นครสวรรค์ 4 พ.ค.- แม่ป่วยมะเร็งสมองระยะสุดท้ายวอนช่วยลูกชายป่วยโรคพุ่มพวงมานานกว่า 3 ปี เดินไม่ได้ เป็นแผลพุพองทั่วตัว
เมื่อเวลา 11.00 น. วันนี้ (4 พ.ค.) นายวิเชียร จูห้อง นายอำเภอท่าตะโก จ.นครสวรรค์ พร้อมด้วย นายวิฑูร บุญเพ็ชร ผู้ช่วยสาธารณสุข อ.ท่าตะโก รวมถึงหน่วยพยาบาล และทหาร ร่วมเข้าเยี่ยมเยียน และตรวจสอบอาการ ชายอายุ 21 ปี ซึ่งนอนป่วยเป็นโรคพุ่มพวง หรือโรคแพ้ภูมิตนเอง อยู่ภายในบ้าน ต.ดอนคา โดยมีบิดา อายุ 49 ปี และมารดา อายุ 44 ปี ซึ่งมีอาการป่วยเป็นมะเร็งสมองระยะสุดท้าย คอยเฝ้าดูแลบุตรชายอยู่ไม่ห่าง
ภายในบ้านพัก พบว่าชายคนดังกล่าวต้องนอนซมอยู่ในห้องที่ติดเครื่องปรับอากาศ ไม่สามารถลุกเดินออกไปไหนได้ เนื่องจากสภาพตามร่างกายมีแผลกดทับขนาดใหญ่จากการเป็นแผลพุพองมาก่อนหลายแห่ง และต้องอยู่อย่างทรมานในสภาพนี้มานานกว่า 3 ปีแล้ว เพราะรักษาไม่หายขาด จึงทำให้กลุ่มเพื่อนของชายคนดังกล่าวตัดสินใจนำเรื่องอาการป่วยดังกล่าว ไปประกาศโพสต์บนเฟซบุ๊กบนหน้าเพจข่าวต่างๆ ของชาวนครสวรรค์ เพื่อขอคำแนะนำจากผู้รู้ ให้ช่วยหาสถานที่รักษาให้หายขาด กระทั่งผู้นำเรื่องไปแชร์กันเป็นวงกว้าง จนนายอำเภอทราบเรื่องจึงเข้าตรวจเยี่ยมอาการ และเตรียมส่งตัวไปรักษาตัวที่โรงพยาบาลสวรรค์ประชารักษ์
มารดาของชายคนดังกล่าว เล่าว่า บุตรชายป่วยด้วยโรคพุ่มพวงมานานกว่า 3 ปี ช่วงแรกๆ ยังสามารถเดินไปไหนมาไหนได้ และช่วงที่เป็นโรคนี้ใหม่ๆ เคยพาไปรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลสวรรค์ประชารักษ์ ตอนนั้นแพทย์ระบุว่า ป่วยเป็นโรคแพ้ภูมิตนเอง มีอาการเหมือนกับคุณพุ่มพวง ดวงจันทร์ อดีตนักร้องชื่อดัง แต่อาการจะรุนแรงกว่า ต้องรักษาไปเรื่อยๆ แต่ไม่ระบุว่าจะรักษาให้หายขาดได้ รักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลได้ระยะหนึ่งจนอาการเริ่มดีขึ้น จึงกลับมารักษาตัวที่บ้าน อาการก็เริ่มทรุดลงอีก เพราะไม่สามารถเจออากาศร้อนจัดได้จะเกิดแผลพุพอง และแผลกดทับทันที จึงต้องติดเครื่องปรับอากาศ เพื่อช่วยไม่ให้มีแผลพุพองเกิดใหม่เกือบตลอดเวลา
อย่างไรก็ตาม หลังจากที่ตนได้พาบุตรชายไปเกณฑ์ทหารตามหมายเรียก เมื่อต้นเดือนเมษายนที่ผ่านมา ปรากฏว่าอาการกลับทรุดหนักลงอย่างมาก ถึงกับเดินไม่ได้ ตนและสามีต้องคอยผลัดเปลี่ยนกันดูแล ทำความสะอาดร่างกาย ล้างแผล ให้อาหารและยา แก่ลูกทุกวัน ส่วนค่าใช้จ่ายในการรักษา ถือว่ายังไม่หนักมาก เพราะบุตรยังใช้สิทธิ อสม.ของตนอยู่ จึงมียาทาและยากินฟรี แต่ก็จะต้องเสียค่าใช้จ่ายในส่วนของแผ่นอนามัย ที่ต้องใช้ถึงวันละ 4 แผ่น
เมื่อสอบถามอาการป่วยมะเร็งสมองระยะสุดท้าย มารดาบอกว่า เนื่องจากเมื่อหลายปีก่อน ตนเคยเดินไปชนคานไม้อย่างแรง จนเกิดเป็นเนื้องอก และลุกลามมาจนเป็นมะเร็ง ซึ่งที่ผ่านมาก็เคยรักษาโดยการผ่านตัด ฉายแสง ทุกวันนี้ต้องใส่กะโหลกเทียม และต้องกลับมารักษาตัวอยู่ที่บ้านตามมีตามเกิด ไม่มียากิน เพราะแพทย์ไม่สามารถรักษาอะไรได้แล้ว มีเพียงแต่การสวดมนต์ฝึกสมาธิเพียงเท่านั้น บอกตรงๆ ตนรู้สึกกลัวอย่างมาก กลัวว่าหากตนสิ้นลมหายใจจากไป จะทำให้สามีลำบากต้องอยู่ดูแลบุตรโดยลำพัง และตนก็เป็นห่วงบุตรคนนี้อย่างมาก ไม่อยากให้เขาต้องทุกข์ทรมาน เหมือนตายทั้งเป็นด้วยอาการป่วยโรคพุ่มพวงไปตลอดชีวิต ตนจึงอยากวอนขอหน่วยงานรัฐ หรือแพทย์ที่สามารถรักษาบุตรให้หายขาดได้ โปรดให้ความช่วยเหลือบุตรชายตนด้วย
ทั้งนี้ หากผู้ใจบุญท่านใดต้องการให้ความช่วยเหลือแก่ครอบครัวของชายคนดังกล่าว ทั้งค่าใช้จ่าย หรือให้คำแนะนำในการรักษา สามารถติดต่อได้ที่เบอร์โทรศัพท์ 093-2296617