ดีเซลตึงตัว ธพ.สั่งลดสำรองเหลือร้อยละ 0.3

กรุงเทพฯ 11 ธ.ค.- ดีเซลตึงตัว ธพ. ร่วมกับผู้ค้าน้ำมันตามมาตรา 7 เร่งบริหารไม่ขาดแคลนรับเทศกาลปีใหม่ ดึงน้ำมันสำรองออกมาใช้ร้อยละ 70 เหลือสำรองทางกฎหมายร้อยละ 0.3 จากข้อกำหนดร้อยละ 1


นางสาวนันธิกา ทังสุพานิช อธิบดีกรมธุรกิจพลังงาน (ธพ.)​ เปิดเผยว่ากรมฯ หารือร่วมกับผู้ค้าน้ำมันตามมาตรา 7 เพื่อแก้ปัญหาภาวะน้ำมันดีเซลหมุนเร็วตึงตัว และรองรับความต้องการใช้น้ำมันสูงในช่วงเทศกาล จึงสั่งการให้ผู้ค้าน้ำมันนำน้ำมันสำรองตามกฎหมาย กลุ่มน้ำมันดีเซลหมุนเร็วออกมาจำหน่าย ในอัตราร้อยละ 70 ของปริมาณสำรองน้ำมันตามกฎหมาย เริ่มตั้งแต่วันที่ 10 ธันวาคม 2565 ถึงวันที่ 31 มกราคม 2566 เพื่อให้มีน้ำมันดีเซลหมุนเร็วไหลเข้าสู่ระบบเพิ่มขึ้น จำนวน 219 ล้านลิตร ซึ่งเพียงพอต่อความต้องการใช้ที่เพิ่มสูงขึ้น

นอกจากนี้ช่วงเทศกาลปีใหม่จะมีปัญหาการจราจรกระทบต่อการทยอยขนส่งไปสู่พื้นที่ต่างๆ อาจต้องใช้เวลา จึงขอความร่วมมือให้ผู้ค้าน้ำมันเร่งขนส่งน้ำมันไปยังคลังน้ำมันและสถานีบริการอย่างต่อเนื่องและเป็นไปโดยเร็วที่สุด


“จากการฟื้นตัวเศรษฐกิจส่งผลให้เกิดความต้องการใช้น้ำมันดีเซลหมุนเร็วมากกว่าที่คาดการณ์ไว้ และเป็นช่วงฤดูเก็บเกี่ยวผลผลิตทางการเกษตร เทศกาลท่องเที่ยวประจำปี คาดว่าความต้องการใช้จะยังคงอยู่ในระดับสูงอย่างต่อเนื่องไปจนถึงเดือนมกราคม 2566 ก่อให้เกิดภาวะน้ำมันดีเซลหมุนเร็วตึงตัวซึ่งการบริหารจัดการก็จะทำให้มีน้ำมันไม่ขาดแคลน” อธิบดีธพ.กล่าว

ทั้งนี้ กรมธุรกิจพลังงาน จะบริหารสถานการณ์ดังกล่าวให้ดีที่สุดและไม่ส่งผลกระทบต่อการเดินทางของประชาชน พร้อมทั้งจะติดตามและประเมินสถานการณ์ดังกล่าวอย่างใกล้ชิด และเมื่อสิ้นสุดระยะเวลามาตรการข้างต้น ผู้ค้าน้ำมันตามมาตรา 7 จะดำเนินการเก็บสำรองกลุ่มน้ำมันดีเซลหมุนเร็วกลับคืนสู่ระดับเดิมตามที่กฎหมายกำหนดไว้ ภายในวันที่ 1 มีนาคม 2566

สำหรับการสำรองน้ำมันทางกฏหมายปัจจุบันกำหนดน้ำมันสำเร็จรูป ร้อยละ 1 แต่เนื่องจากที่ผ่านมา โรงกลั่นของไทยหยุดซ่อมบำรุง ในขณะที่ความต้องการดีเซลเพิ่มขึ้นทั้งจากการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจ​และการใช้ดีเซลผลิตไฟฟ้าทดแทนก๊าซธรรมชาติ​เหลว (แอลเอ็นจี)​ ธพ.จึงลดสำรองทางกฎหมายเฉพาะดีเซลเหลือร้อยละ0.3 หรือดึงน้ำมันดีเซลออกมาใช้ในระบบร้อยละ70 ส่วนน้ำมันประเภทอื่นสำรองเท่าเดิม .-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ประหารชีวิตแอมไซยาไนด์

ศาลอาญาพิพากษาประหารชีวิต “แอม ไซยาไนด์”

ศาลอาญาพิพากษาประหารชีวิต “แอม ไซยาไนด์” ส่วนอดีตสามี คุก 1 ปี 4 เดือน “ทนายพัช” คุก 2 ปี ไม่รอลงอาญา ชดใช้ ให้ผู้เสียหายกว่า 2 ล้านบาท

นายกฯ ถกตั้งนายพลตำรวจ 41 ตำแหน่ง ยันไม่มีการเมืองแทรก

นายกฯ ถกแต่งตั้งนายพลตำรวจ 41 ตำแหน่ง ยันไม่มีการเมืองแทรก ยึดตาม พ.ร.บ.ตำรวจ ฉบับใหม่ พลิกโผ ‘สยาม บุญสม’ ผงาดคุมนครบาล ‘สันติ ชัยนิรามัย’ นั่ง ผบช.ปส. ‘ไตรรงค์ ผิวพรรณ’ โยกคุมไซเบอร์ ‘ภาณุมาศ บุญญลักษม์’ ขึ้นเป็น ผบช.สตม.

ดีเอสไอพบเส้นเงินโอนจากแม่ถึงนักการเมือง ส. เกือบ 100 ล้าน

ดีเอสไอพบเส้นเงินโอนจากแม่ถึงนักการเมือง ส. เกือบ 100 ล้านบาท จำนวนนี้พบโอนจาก “บอสพอล-บอสปีเตอร์” ด้วย เร่งขยายผลมีบอสรายอื่นโอนเข้าบัญชีดังกล่าวอีกหรือไม่

ข่าวแนะนำ

คดีทักษิณ

ศาลรัฐธรรมนูญถกคำร้อง “ทักษิณ-เพื่อไทย” ล้มล้างฯ

จับตา ศาลรัฐธรรมนูญ “รับ/ไม่รับ” คำร้องปม “ทักษิณ-พรรคเพื่อไทย” ใช้สิทธิเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครองหรือไม่

อุตุฯ เผยเหนือ-อีสาน อากาศเย็นในตอนเช้า ภาคใต้ฝนตกหนักบางแห่ง

กรมอุตุฯ เผยภาคเหนือ ภาคอีสาน มีอากาศเย็นในตอนเช้า ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนดูแลรักษาสุขภาพเนื่องจากสภาวะอากาศที่เปลี่ยนแปลง ส่วนภาคใต้ มีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง

“เอวา” เสือโคร่งสายแบ๊ว ดาวรุ่งดวงใหม่

หน้าตาที่น่ารักบ้องแบ๊วเหมือนแมวตัวโต ตกหัวใจคนรักสัตว์กันไปเต็มๆ สำหรับน้องเอวา เสือโคร่งสายแบ๊วของเชียงใหม่ไนท์ซาฟารี นอกจากหน้าตาน่ารักแล้วยังมีความสามารถหลายอย่าง จนกลายเป็นดาวรุ่งดวงใหม่ ที่ผู้คนแห่ไปชมความน่ารักกันอย่างคึกคัก คาดจะช่วยดึงนักท่องเที่ยวไปที่เชียงใหม่ไนท์ซาฟารีเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ

ต้อนรับอบอุ่น “โอปอล” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 ถึงไทย

กลับถึงไทยแล้ว “โอปอล สุชาตา” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 ปรากฏตัวในชุดไทย สวยสง่า แฟนนางงามต้อนรับอย่างอบอุ่น