวงใหญ่ และมีกลุ่มมวลชนสวมเสื้อสีแดงกลุ่ม 50 เขตแดน กทม. มาให้กำลังใจด้วยเช่นเดียวกัน จากนั้น นายวิญญัติ ชาติมนตรี ทนายความส่วนตัว นายทักษิณ ได้เดินมาทำความเข้าใจกับสื่อมวลชนหลังจากที่ศาลอาญาได้มีการพักการสืบพยาน ว่า ขอให้สื่อมวลชนใช้วิจารณญาณว่าจะอยู่หรือไม่อยู่ เพราะศาลใช้การพิจารณาลับ ทั้งนี้ไม่สามารถพูดอะไรในกระบวนการได้ จะพูดได้แค่มีพยานกี่ปาก […]

ธปท.เผย “คุณสู้ เราช่วย” เฟส 2 มีลูกหนี้เข้าเกณฑ์ 1.8 ล้านราย

กรุงเทพฯ 1 ก.ค. – ธปท.เผย “คุณสู้ เราช่วย” เฟส 2 เพิ่ม “จ่าย ตัด ต้น” พร้อมขยายขอบเขต 2 มาตรการเดิม “จ่ายตรง คงทรัพย์” และ “จ่าย ปิด จบ” มีลูกหนี้เข้าเกณฑ์ 1.8 ล้านราย ยอดนี้ประมาณ 3.1 แสนล้านบาท นางสาวสุวรรณี เจษฎาศักดิ์ ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายกำกับสถาบันการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผย ว่า ภายใต้เศรษฐกิจที่มีความไม่แน่นอนสูง ยังมีลูกหนี้กลุ่มเปราะบางจำนวนมากที่มีปัญหาในการชำระหนี้ และพบว่าลูกหนี้ยังให้ความสนใจเข้าร่วมโครงการอย่างต่อเนื่อง แต่บางส่วนไม่สามารถเข้าร่วมได้เนื่องจากคุณสมบัติไม่เป็นไปตามเงื่อนไขที่กำหนด กระทรวงการคลัง สศช. ธปท. ธนาคารพาณิชย์ สถาบันการเงินเฉพาะกิจ รวมถึงผู้ประกอบธุรกิจ non-bank ที่เป็นบริษัทในกลุ่มธุรกิจทางการเงินของธนาคารพาณิชย์ เห็นควรขยายระยะเวลาลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการคุณสู้เราช่วยเฟส 1 (เดิมสิ้นสุด 30 มิ.ย.68) และให้ความช่วยเหลือเพิ่มเติม ภายใต้โครงการ […]

“บิ๊กเต่า” เร่งสอบบัญชีวัดดัง พบเส้นเงินไหลเข้าสีกาคนสนิทหลายครั้ง

กรุงเทพฯ 1 ก.ค. – “บิ๊กเต่า” เร่งสอบ 5 บัญชี เงินวัดตรีฯ-ทิดอาชว์ พบมีเส้นเงินไหลเข้าสีกาคนสนิทหลักหมื่นถึงหลักแสนบาทหลายครั้ง ส่วนคลิปลับแชทหลุดเป็นหน้าที่สำนักพุทธฯ ตรวจสอบ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง เรียกประชุมตำรวจ บก.ปปป. และเจ้าหน้าที่ ป.ป.ท. เพื่อติดตามความคืบหน้าการตรวจสอบบัญชีรายรับรายจ่ายของวัดตรีทศเทพวรวิหาร หลังพบพิรุธพระเทพวชิรปาโมกข์ (อาชว์ อาชฺชวปเสฏฺโฐ) หรือ “เจ้าคุณอาชว์” ได้ลาสิกขาหรือสึก ที่ จ.หนองคาย อย่างกะทันหัน พล.ต.ต.จรูญเกียรติ เปิดเผยภายหลังการประชุมว่า จากการเข้าตรวจสอบบัญชีรายรับรายจ่ายที่วัดตรีทศเทพเมื่อวานนี้ ยังไม่เป็นที่น่าพอใจ ทางวัดให้เอกสารทางบัญชีมาบางส่วน พระหลายรูปกังวลหวาดกลัวจึงไม่ค่อยให้ความร่วมมือเท่าที่ควร แต่ตำรวจได้ประสานรักษาการเจ้าอาวาสวัด เพื่อให้แต่งตั้งไวยาวัจกรใหม่ ซึ่งเชื่อว่าหลังจากนี้จะได้รับความร่วมมือมากขึ้น โดยตำรวจได้ประสานขอรายการเดินบัญชีธนาคารของวัด 5 บัญชี เป็นบัญชีที่เกี่ยวกับเงินกฐิน ค่าเช่าที่จอดรถ ฌาปนกิจศพ ค่าน้ำค่าไฟ และภาพวาดโบราณ และบัญชีที่ต้องสงสัยอีกจำนวนหนึ่ง มาตรวจสอบทั้งหมด รวมถึงบัญชีส่วนตัวของทิดอาชว์ เบื้องต้นตำรวจมีข้อมูลน่าเชื่อได้ว่า ตำแหน่งเจ้าอาวาสไม่ได้มีเงินเยอะ แต่ตำรวจเห็นหลักฐานการโอนเงินบางส่วนไปยังสีกาหญิงหลายรายการ ยอดเงินตั้งแต่หลักหมื่นถึงหลักแสนบาท ซึ่งอาจเป็นเงินของวัด หรืออาจใช้ให้คนอื่นไปโอน […]

ข่าวแนะนำ

14 รมต.ใหม่ เข้าทำเนียบถ่ายรูป ก่อนถวายสัตย์ปฏิญาณ

ทำเนียบ 3 ก.ค.- ชื่นมื่น! 14 รมต.ใหม่ เข้าทำเนียบฯ ตั้งแต่ช่วงเช้า ถ่ายรูปทำบัตรประจำตัว ก่อนเข้าเฝ้าฯ ถวายสัตย์ปฏิญาณ “อรรถกร” มาถึงคนแรก ปิดท้ายด้วย “นายกฯ แพทองธาร” เตรียมประชุม ครม. นัดพิเศษในช่วงบ่าย แบ่งงานรองนายกฯ ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศที่ทำเนียบรัฐบาล รัฐมนตรีใหม่ 14 คน ทยอยเดินทางมายังตึกสันติไมตรี เพื่อตรวจเอทีเค ถ่ายรูปทำบัตรประจำตัว ก่อนเข้าเฝ้าฯ ถวายสัตย์ปฏิญาณก่อนปฏิบัติหน้าที่ โดยเวลา 07.40 น. รัฐมนตรีที่เดินทางมาเป็นคนแรก คือ นายอรรถกร ศิริลัทธยากร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรสหกรณ์ และ นายเทวัญ ลิปตพัลลภ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี จากนั้น นายชัยชนะ เดชเดโช รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข ตามด้วย นายอนุชา สะสมทรัพย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข นายพงศ์กวิน จึงรุ่งเรืองกิจ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน นายฉันทวิชญ์ ตัณฑสิทธิ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ […]

อุตุฯ เตือนฝนตกหนักบางพื้นที่ในภาคเหนือ-อีสานตอนบน-ตะวันออก

กรุงเทพฯ 3 ก.ค. – กรมอุตุฯ เตือนฝนตกหนักมากบางพื้นที่ในภาคเหนือ ภาคอีสานตอนบน ภาคตะวันออก ขอให้ประชาชนในบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมาก ส่วนกรุงเทพฯ-ปริมณฑล มีฝนฟ้าคะนอง 70% และมีฝนตกหนักบางแห่ง กรมอุตุนิยมวิทยาพยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้า บริเวณประเทศไทยมีฝนตกหนักบางแห่ง โดยมีฝนตกหนักมากบางพื้นที่ในภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน และภาคตะวันออก ขอให้ประชาชนในบริเวณดังกล่าว โดยเฉพาะบริเวณจังหวัดต่างๆ ตามที่ระบุไว้ในรายภาค ระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และดินโคลนถล่ม โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่ม ทั้งนี้ เนื่องจากร่องมรสุมกำลังค่อนข้างแรงพาดผ่านภาคเหนือตอนบนและภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน เข้าสู่หย่อมความกดอากาศต่ำบริเวณประเทศลาวตอนล่างและเวียดนามตอนกลาง ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังปานกลางยังคงพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยมีกำลังปานกลาง โดยทะเลอันดามันตอนบน มีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่างและอ่าวไทยตอนบน มีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองไว้ด้วย กรุงเทพฯ และปริมณฑล มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 70 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง […]

กู้ร่างครบแล้ว เหตุไฟไหม้โรงงานทิชชู เสียชีวิต 10 ราย

สระบุรี 2 ก.ค. – เหตุไฟไหม้โรงงานกระดาษทิชชู ในนิคมเหมราช จ.สระบุรี ล่าสุดพบร่างที่ 10 ซึ่งเป็นร่างสุดท้าย ถือว่าภารกิจการค้นหาสิ้นสุดแล้ว ปฏิบัติการค้นหาร่างผู้สูญหายกว่า 50 ชั่วโมง ยุติลงแล้ว หลังเกิดเพลิงไหม้อาคารบริษัทผลิตกระดาษทิชชู ตั้งอยู่ในเขตนิคมอุตสาหกรรม ดับบลิว เอช เอ ซอย 8 อำเภอหนองแค จังหวัดสระบุรี ช่วงเที่ยงวันจันทร์ที่ 30 มิถุนายน 2568 ที่ผ่านมา ทีมกู้ชีพ กู้ภัยร่วมกตัญญู กู้ภัยสว่างรัตนตรัย และกู้ภัยป่อเต็กตึ๊ง ร่วมกับฝ่ายปกครอง และชุดค้นหาเร่งระดมสรรพกำลัง ปูพรมค้นหาร่างผู้สูญหาย 10 คน นำโดยนายสันทัศน์ รันดาเว นายอำเภอหนองแค ลงพื้นที่เกาะติดการค้นหาผู้สูญหาย ช่วง 10.30 น. มีรายงานจากทีมค้นหามูลนิธิร่วมกตัญญู แจ้งว่า ที่ชั้นบนของอาคารเกิดเหตุ พบร่างผู้สูญหายอีก 1 ร่าง อยู่ในสภาพเหลือแต่กระดูกบริเวณชั้นที่ 2 ฝั่งตะวันตกของโรงงาน ถือเป็นผู้เสียชีวิตจากเหตุเพลิงไหม้รายที่ […]

เร่งคลี่คลายคดีโจรฉกเงิน-ทองคำ วัดม่วง

กทม. 2 ก.ค. – ตำรวจเร่งคลี่คลายคดีโจรวัดม่วง ลักเงินเจ้าอาวาส 10 ล้าน ทองคำ 250 บาท หายล่องหน ขณะที่อดีตพระคนสนิท เผยประตูกุฏิล็อกถึง 5 ชั้น เชื่อฝีมือคนใน พร้อมเรียกร้องตรวจสอบเงินบริจาควัด ความคืบหน้า เหตุคนร้ายย่องลักทรัพย์ เงิน 10 ล้าน-ทองคำหนัก 250 บาท ภายในกุฏิเจ้าอาวาส วัดม่วง ซอยเพชรเกษม 63 ถนนเพชรเกษม แขวงหลักสอง เขตบางแค วันนี้ชุดสืบสวนของ บก.ปปป. ร่วมกับชุดคลี่คลายคดีของ สน.เพชรเกษม เดินทางไปที่วัดม่วงเพื่อตรวจหาหลักฐานเพิ่มเติม แต่เมื่อเดินทางไปที่กุฎิเจ้าอาวาส ปรากฏว่า กุฏิปิดเงียบล็อกกุญแจจากด้านหน้า ไร้เงาเจ้าอาวาส เจ้าหน้าที่ ปปป. จึงพยายามโทรไปหาเจ้าอาวาสแต่ไม่สามารถติดต่อได้ ขณะที่อดีตพระคนสนิทเจ้าอาวาสวัดม่วง เปิดเผยว่า หลังปรากฏข่าว เจ้าอาวาสได้ส่งตัวแทนเข้าแจ้งความว่าเงินและทองคำภายในกุฏิหาย ส่วนตัวตั้งข้อสังเกตว่ากุฏิดังกล่าวไม่มีรอยงัดแงะ และการจะเข้าไปภายในต้องผ่านประตูซึ่งล็อกถึง 5 ชั้น แทบไม่มีความเป็นไปได้ที่บุคคลอื่นจะเข้าไปได้ มองว่าตู้เซฟที่เก็บทรัพย์สินไว้นั้นมีขนาดใหญ่ การจะนำทรัพย์สินภายในออกไปน่าจะทำได้ยาก […]