ชายวัยเกษียณขู่กระโดดโทลล์เวย์ น้อยใจคดี “ตู้ห่าว”

กรุงเทพฯ 6 ม.ค. – ชายวัยเกษียณน้อยใจกระบวนการยุติธรรม ตัดพ้อข้าราชการเอื้อทุนจีนสีเทา ตั้งท่าจะกระโดดโทลล์เวย์ ร้อนถึง “ชูวิทย์” ช่วยเจรจายอมให้เข้าพบ


ลุงเปี๊ยก อายุ 60 ปี นุ่งกางเกง ไม่สวมเสื้อ และห้อยพระเครื่องเต็มคอ นั่งบนขอบข้างทางบนยกระดับดอนเมืองโทลล์เวย์ ขาออกหน้าศูนย์การค้าไอทีสแควร์ แขวงทุ่งสองห้อง เขตหลักสี่ กรุงเทพฯ ทำท่าจะกระโดดลงไปข้างล่าง โดยตลอดเวลาไม่ยอมให้เจ้าหน้าที่หรือผู้สื่อข่าวเข้าใกล้ ระหว่างนั้นต่างพยายามเกลี้ยกล่อมให้ลุงเปี๊ยกเข้ามาดีๆ แต่ลุงเปี๊ยกไม่ยอม ตะโกนตัดพ้อด้วยความน้อยใจ เรื่องการดำเนินคดีกับกลุ่มทุนจีนสีเทา และต่อว่าการทำงานของเจ้าหน้าที่ไม่เอาจริงเอาจัง พร้อมกับชื่นชมนายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ ที่กล้าออกมาเปิดโปงเรื่องนี้ ถ้ามีโอกาสอยากจะกราบขอบคุณที่ทำเพื่อบ้านเมือง ก่อนจะต่อรองว่า หากได้คุยกับนายชูวิทย์ จะไม่กระโดด แต่ถ้าไม่ได้คุยก็จะกระโดดลงไป ทำให้ผู้สื่อข่าวต้องต่อสายหานายชูวิทย์ ให้ลุงเปี๊ยกได้คุย จึงมีท่าทีอ่อนลง

กว่าลุงเปี๊ยกจะยอมลงมาขอบโทลล์เวย์ ใช้เวลาเจรจาพูดคุยนานกว่า 3 ชั่วโมง จากนั้น นายชูวิทย์บอกกับผู้สื่อข่าวว่า อนุญาตให้ลุงเปี๊ยกเข้าพบได้ ที่โรงแรมเดอะ เดวิส ซอยสุขุมวิท 24 ตามที่นายชูวิทย์ให้สัญญา ทำให้ลุงเปี๊ยก ยอมให้ผู้สื่อข่าวเข้าใกล้ และเดินทางไปพบนายชูวิทย์ทันที เมื่อเวลา 22.00 น. ที่ผ่านมา


ทันทีที่ลุงเปี๊ยกพบหน้าชูวิทย์ ก็ก้มลงกราบขอบพระคุณ และพูดว่า “ปลื้มปิติที่ได้เจอท่านชูวิทย์ตัวจริง” จากนั้นก็แสดงความชื่นชมนายชูวิทย์ที่ออกมาต่อสู้กลุ่มทุนจีนสีเทาโดยไม่เกรงกลัวอิทธิพลจากฝ่ายใด แล้วบอกว่าการที่ออกมาก่อเหตุแบบนี้ ไม่ได้การต้องการสร้างกระแส แต่ต้องการออกมาต่อสู้เรียกร้องเหมือนกับที่นายชูวิทย์ทำ ไม่ได้ต่อสู้เพื่อตัวเองแต่อยากให้เกิดความเปลี่ยนแปลงในสังคม ขณะที่ นายชูวิทย์ ชื่นชมลุงเปี๊ยกกลับไปเหมือนกันว่า เป็นคนดีที่คิดถึงสังคมก่อน และให้ทำความดีต่อไป ส่วนตนก็จะสู้เต็มที่ ถ้ามันสุดแค่ไหนก็ทำเต็มที่เท่านั้น และถ้าอยากเป็นกำลังใจขอให้คอยติดตามข่าวสารที่ตนนำเสนอต่อสื่อมวลชน

หลังจบการพูดคุย นายชูวิทย์ก็เข้าสวมกอดลุงเปี๊ยก และบอกว่า อย่าก่อเหตุลักษณะเช่นนี้อีก และจะขอร่วมบริจาคโลงศพที่ลุงเปี๊ยกทำมาเป็นประจำด้วย แล้วทั้งสองก็ถ่ายรูปร่วมกัน ก่อนที่ชุดสืบสวน สน.ทุ่งสองห้อง จะนำตัวลุงเปี๊ยกไปเพื่อทำประวัติและปล่อยตัวกลับบ้าน.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สำนักสงฆ์หูตาทิพย์

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์”

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์” พระอ้างใช้สอนวิปัสสนากรรมฐาน เบื้องต้นอายัดไว้พิสูจน์ดีเอ็นเอ พร้อมเอาผิดหัวหน้าสำนักสงฆ์ ฐานนำศพเก็บไว้ในสถานที่ที่ไม่ใช่สุสานและฌาปนสถาน

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

รัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มยูเครน

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย แถลงยืนยันว่ารัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มภาคตะวันออกยูเครนเมื่อวานนี้ ตอบโต้ที่ยูเครนใช้ขีปนาวุธที่ได้รับมอบจากสหรัฐและอังกฤษ

ข่าวแนะนำ

โค้งสุดท้าย ศึกสองนารีชิงเก้าอี้ นายก อบจ.นครฯ

เหลือไม่ถึง 2 วันแล้ว ที่ชาวนครศรีธรรมราชจะได้ออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งนายก อบจ.นครฯ ศึกนี้เป็นการสู้กันเองของพรรคร่วมรัฐบาล ฝ่ายหนึ่งต้องการรักษาฐานที่มั่นไว้ให้ได้ อีกฝ่ายต้องการเจาะฐานให้แตก เพื่อหวังครองที่นั่งการเมืองระดับชาติในสมัยหน้า

ร้อนระอุโค้งสุดท้าย ศึกชิงเก้าอี้ นายก อบจ.อุดรธานี

การเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี ครั้งนี้ดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครจาก 2 พรรคใหญ่ลงชิงชัย ต่างเร่งเครื่องเต็มที่ในโค้งสุดท้าย การเลือกตั้งจะเกิดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 24 พ.ย.นี้ ใครจะเป็นผู้คว้าชัยชนะและสร้างการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญให้จังหวัดอุดรธานี ไปติดตามจากรายงาน

ความเห็นนักวิชาการ คดีทักษิณ

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติไม่รับคำร้อง นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีและพรรคเพื่อไทย ร่วมกันกระทำการอันเป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครอง ขณะที่นักวิชาการชี้ว่าไม่ได้พลิกไปจากความคาดหมาย และผลจากคดีนี้ ไม่ทำให้เกิดจุดเปลี่ยนทางการเมือง แต่ก็ยังมีจุดเสี่ยงที่ต้องระวัง