ทองไทย บาทละครึ่งแสนแล้ว ทำสถิติสูงสุด

กรุงเทพฯ 28 มี.ค. – สมาคมค้าทองคำ รายงานราคาทองคำเช้านี้ สร้างสถิติสูงสุด เปิดครั้งแรก ปรับตัวขึ้น 600 บาท เงินครึ่งแสน ซื้อทองได้ 1 บาท โดยราคาทองสำเร็จรูปขายออกบาทละ 50,150 บาท ทองแท่งขายออก 49,350 บาท บนฐาน ทองคำเอเชียราคา SPOT ที่ 3,077.50 ดอลลาร์ และค่าเงินบาท 33.89 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ

ด้าน ฮั่วเซ่งเฮง ผู้ค้าทองรายใหญ่ ระบุทองคำทำราคาจุดสูงสุดใหม่ หลังจากประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐ ไม่ยืดหยุ่น นโยบายทางด้านภาษี ราคาทองคำแท่งปรับตัวขึ้น ทำจุดสูงสุดใหม่เป็นวันที่ 17 ตั้งแต่ ในช่วงต้นปี 68 ตามราคาทองโลกทำนิวไฮ ซื้อขายเหนือระดับ 3,060 ดอลลาร์ ซึ่งเป็นแนวต้านสำคัญ ฮั่วเซ่งเฮง แนะนำราคาปรับตัวขึ้นทำนิวไฮ ทำให้ต้องระวังแรงขาย แต่ถ้าการย่อตัวไม่หลุด 3,048 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ยังไม่เสียโมเมนตัมขาขึ้นในระยะสั้น โดยมีแนวต้าน 3,070-3,100 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หลุด 3,048 ดอลลาร์ต่อออนซ์ เสียทรงและอาจจะมีโอกาสพักตัวลึกขึ้น

สำหรับกลยุทธ์ เข้าซื้อหากราคาไม่หลุด 3,048 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หลุด 3,048 ดอลลาร์ต่อออนซ์ รอซื้อที่ 3,033-3,012 ดอลลาร์ต่อออนซ์ (ตัดขาดทุนหากหลุด 3,012 ดอลลาร์ต่อออนซ์) แบ่งขายทำกำไรหากราคาไม่ผ่าน 3,070-3,080 ยืน 3,080 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ชะลอไปขายหากราคาไม่ผ่าน 3,100 ดอลลาร์ต่อออนซ์

ด้านสำนักข่าวต่างประเทศรายงาน สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือน เม.ย. เพิ่มขึ้น 38.50 ดอลลาร์ หรือ 1.27% ปิดที่ 3,061.00 ดอลลาร์/ออนซ์ ปิดพุ่งขึ้นกว่า 1.2% เนื่องจากนักลงทุนแห่ซื้อทองคำในฐานะสินทรัพย์ที่ปลอดภัย ท่ามความวิตกกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์ตึงเครียดด้านการค้าทั่วโลกที่ทวีความรุนแรงและตลาดหุ้นที่ร่วงลงอย่างหนัก หลังจากประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐฯ ประกาศเรียกเก็บภาษีนำเข้ารถยนต์ เมื่อวันพุธที่ 26 มี.ค. เพื่อเรียกเก็บภาษีนำเข้ารถยนต์และรถบรรทุกขนาดเล็กในอัตรา 25% จากเดิมที่ระดับ 2.5% โดยจะมีผลบังคับใช้ในวันที่ 2 เม.ย. ส่วนการเรียกเก็บภาษีชิ้นส่วนรถยนต์จะเริ่มมีผลบังคับใช้ในวันที่ 3 เม.ย.

นอกจากนี้ ปธน.ทรัมป์ เตรียมใช้มาตรการภาษีศุลกากรตอบโต้ (reciprocal tariff) ในวันที่ 2 เม.ย. โดยรัฐบาลสหรัฐฯ จะเรียกเก็บภาษีดังกล่าวต่อกลุ่มประเทศ “Dirty 15” หรือ 15 ประเทศที่มียอดเกินดุลการค้าสูงสุดกับสหรัฐฯ ในขณะที่รัฐบาลของประเทศต่าง ๆ ซึ่งรวมถึงแคนาดาและฝรั่งเศส ได้ประกาศว่าจะใช้มาตรการตอบโต้ ความเคลื่อนไหวดังกล่าวส่งผลให้ตลาดหุ้นทั่วโลกร่วงลงอย่างหนัก และยังทำให้นักลงทุนแห่ซื้อทองคำในฐานะสินทรัพย์ที่ปลอดภัย โดยราคาทองคำพุ่งขึ้นทำสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ระดับ 3,071.30 ดอลลาร์/ออนซ์ ในระหว่างวัน

โกลด์แมน แซคส์ (Goldman Sachs) ปรับเพิ่มคาดการณ์ราคาทองคำขึ้นสู่ระดับ 3,300 ดอลลาร์/ออนซ์ภายในสิ้นปี 2568 จากตัวเลขคาดการณ์เดิมที่ระดับ 3,100 ดอลลาร์ โดยระบุว่าความต้องการทองคำของธนาคารกลางในประเทศต่าง ๆ มีความแข็งแกร่งมากกว่าที่คาดการณ์ไว้ และเม็ดเงินที่ไหลเข้าสู่กองทุน ETF ทองคำที่เพิ่มขึ้นอย่างมาก

ด้านศูนย์วิจัยกสิกรไทย รายงานเงินบาทปรับตัวอยู่ที่ระดับประมาณ 33.87-33.89 บาทต่อดอลลาร์ฯ ในช่วงเช้าวันนี้ (09.25 น.) เทียบกับระดับปิดตลาดวานนี้ที่ 33.93 บาทต่อดอลลาร์ฯ เงินบาทแข็งค่าขึ้นตามทิศทางราคาทองคำในตลาดโลกที่กลับขึ้นไปทำสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์ครั้งใหม่เมื่อคืนที่ผ่านมา อย่างไรก็ดี กรอบการแข็งค่าของเงินบาทยังเป็นไปอย่างจำกัด เนื่องจากตลาดยังคงรอติดตามตัวเลขเงินเฟ้อ PCE/Core PCE ของสหรัฐฯ ในคืนนี้ รวมถึงรายละเอียดของแผนการเก็บ reciprocal tariff ของสหรัฐฯ กับประเทศที่เกินดุลการค้ากับสหรัฐฯ ในระดับสูงในสัปดาห์หน้าอย่างใกล้ชิด
สำหรับกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทในวันนี้ ประเมินเบื้องต้นไว้ที่ 33.75-34.00 บาทต่อดอลลาร์ฯ ขณะที่ปัจจัยสำคัญที่ต้องติดตาม ได้แก่ ทิศทางราคาทองคำในตลาดโลก สัญญาณฟันด์โฟลว์ของต่างชาติ ประเด็นเกี่ยวกับสงครามการค้าของสหรัฐฯ และคู่ค้าสำคัญ และตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ อาทิ ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือน มี.ค. และอัตราเงินเฟ้อที่วัดจากดัชนีราคา PCE/Core PCE เดือน ก.พ. -511- สำนักข่าวไทย