ชุมพร 30 ธ.ค. – เปิดชีวิต “พลทหารชลัช อ้อยทอง” กำลังพลเรือหลวงสุโขทัย สุดรันทด กำพร้าพ่อ แม่พิการสมองแต่กำเนิด เรียนจบแค่ ป.2 รับจ้างทำงานเลี้ยงดูยายวัย 78 ปี ก่อนจับสลากได้เป็นทหารเกณฑ์ ถูกส่งตัวไปฝึกที่กองทัพเรือสัตหีบ จ.ชลบุรี ก่อนเสียชีวิตในหน้าที่
เปิดชีวิต “พลทหารชลัช อ้อยทอง” เสียชีวิตจากเหตุการณ์เรือหลวงสุโขทัยอับปางกลางทะเล พื้นที่ อ.บางสะพาน จ.ประจวบคีรีขันธ์ ซึ่งเป็นหนึ่งในผู้สูญหาย ก่อนต่อมาพบร่างลอยอยู่กลางทะเลใน จ.ชุมพร
พลทหารชลัช มีภูมิลำเนาอยู่ที่ จ.ชุมพร กำพร้าพ่อ แม่พิการทางสมองตั้งแต่เกิด ปัจจุบันอยู่สถานคุ้มครองคนไร้ที่พึ่ง เรียนจบเพียงชั้น ป.2 แค่อ่านออกเขียนได้ ต้องดิ้นรนทำงานเลี้ยงดูยายวัย 78 ปี ก่อนจะจับสลากได้เป็นทหารเกณฑ์ผลัด 3 ถูกส่งตัวไปฝึกที่กองทัพเรือสัตหีบ จ.ชลบุรี เมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมา กระทั่งมาประสบชะเหตุดังกล่าว
ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวเดินทางไปที่บ้านของพลทหารชลัช ในพื้นที่หมู่ 5 บ้านท่าไม้ลาย ต.วังใหม่ อ.เมือง จ.ชุมพร พบสภาพเป็นบ้านปูนชั้นเดียวก่อด้วยอิฐบล็อก ด้านในไม่ได้ฉาบผิว หลังคามุงกระเบื้องสภาพเก่าทรุดโทรม โดยมีนางอำพร อายุ 56 ปี และนางปัจจะ อายุ 73 ปี อาศัยอยู่ในบ้าน
ทั้ง 2 คนบอกกับผู้สื่อข่าวว่าก่อนหน้านี้มีรถตู้ทหารมารับตัวนางฉ่ำ อายุ 78 ปี ยายของพลทหารชลัช ไปที่ อ.บางสะพาน จ.ประจวบคีรีขันธ์ เพื่อไปรับศพหลานกลับบ้าน
จากการสำรวจบรรยากาศภายในบ้านพบมี 2 ห้องนอน 1 ห้องน้ำ และมีห้องโถงโล่งจากหน้าบ้านยาวไปถึงครัวหลังบ้าน และมีห้องน้ำอยู่ใกล้กัน มีสิ่งของเครื่องใช้เสื้อผ้าเก่าๆ วางอยู่ทั่ว มีอุปกรณ์เครื่องใช้ไฟฟ้าเพียงหม้อหุงข้าว โทรทัศน์เก่าชำรุดใช้การไม่ได้ และวิทยุทรานซิสเตอร์สีดำ 1 เครื่อง ที่คนในครอบครัวใช้เปิดฟังเพลงและข่าวสารบ้านเมืองเท่านั้น โดยที่บ้านหลังนี้ไม่มีแม้แต่รูปภาพของพลทหารชลัชติดใส่กรอบไว้ในบ้านแม้แต่รูปเดียว
นางอำพร อายุ 56 ปี เปิดเผยว่า ตนเองมีศักดิ์เป็นหลานสะใภ้ของพลทหารชลัช อาศัยอยู่ร่วมกันที่บ้านหลังนี้มานานแล้วเพื่อดูแลย่าฉ่ำด้วย ที่ผ่านมาไม่เคยได้ซื้ออุปกรณ์เครื่องใช้ไฟฟ้าใหม่ๆ เลย ทุกวันนี้ฟังข่าวสารจากวิทยุทรานซิสเตอร์เก่าๆ เพียงเครื่องเดียวเท่านั้น ขณะที่ชีวิตส่วนตัวของพลทหารชลัชน่าสงสารมาก ไม่มีพ่อมาตั้งแต่เกิด ส่วนแม่ก็พิการทางสมองมาตั้งแต่เกิด ขณะนี้แม่ของพลทหารชลัชถูกส่งตัวไปอยู่ที่สถานคุ้มครองคนไร้ที่พึ่งประจวบคีรีขันธ์ หรือ “บ้านประจวบโชค” นานเกือบ 20 ปีแล้ว และไม่เคยเจอหน้ากันอีกเลย ส่วนการศึกษาก็จบเพียงชั้น ป.2 เพราะต้องออกมาทำงานหาเงินเลี้ยงยาย
อย่างไรก็ตาม ผู้สื่อข่าวสอบถามว่าหลังทราบข่าวการเสียชีวิต ยายฉ่ำได้พูดอะไรบ้าง นางอำพร บอกว่ายายฉ่ำมีอาการเสียใจแต่ไม่แสดงออก เพียงแต่บอกสั้นๆ ว่า “ถึงเวลาเขาก็พาไป” .-สำนักข่าวไทย