ไฟไหม้บ้านประชาชน ซ.สามเสน 13 พบสองแม่ลูกดับคากองเพลิง

กรุงเทพฯ 27 ธ.ค. – ไฟไหม้บ้านเรือนประชาชน บริเวณหน้าวัดญวน ซอยสามเสน 13 แขวงวชิระ เขตดุสิต กทม. เสียหาย 4 หลัง พบสองแม่ลูกนอนคู่กันเสียชีวิตคากองเพลิง


ร.ต.ท.หาญณรงค์ เรืองรักษ์ รอง สว.(สอบสวน) สน.สามเสน พร้อมตำรวจงานสายตรวจ 1 กองบังคับการสายตรวจเเละปฏิบัติการพิเศษ 191 เข้าตรวจสอบเหตุเพลิงไหม้บ้านเรือนประชาชน ชุมชนมิตคราม ซอยสามเสน 13 แขวงวชิระ เขตดุสิต กทม. หลังได้รับแจ้งเมื่อเวลา 03.00 น.ที่ผ่านมา พร้อมประสานสำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย และอาสาร่วมกตัญญู นำรถดับเพลิงเข้าระงับเหตุ 20 คัน

ที่เกิดเหตุเป็นซอยคับแคบ เจ้าหน้าที่ต้องลำเลียงสายดับเพลิงเข้าระงับเหตุ โดยเพลิงโหมลุกไหม้บ้านไม้และบ้านครึ่งตึกครึ่งไม้ เบื้องต้นทราบว่าต้นเพลิงเกิดขึ้นที่บ้านหลังหนึ่ง ก่อนจะลุกลามอย่างรวดเร็ว ทำให้บบ้านอีก 4 หลังซึ่งอยู่ใกล้เคียง ได้รับความเสียหาย


ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ต้องใช้วิธีนำรถน้ำเข้าล้อมจุดเกิดเหตุไว้ทุกด้าน ก่อนระดมฉีดน้ำ ใช้เวลาประมาณ 30 นาที จึงควบคุมเพลิงไว้ได้ จากการตรวจสอบเบื้องต้นพบผู้เสียชีวิต 2 ราย นอนอยู่คู่กัน ทราบชื่อคือ นางรัชนี อายุ 68 ปี และนายธีร์ อายุ 38 ปี บุตรชาย พนักงานสอบสวนจึงแจ้งแพทย์โรงพยาบาลวชิรพยาบาล เข้าชันสูตรศพ

สอบสวนนายอนันต์ อายุ 31 ปี ให้การว่า ระหว่างนอนหลับอยู่ใกล้บ้านที่เกิดเหตุ ได้กลิ่นเหม็นไหม้จึงแจ้งให้คนในครอบครัวทราบเพื่อตามหาต้นเหตุของกลิ่นดังกล่าว กระทั่งพบกลุ่มควันลอยออกมาจากบ้านหลังหนึ่ง จึงตะโกนร้องให้คนในบ้านที่เกิดเหตุตื่น ปรากฏว่าคนที่อยู่ในบ้านข้างเคียงตะโกนเรียกคนภายในบ้านแต่ไม่มีเสียงตอบรับ จากนั้นแสงเพลิงลุกลามขึ้นอย่างรวดเร็ว เนื่องจากบ้านสร้างด้วยไม้ ก่อนจะลุกลามไปหลายหลัง ตนใช้น้ำฉีดสกัดระหว่างรอเจ้าหน้าที่มา แต่ไม่สามารถคุมเพลิงได้ในตอนแรก ก่อนเจ้าหน้าที่จะมาถึง

เบื้องต้นพนักงานสอบสวนให้เจ้าหน้าที่สำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยฉีดน้ำดับถ่าน เพื่อไม่ให้เกิดแสงเพลิงขึ้นมาอีก พร้อมประสานกองพิสูจน์หลักฐานเข้าตรวจสอบบริเวณเหตุจุดเกิดเหตุเพื่อหาสาเหตุการเกิดเพลิงไหม้ครั้งนี้ พร้อมส่งศพไปชันสูตรที่นิติเวชโรงพยาบาลวชิรพยาบาล เพื่อหาสาเหตุการเสียชีวิต.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สำนักสงฆ์หูตาทิพย์

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์”

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์” พระอ้างใช้สอนวิปัสสนากรรมฐาน เบื้องต้นอายัดไว้พิสูจน์ดีเอ็นเอ พร้อมเอาผิดหัวหน้าสำนักสงฆ์ ฐานนำศพเก็บไว้ในสถานที่ที่ไม่ใช่สุสานและฌาปนสถาน

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

รัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มยูเครน

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย แถลงยืนยันว่ารัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มภาคตะวันออกยูเครนเมื่อวานนี้ ตอบโต้ที่ยูเครนใช้ขีปนาวุธที่ได้รับมอบจากสหรัฐและอังกฤษ

ข่าวแนะนำ

โค้งสุดท้าย ศึกสองนารีชิงเก้าอี้ นายก อบจ.นครฯ

เหลือไม่ถึง 2 วันแล้ว ที่ชาวนครศรีธรรมราชจะได้ออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งนายก อบจ.นครฯ ศึกนี้เป็นการสู้กันเองของพรรคร่วมรัฐบาล ฝ่ายหนึ่งต้องการรักษาฐานที่มั่นไว้ให้ได้ อีกฝ่ายต้องการเจาะฐานให้แตก เพื่อหวังครองที่นั่งการเมืองระดับชาติในสมัยหน้า

ร้อนระอุโค้งสุดท้าย ศึกชิงเก้าอี้ นายก อบจ.อุดรธานี

การเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี ครั้งนี้ดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครจาก 2 พรรคใหญ่ลงชิงชัย ต่างเร่งเครื่องเต็มที่ในโค้งสุดท้าย การเลือกตั้งจะเกิดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 24 พ.ย.นี้ ใครจะเป็นผู้คว้าชัยชนะและสร้างการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญให้จังหวัดอุดรธานี ไปติดตามจากรายงาน

ความเห็นนักวิชาการ คดีทักษิณ

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติไม่รับคำร้อง นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีและพรรคเพื่อไทย ร่วมกันกระทำการอันเป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครอง ขณะที่นักวิชาการชี้ว่าไม่ได้พลิกไปจากความคาดหมาย และผลจากคดีนี้ ไม่ทำให้เกิดจุดเปลี่ยนทางการเมือง แต่ก็ยังมีจุดเสี่ยงที่ต้องระวัง