ปี 66 ดอกเบี้ยเงินกู้เพิ่มอีก 0.4%

กรุงเทพฯ 28 ธ.ค. – สมาคมธนาคารไทย แจ้งสิ้นสุดมาตรการลดเงินนำส่งเข้ากองทุนฟื้นฟูฯ จาก 0.23% ต่อปี กลับเข้าสู่อัตรา 0.46% ต่อปี ตั้งแต่ 1 ม.ค.66 มีผลให้ธนาคารพาณิชย์ต้องทยอยปรับขึ้นดอกเบี้ยเงินกู้ 0.4% ต่อปี


ตามที่ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ได้ออกประกาศเมื่อวันที่ 1 เมษายน 2563 เรื่องการปรับลดอัตราเงินนำส่งเข้ากองทุนเพื่อการฟื้นฟูและพัฒนาระบบสถาบันการเงิน (FIDF) เพื่อลดต้นทุนของสถาบันการเงิน ให้สามารถส่งผ่านความช่วยเหลือไปยังภาคธุรกิจและภาคประชาชนเป็นการชั่วคราวสิ้นสุดวันที่ 31 ธันวาคม 2565 โดยการลดเงินนำส่งดังกล่าว ส่งผลให้ธนาคารพาณิชย์ได้มีการลดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ลอยตัว (M-rate) ลง 0.4% ไปก่อนหน้านี้

จากสถานการณ์โควิด-19 ที่คลี่คลาย ส่งผลให้เศรษฐกิจไทยมีแนวโน้มฟื้นตัวอย่างต่อเนื่องและชัดเจนขึ้น ธปท.จึงมีทิศทางปรับนโยบายการเงินเข้าสู่ภาวะปกติ (Policy Normalization) ซึ่งสอดคล้องกับที่คณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ได้ทยอยปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบาย นอกจากนี้ เพื่อช่วยให้ภาระหนี้ของ FIDF ที่เกิดขึ้นในช่วงวิกฤตเศรษฐกิจปี 2540 สามารถทยอยลดลงได้ตามเป้าหมาย โดยไม่สร้างภาระต่อระบบการเงินและระบบเศรษฐกิจไทยโดยไม่จำเป็น ธปท.จึงจะมีการปรับอัตราเงินนำส่งจากสถาบันการเงินเข้ากองทุนเพื่อการฟื้นฟูและพัฒนาระบบสถาบันการเงิน (FIDF) ให้กลับเข้าสู่อัตราปกติที่ 0.46%ต่อปี จากปัจจุบันอยู่ที่ 0.23% ต่อปี มีผลตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2566 เป็นต้นไป ส่งผลให้ธนาคารพาณิชย์จำเป็นต้องทยอยปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ 0.4% ต่อปี ตามที่ได้ปรับลดไป 0.4% ในช่วงก่อนหน้า
สมาคมธนาคารไทยและธนาคารสมาชิก ตระหนักถึงผลกระทบต่อลูกค้าประชาชน และให้ความสำคัญกับการดูแลลูกค้ากลุ่มเปราะบางที่รายได้ยังไม่กลับมาปกติ และได้รับผลกระทบจากภาวะค่าครองชีพที่สูงขึ้น จึงพร้อมให้ความช่วยเหลือลูกค้าที่ได้รับผลกระทบ ผ่านมาตรการความช่วยเหลือของแต่ละธนาคาร ที่มุ่งเน้นการให้ความช่วยเหลือที่เหมาะสม ตรงจุด และทันการณ์ ครอบคลุมทั้งการลดภาระทางการเงิน การปรับปรุงโครงสร้างหนี้เดิม โดยคำนึงถึงศักยภาพและโอกาสในการปรับตัวของลูกค้าในอนาคต การเสริมสภาพคล่อง และการไกล่เกลี่ยหนี้ โดยลูกค้าที่ประสงค์จะขอรับความช่วยเหลือหรือคำปรึกษาสามารถติดต่อกับธนาคารที่ใช้บริการได้ทันที


ขณะเดียวกัน สมาคมธนาคารไทยและธนาคารสมาชิก จะเร่งผลักดันมาตรการอื่นๆ ภายใต้มาตรการสินเชื่อฟื้นฟูฯ ที่ปรับเงื่อนไขให้ธุรกิจที่ได้รับผลกระทบสามารถเข้าถึงสินเชื่อได้มากขึ้น เพื่อบรรเทาภาระของผู้ประกอบธุรกิจและประชาชนผ่านมาตรการต่างๆ ได้แก่ ลูกหนี้รายย่อย และ SMEs ที่รายได้หยุดชะงัก โครงการพักทรัพย์พักหนี้ สำหรับลูกหนี้ธุรกิจที่ต้องใช้เวลาในการฟื้นตัว ทั้งนี้จะได้มีการติดตามความคืบหน้าและประสิทธิผลของมาตรการต่างๆอย่างใกล้ชิด และพร้อมพิจารณาดำเนินการเพิ่มเติมหากมีความจำเป็นในระยะต่อไป โดยสมาคมธนาคารไทย พร้อมปฏิบัติตามนโยบายและร่วมขับเคลื่อนเศรษฐกิจให้เติบโตได้อย่างยั่งยืนในระยะยาว.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ค้นบ้านสามารถ

ดีเอสไอเข้าค้นบ้าน “สามารถ” คดีฟอกเงินดิไอคอน

ดีเอสไอเข้าค้นบ้าน “สามารถ เจนชัยจิตรวนิช” คดีฟอกเงินดิไอคอน หลังพบเงิน “บอสดิไอคอน” โอนเข้าบัญชีแม่ของนายสามารถ

หมอบุญ

THG แจงบริษัทไม่เกี่ยวข้องคดีต่างๆ ที่เกิดจาก “หมอบุญ”

THG แจงตลาดหลักทรัพย์ฯ ปัจจุบัน “หมอบุญ” ไม่ได้ดำรงตำแหน่งกรรมการและผู้บริหารใน THG คดีฉ้อโกงใดๆ ที่เกิดขึ้น บริษัทไม่เกี่ยวข้อง

คะแนนไม่เป็นทางการ เลือกตั้งนายก อบจ.นครฯ

ลุ้นผลคะแนนเลือกตั้งนายก อบจ.นครศรีธรรมราช นับเสร็จแล้วบางหน่วย ล่าสุด ณ เวลา 19.40 น. “วาริน ชิณวงศ์” เบอร์ 2 จากทีมนครเข้มแข็ง ชนะคู่แข่งขาดลอยในหลายหน่วย คะแนนทิ้งห่างแชมป์เก่า “กนกพร เดชเดโช” เบอร์ 1 จากพรรค ปชป.

“ทนายสายหยุด” จ่อถอนตัวคดีตั้ม หวั่นติดร่างแห

“ทนายสายหยุด” เตรียมถอนตัวเป็นทนายให้ “ตั้ม” เผยในมือมีแต่พยานเท็จ ปิดบังข้อเท็จจริง เสี่ยงเป็นผู้ร่วมกระทำผิด

ข่าวแนะนำ

วิเคราะห์การเมืองสนามใหญ่ หลังศึกเลือกตั้งนายก อบจ.

วิเคราะห์ผลการเลือกตั้งนายก อบจ. 4 สนามใหญ่ โดยเฉพาะอุดรธานี ที่สะท้อนถึงความนิยมในตัวของนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี

“บิ๊กเต่า” ลั่นเตรียมมอบกุญแจมือเป็นของขวัญปีใหม่ให้คนดัง ส่งนอนห้องขัง

“บิ๊กเต่า” ลั่นเตรียมมอบ “กุญแจมือ” เป็นของขวัญปีใหม่ให้อินฟลูฯ นักร้อง คนดัง ส่งนอนห้องขังวีไอพี เผยปม “ฟิล์ม รัฐภูมิ” คาดมีความชัดเจนภายในสัปดาห์นี้

หมอบุญ

THG แจงบริษัทไม่เกี่ยวข้องคดีต่างๆ ที่เกิดจาก “หมอบุญ”

THG แจงตลาดหลักทรัพย์ฯ ปัจจุบัน “หมอบุญ” ไม่ได้ดำรงตำแหน่งกรรมการและผู้บริหารใน THG คดีฉ้อโกงใดๆ ที่เกิดขึ้น บริษัทไม่เกี่ยวข้อง