สตง.คาดใช้เวลา 2 สัปดาห์ ตรวจสอบเอกสารลับซื้อเรือดำน้ำจีน

กองทัพเรือ 4 พ.ค.-  สตง.คาดใช้เวลาไม่เกิน 2 สัปดาห์ ตรวจสอบเอกสารลับโครงการจัดหาเรือดำน้ำจีน  ยืนยัน ไม่กลัวอิทธิพลการเมือง ระบุ ได้รับความร่วมมืออย่างดีจากกองทัพเรือ


นายพิศิษฐ์ ลีลาวชิโรภาส ผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) เปิดเผยภายหลังเข้าพบ พล.ร.อ.ณะ อารีนิจ ผู้บัญชาการทหารเรือ และคณะกรรมการบริหารโครงการจัดหาเรือดำน้ำ ที่กองบัญชาการกองทัพเรือ พระราชวังเดิม ว่า วันนี้ (4 พ.ค.)  สตง.มาตรวจสอบเอกสารที่เกี่ยวข้องกับโครงการฯ อาทิ การใช้งบประมาณการจัดซื้อดังกล่าว โดยจะตรวจสอบย้อนหลังไปถึงวันที่นำเรื่องเข้าคณะรัฐมนตรี (ครม.) คือ วันที่ 18 เม.ย.ที่ผ่านมา 

“เนื่องจากเป็นเอกสารลับ ไม่สามารถนำออกไปได้ คาดว่าใช้เวลา 1 สัปดาห์  ไม่เกิน 2 สัปดาห์ ในการตรวจสอบประเด็นต่างๆ ที่สังคมสงสัย โดยจะนำข้อร้องเรียนของนายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย และการแถลงข่าวอย่างเป็นทางการของกองทัพเรือ เมื่อวันที่ 1 พ.ค. ที่ผ่านมา มารวบรวม เพื่อพิจารณาเปรียบเทียบกับเอกสารที่กองทัพเรือส่งให้ ครม.” นายพิศิษฐ์ กล่าว


นายพิศิษฐ์ กล่าวว่า หากมีข้อสังเกตใดๆ หรือพบนัยที่สำคัญ ก็จะรีบแจ้งกองทัพเรือ เพื่อนำไปพิจารณาทบทวน และแจ้งสื่อมวลชนให้ทราบ ส่วนจะระงับยับยั้งหรือไม่ ขึ้นอยู่กับกองทัพเรือ  และไม่มีข้อห้ามว่า ระหว่างนี้ กองทัพเรือจะเซ็นสัญญากับจีนไม่ได้    

นายพิศิษย์ กล่าวว่า เจ้าหน้าที่ที่มาตรวจสอบเอกสารโครงการจัดหาเรือดำน้ำจีน เป็นผู้ตรวจราชการ เทียบเท่ารอง หรือ ผู้อำนวยการสำนัก จำนวน 5 คน และมีผู้ช่วยอีก 1-2 คน ซึ่งกองทัพเรือให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี โดย สตง.จะตรวจสอบต่อเนื่อง เพราะเป็นงบผูกพันหลายปี และอีกหนึ่งประเด็นสำคัญที่ต้องตรวจสอบคือ การทำสัญญาแบบรัฐบาลต่อรัฐบาล หรือ จีทูจี เพราะที่ผ่านมามีปัญหาเยอะ เช่น โครงการมันสำปะหลังและจำนำข้าว

“เป็นหน้าที่ของ สตง.อยู่แล้ว  ในการดูแลการใช้งบประมาณของแผ่นดิน  ยืนยันว่า การทำงานเป็นอิสระ ไม่เกรงกลัวอิทธิพลการเมือง ที่ผ่านมาก็เคยตรวจสอบหลายโครงการของกองทัพเรือ  เช่น การจัดหาเรือดำน้ำ มือ 2 จากเยอรมนี ที่ได้ให้ข้อสังเกตต่างๆ ซึ่งท้ายที่สุดโครงการก็ไม่ได้รับการอนุมัติ” นายพิศิษฐ์ กล่าว


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พล.ร.อ.ลือชัย รุดดิษฐ์ เสนาธิการทหารเรือ ในฐานะคณะกรรมการบริหารโครงการจัดหาเรือดำน้ำ ได้เดินทางไปยังสาธารณประชาชนจีนแล้ว เพื่อติดตามความคืบหน้าการจัดทำสัญญาซื้อเรือดำน้ำ S26T          .- สำนักข่าวไทย   

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สาวซิ่งรถหรูชนท้าย จยย. ทำแม่ลูกดับ 3 ศพ

แม่ขี่ จยย.ไปรับลูก 2 คน กลับจากเรียนพิเศษ ถูกสาวขับรถหรูซิ่งชนท้าย ร่างกระเด็นตกสะพานข้ามรางรถไฟ เสียชีวิตทั้ง 3 คน ส่วนผู้ก่อเหตุอุ้มแมว ทิ้งรถ หลบหนีไป

ปิดล้อมล่ามือปืนคลั่งสังหาร 3 ศพ

ตำรวจเร่งไล่ล่ามือปืนคลั่งก่อเหตุยิง 3 ศพ ในพื้นที่ จ.หนองบัวลำภู ล่าสุดปิดล้อมพื้นที่กว่า 1,000 ไร่ รอยต่อ จ.เลย หลังพบเบาะแสคนร้ายหนีไปซ่อนตัว ขณะที่ชนวนสังหารยังไม่แน่ชัด

ลูกชายมือปืนคลั่งยิง 3 ศพ พาครอบครัวหนีตาย พ่อโพสต์ขู่ฆ่าล้างครัว

ลูกชายมือปืนคลั่งยิงดับ 3 ศพ ต้องพาภรรยาและลูก รวมถึงพ่อตา-แม่ยาย หนีไปอยู่ที่หมู่บ้านแห่งหนึ่ง หลังพ่อโพสต์ข้อความขู่จะฆ่าล้างครัว เหตุจากปัญหาในครอบครัว

ชายคลั่งยิง3ศพ

ชายคลั่งยิงดับ 3 ศพ โผล่วัดที่ จ.เลย ขอข้าวกิน ก่อนหนีเข้าป่า

แม่ครัววัดภูคำเป้ ต.ผาสามยอด อ.เอราวัณ จ.เลย เผยพบชายคลั่งยิงดับ 3 ศพ เดินเข้ามาในวัดด้วยสภาพอิดโรย ขอข้าวกิน ลักษณะรีบกินเหมือนวิตกกังวล หลังกินเสร็จรีบเดินเข้าป่าหายไป ก่อนมาทราบภายหลังว่าเป็นผู้ก่อเหตุยิงคนเสียชีวิต

ข่าวแนะนำ

สงขลาประกาศเขตภัยพิบัติแล้วทุกอำเภอ เร่งช่วยน้ำท่วมวิกฤติ

ผู้ว่าฯ สงขลา ลงนามประกาศให้ทั้ง 16 อำเภอ เป็นเขตพื้นที่ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉินอุทกภัยและวาตภัย เพื่อเร่งรัดให้ความช่วยเหลือประชาชน บรรเทาความเดือดร้อน โดย อ.จะนะ เทพา นาทวี และสะบ้าย้อย ยังมีระดับน้ำท่วมเพิ่มสูงขึ้น

จ.ยะลา น้ำท่วมสูงสุดเป็นประวัติการณ์รอบหลายสิบปี

จ.ยะลา โดยเฉพาะ อ.เมือง ปีนี้น้ำท่วมสูงสุดเป็นประวัติการณ์ในรอบหลายสิบปี และวันนี้ (28 พ.ย.) น้ำยังขยายวงกว้างอีกหลายจุด ประชาชนได้รับความเดือดร้อนมากกว่า 120,000 คน ถนนถูกน้ำท่วมแล้ว 158 สาย ใน 8 อำเภอ 58 ตำบล

ศาลไม่ให้ประกันเมีย-ลูก “หมอบุญ” ชี้ความเสียหายสูง หวั่นหลบหนี

ศาลอาญาไม่ให้ประกันภรรยา-ลูก “หมอบุญ” ชี้การสอบสวนยังไม่เสร็จสิ้น ความเสียหายสูง เกรงหลบหนี ยุ่งเหยิงพยานหลักฐาน ส่วนปมปลอมลายมือชื่ออยู่ระหว่างตรวจพิสูจน์

มือยิง 3 ศพ ขอโทษ-สำนึกผิด อ้างบันดาลโทสะ

ตำรวจแถลงข่าวจับกุม “สามารถ” ผู้ต้องหายิง 3 ศพ ในพื้นที่ อ.ศรีบุญเรือง จ.หนองบัวลำภู หลังจากติดต่อมอบตัว พร้อมยอมรับผิด ขอโทษญาติผู้เสียชีวิต อ้างบันดาลโทสะจึงก่อเหตุ และไม่มีอาการคลั่งตามที่เป็นข่าว