ท่าอากาศยานอู่ตะเภา 22 ธ.ค.-ผบ.ทร.พร้อมคณะนายทหารระดับสูงร่วมพิธีรับร่างทหาร ร.ล.สุโขทัย 6 นาย ลำเลียงโดยเครื่องบิน C – 130 ของทอ. ก่อนเคลื่อนไปฌาปนสถานกองทัพเรือสัตหีบ มีทหารกองเกียรติยศรับรถขบวนเคลื่อนย้ายร่างตลอดเส้นทางอย่างสมเกียรติ
พล.ร.อ.เชิงชาย ชมเชิงแพทย์ ผู้บัญชาการทหารเรือ พร้อมคณะผู้บังคับบัญชาระดับสูงและกำลังพลในพื้นที่สัตหีบร่วมพิธีรับร่างกำลังพลที่เสียชีวิต 6 นาย จากเหตุการณ์ร.ล.สุโขทัยอับปาง ซึ่งประกอบด้วย ว่าที่ เรือเอก สามารถ แก้วผลึก พันจ่าเอก อัชชา แก้วสุพรรณ์ พันจ่าเอก อำนาจ พิมที พันจ่าเอก สมเกียรติ หมายชอบ จ่าเอก จักรพงค์ พูลผล และพลทหาร อัครเดช โพธิ์บัติ ซึ่งลำเลียงมาโดยเครื่องบิน C-130 ของกองทัพอากาศ จากกองบิน 5 จังหวัดประจวบคีรีขันธ์มาท่าอากาศยานอู่ตะเภา
จากนั้นจะเคลื่อนศพไปยังฌาปนสถานกองทัพเรือสัตหีบ อำเภอสัตหีบ จังหวัดชลบุรี โดยมีทหารกองเกียรติยศรับรถขบวนเคลื่อนย้ายร่าง ตลอดเส้นทางผ่านอย่างสมเกียรติ ซึ่งผู้เสียชีวิตทั้ง 6 นาย ได้รับพระมหากรุณาธิคุณโปรดเกล้าฯ จากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ให้ศพอยู่ในพระบรมราชานุเคราะห์ ตั้งบำเพ็ญกุศล ฯ ณ กิจการฌาปนสถานกองทัพเรือ สัตหีบ
สำหรับในส่วนของสิทธิกำลังพลผู้เสียชีวิต กรณีนี้กองทัพเรือถือว่ากําลังพลดังกล่าวเป็นผู้ที่เสียชีวิตจากการปฏิบัติหน้าที่ จะพิจารณาบําเหน็จด้านสิทธิกําลังพลสูงสุด โดยจะพิจารณาเลื่อนชั้นเงินเดือน 3 – 5 ชั้นและขอพระราชทานเลื่อนยศ 2 – 4 ชั้นยศ รวมทั้งเงินช่วยเหลืออื่น ๆ ตามสิทธิที่สมควรจะได้รับ โดยแยกเป็นกลุ่มใหญ่ ๆ ดังนี้ ชั้นยศ นาวาตรี จะขอพระราชทานเลื่อนยศเป็น พลเรือโท กับได้รับสิทธิกําลังพล ประกอบด้วย เงินประกันภัยหมู่แบบเฉพาะกิจกองทัพเรือ 500,000 บาท เงินจากกองทุนน้ําใจไทยเพื่อผู้เสียสละกองทัพเรือ 160,0000 บาท และเงินช่วยเหลืออื่น ๆ รวมเป็นเงินประมาณ 1,200,000 บาท
ชั้นยศ จ่าตรี – จ่าเอก จะขอเลื่อนยศและขอพระราชทานเลื่อนยศเป็น พันจ่าโท – เรือตรี กับได้รับสิทธิกําลังพล ประกอบด้วย เงินประกันภัยหมู่แบบเฉพาะกิจกองทัพเรือ 500,000 บาท เงินจากกองทุนน้ําใจไทยเพื่อผู้เสียสละกองทัพเรือ 135,000 บาท และเงินช่วยเหลืออื่น ๆ รวมเป็นเงินประมาณ 900,000 บาท
สำหรับทหารกองประจําการ จะขอเลื่อนยศเป็น พันจ่าตรี กับได้รับสิทธิกําลังพล ประกอบด้วย เงินประกันภัยหมู่แบบเฉพาะกิจกองทัพเรือ 500,000 บาท เงินจากกองทุนน้ำใจไทยเพื่อผู้เสียสละกองทัพเรือ 100,000 บาท และเงินช่วยเหลืออื่น ๆ รวมเป็นเงินประมาณ 600,000 บาท ทั้งนี้ กองทัพเรือ จะเร่งรัดการดําเนินการให้กําลังพลและครอบครัวได้รับสิทธิกําลังพลเป็นไปด้วยความรวดเร็ว เพื่อช่วยเหลือบรรเทาความเดือนร้อนในเบื้องต้นให้แก่กําลังพลและครอบครัวต่อไป.-สำนักข่าวไทย
