ตาก 9 ธ.ค. – เจ้าของร้านทองใจเด็ด คว้าปืนลูกซองยิงสู้ 4 โจรบุกปล้นระทึกกลางเมืองตาก โดนสอยร่วงบาดเจ็บ 1 คน จนมุมอีก 1 คน พบที่แท้เป็นถึงดีกรีแชมป์นักแม่นปืน
จากเหตุการณ์ 4 คนร้ายบุกปล้นทองที่ร้านทองบนถนนท่าเรือ อ.เมือง จ.ตาก วานนี้ (8 ธ.ค.) เจอเจ้าของร้านคว้าปืนลูกซองยิงสู้ พบ 2 ใน 4 คนร้าย คือนายวิชัย และนายเต๋อ มีหมายจับศาลจังหวัดแม่สอด คดีปล้นร้านทองกรุงเทพ 4 ในพื้นที่ ต.พบพระ เมื่อวันที่ 12 ก.พ.ที่ผ่านมา ได้ของกลางเป็นทองรูปพรรณน้ำหนัก 182 บาท หลังก่อเหตุพากันหลบหนีข้ามฝั่งไปยังประเทศเพื่อนบ้าน ก่อนกลับมาปล้นร้านทองอีก แต่ครั้งนี้ไม่สำเร็จ
ภาพจากกล้องวงจรปิดเหตุปล้น “ร้านทองกรุงเทพ 4” ตั้งอยู่บนถนนดอนเจดีย์-วาเล่ย์ หมู่ 1 ต.พบพระ อ.พบพระ จ.ตาก ใกล้กับทางเข้าออกหน้าโรงพยาบาล อ.พบพระ ซึ่งเป็นย่านชุมชน เมื่อวันที่ 12 ก.พ.ที่ผ่านมา
ภาพวงจรปิดบันทึกเหตุการณ์เห็นชัดเจนว่าคนร้าย 3 คน แต่งกายมิดชิด สวมหมวกกันน็อกแบบเต็มใบ ลงจากรถกระบะ ใช้ปืนพกสั้นไม่ทราบขนาด ยิงถล่มร้านทอง จากนั้นใช้ค้อนตรงเข้าไปทุบกระจก และวิ่งเข้าไปกวาดทองรูปพรรณใส่กระเป๋า ก่อนวิ่งกลับไปขึ้นรถกระบะ ขับมุ่งหน้าหลบหนีไปทางแนวชายแดนไทย-เมียนมา
ระหว่างเกิดเหตุมีการยิงปืนทั้งคนร้ายและเจ้าของร้านทอง จนลูกค้าชายชาวเมียนมา อายุ 30 ปี ที่มาซื้อทองในขณะนั้น ถูกลูกหลง ถูกยิงหน้าอกซ้าย 1 นัด อาการสาหัส และเสียชีวิตในเวลาต่อมา ขณะที่เจ้าของร้าน 2 คนที่กำลังขายทองไม่ได้รับบาดเจ็บ
พฤติกรรมของกลุ่มคนร้ายเป็นการปล้นอุกอาจที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนใน อ.พบพระ โดยที่ตั้งของร้านทองที่เกิดเหตุอยู่ห่างจาก สภ.พบพระ รวมถึงที่ว่าการอำเภอ 1-2 กิโลเมตร อยู่ไม่ไกลจากชายแดน คนร้ายใช้อาวุธปืนได้อย่างคล่องแคล่ว วางแผนอย่างดี ทำงานทีม มีความชำนาญเส้นทางในการหลบหนี
หลังก่อเหตุเจ้าหน้าที่เดินทางตรวจสอบเส้นทางถนนลูกรัง เขตบ้านผากะเจ้อ หมู่ 9 ต.พบพระ จุดที่พบรถยนต์กระบะซึ่งคนร้ายปล้นมาใช้ก่อเหตุ โดยมัดเจ้าของรถไว้กับต้นไม้ ภายในรถพบวัตถุพยานหลักฐานที่สำคัญหลายรายการ
นอกจากนี้บริเวณถนนทางการเกษตรท้ายหมู่บ้านยะพอ หมู่ 5 ต.วาเล่ย์ พบรถยนต์กระบะโตโยต้าสีขาว เจ้าหน้าที่คาดว่าเป็นรถยนต์คันที่ 2 ที่กลุ่มคนร้ายขับมารับทีมปล้นทั้ง 3 คน ออกจากจุดทิ้งรถยนต์กระบะ นำคนร้ายทั้ง 3 คน ไปส่งจุดริมลำห้วยวาเล่ย์ ท้ายหมู่บ้านยะพอ
จุดนี้เจ้าหน้าที่นำสุนัขดมกลิ่นทางยุทธวิธีของทหารช่วยค้นหาจนพบวัตถุพยานหลักฐาน ทั้งกระเป๋าและค้อนเหล็กของคนร้ายอย่างละ 1 ชิ้น ตรวจพบเสื้อผ้าเครื่องแต่งกาย รองเท้าบู๊ท หมวกกันน็อก ของคนร้ายทั้ง 3 คน ที่ถอดทิ้งไว้ในลำห้วยวาเล่ย์ กั้นพรมแดนไทย-เมียนมา ท้ายหมู่บ้านยะพอ คนร้ายหลบหนีพร้อมอาวุธครบมือ ปืนที่ใช้ก่อเหตุเป็นปืนลูกโม่ไม่ทราบขนาดหัวกระสุนที่แน่ชัดว่าเป็นขนาด .38 หรือ .357
ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่สันนิษฐานว่าคนร้าย หลังเกิดเหตุสามารถหลบหนีการจับกุมได้ แม้ว่าเจ้าหน้าที่หลายฝ่ายพยายามไล่ล่าและสกัดจับ โดยเฉพาะช่องทางธรรมชาติเส้นทางหลบหนี มีการสรุปว่าเหตุการณ์ปล้นทองเมื่อวันที่ 12 ก.พ.ที่ผ่านมา คนร้ายทั้ง 3 คน กวาดทองรวมน้ำหนัก 182 บาท
ที่แท้ดีกรีแชมป์ “นักแม่นปืน” เจ้าของร้านทองยิงสู้โจรบุกปล้น
หลังปรากฏภาพคลิปเหตุการณ์ขณะเจ้าของร้านใช้อาวุธปืนลูกซองยาวยิงต่อสู้กับคนร้าย ชาวเน็ตแห่หาข้อมูลอาวุธปืนลูกซองที่ใช้จนได้ข้อมูลว่าที่แท้นายพิสิฐ ระพิทย์พันธ์ เจ้าของร้านทอง เป็นนักกีฬายิงปืนระดับแชมป์ถ้วยรางวัลแม่นปืน โดยมีภาพถ้วยรางวัลหลายใบ พร้อมอาวุธปืนหลายกระบอก อยู่ภายในห้อง
นอกจากนั้นยังมีอาวุธปืนที่ใช้ยิงต่อสู้วางอยู่บนเก้าอี้หลังเคาน์เตอร์ภายในร้านทองด้วย โดยมีข้อมูลเป็นอาวุธปืนลูกซองยี่ห้อ Benelli (เบเนลลี่) รุ่นเอ็มโฟร์ เอวัน เอ็นทรี (M4 A1 Entry) สนนราคาปืนรุ่นนี้กว่า 100,000 บาท
ข้อมูลเบื้องต้นพบว่าเป็นอาวุธปืนลูกซองยาวกึ่งอัตโนมัติ ผลิตโดยบริษัทผู้ผลิตอาวุธปืน เบเนลลี่ อาร์มี ประเทศอิตาลี ลำกล้องขนาด 14 นิ้ว บรรจุกระสุน 5 นัด น้ำหนัก 3,670 กรัม ใช้กระสุนปืนลูกซองขนาด 12 นอกจากนี้เสื้อที่เจ้าของร้านใส่ในวันเกิดเหตุยังพบว่าเป็นเสื้อนักกีฬายิงปืน IPSC ยี่ห้อ CZ รุ่น Shadow ชัดเจนเลยว่ามีความชื่นชอบในการยิงปืนอย่างแน่นอน
เพจเฟซบุ๊ก “FLASHBLACKTactics” ซึ่งให้ความรู้เรื่องอาวุธปืน โพสต์ข้อความระบุว่า “มันต้องแบบนี้…ลูกซองนี่ คือปืนที่เหมาะสุดแล้วของปืนป้องกันบ้านและทรัพย์สิน”
ครูฝึกชื่นชมเจ้าของร้านทองฝีมือดี เผยฝึกยิงทั้งสามีและภรรยา
ขณะที่ พ.ต.กิตติ เกิดผล นายทหารกองกิจการพลเรือน มณฑลทหารบก (มทบ.) 310 นายสนามยิงปืน มทบ.310 ในฐานะครูฝึกสอนการใช้อาวุธปืนให้กับนายพิสิฐ เจ้าของร้านทองห้างทองเยาวราช อ.เมือง จ.ตาก เปิดเผยว่า นายพิสิฐ หรือชื่อเล่นคือ เค มาอบรมในการใช้อาวุธปืนเบื้องต้นกับสนามของมณฑลทหารบกที่ 310 พร้อมภรรยา เมื่อ 8 ปีผ่านมา เป็นผู้ที่ชื่นชอบในกีฬายิงปืน เคยร่วมแข่งขันในรายการแข่งขันที่ทางสนามจัดแข่งใน จ.ตาก และได้ถ้วยรางวัล
พ.ต.กิตติ กล่าวว่า ทุกวันนี้เมื่อมีเวลาว่าง นายพิสิฐมักจะเข้าไปสนามเพื่อซ้อมยิงปืน ส่วนตัวมีปืนหลายกระบอก หลายชนิด แต่ละครั้งที่ไปจะนัดครูฝึกไปแนะนำการใช้งานอยู่เสมอ เป็นคนมีจิตใจดี ใจเย็น สอนง่าย การใช้ปืนอยู่ในเกณฑ์ดีเลยทีเดียว
ขณะที่เพจเฟซบุ๊กของร้านทองเยาวราช จ.ตาก โพสต์ล่าสุดว่า หลังเกิดเหตุตอนนี้ทางร้านขอปิดปรับปรุง 2-3 วัน และขอบคุณทุกท่านที่เป็นห่วง
ทนายดังวิเคราะห์ “เจ้าของร้านทอง” เสี่ยงมีความผิดหรือไม่
หลังเกิดเหตุดังกล่าว มีการถกเถียงถึงประเด็นด้านข้อกฎหมายว่าการยิงปืนเข้าใส่กลุ่มคนร้ายของเจ้าของร้าน ถือเป็นการป้องกันตัวเกินกว่าเหตุหรือไม่
ทนายเกิดผล แก้วเกิด ทนายความชื่อดัง ออกมาให้ความเห็นผ่านทางเฟซบุ๊ก ระบุว่า คนร้ายหนีไปแล้ว ถือว่าภยันตรายอันละเมิดต่อกฎหมายสิ้นไปแล้ว เจ้าของร้านทองยิงคนร้ายตาย ตามกฎหมายจะต้องรับผิดหรือไม่ เพราะเหตุใด
การยิงคนร้ายที่กำลังหนี โดยคนร้ายไม่ได้ต่อสู้ อ้างป้องกันไม่ได้ เพราะเหตุภยันตรายอันละเมิดต่อกฎหมายได้ระงับสิ้นไปแล้ว แม้แต่อ้างป้องกันเกินกว่าเหตุก็ไม่อาจอ้างได้ พร้อมยกตัวอย่างคำพิพากษาศาลฎีกาเช่นกัน
ภายหลังจากข้อความดังกล่าวถูกเผยแพร่ออกไป ปรากฏว่ามีคนเข้ามาแสดงความเห็นกันอย่างกว้างขวาง ได้ส่งภาพเหตุการณ์คนร้ายออกไปอยู่นอกร้านทอง แต่ได้ชักปืนเล็งเป้าเข้ามาภายในร้านทองอีกครั้ง ทำให้ทนายเกิดผลโพสต์ข้อความอีกครั้งระบุว่า “…ถ้ามีภาพชัดขนาดนี้ว่าคนร้ายบางคนใช้อาวุธยิงต่อสู้เจ้าของร้านทอง ก็ถือว่าภยันตรายอันละเมิดต่อกฎหมายยังมีอยู่ เจ้าของร้านยิงป้องกันได้ ไม่ผิดกฎหมาย ไม่เป็นการป้องกันเกินกว่าเหตุ คนร้ายตายฟรี” เช่นเดียวกับทนายรัชพล ศิริสาคร โพสต์ข้อความหลังจากได้ดูภาพเหตุการณ์ .-สำนักข่าวไทย