ทำเนียบรัฐบาล 7 ธ.ค.-รองโฆษกรัฐบาลระบุ รอบ 3 ปี กสศ.ช่วยนักเรียนยากจนกว่า 3 ล้านคน/ครั้ง ด้วยงบฯ 2.18 หมื่นล้านบาท เผยอัตราการเข้าเรียนสูงขึ้น ติดตามกลุ่มเสี่ยงหลุดออกจากระบบการศึกษา
น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า รัฐบาลภายใต้การนำของพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ดำเนินนโยบายลดความเหลื่อมล้ำด้านต่าง ๆ รวมถึงการดูแลนักเรียน นักศึกษาผู้ขาดโอกาสแบบพุ่งเป้าผ่านกองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา (กสศ.) ทั้งนี้ คณะกรรมการประเมินผลการดำเนินงานของกสศ.รายงานผลสัมฤทธิ์การดำเนินงานว่า รอบ 3 ปี ( พ.ค. 61-พ.ค. 65) ว่า กศส. ได้ใช้งบประมาณจากทุกแหล่งเงินจำนวน 21,886.43 ล้านบาท ช่วยเหลือกลุ่มเป้าหมายซึ่งเป็นนักเรียนนักศึกษาทั้งในและนอกระบบให้ได้รับประโยชน์รวมกว่า 3 ล้านคน/ครั้ง(นับตามครั้งที่มีการจ่ายเงินอุดหนุนให้แก่เด็ก 1 คน มากกว่า 1 ครั้งต่อปี) ประกอบด้วย 1) เด็กและเยาวชนในระบบการศึกษา 3.02 ล้านคน/ครั้ง แยกเป็น นักเรียนทุนเสมอภาค 2.97 ล้านคน/ครั้ง นักเรียนทุนระดับมัธยมศึกษาและอาชีวศึกษา 8,013 คน และเด็กปฐมวัยในศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก 45,028 คน 2) เด็ก เยาวชน และแรงงานนอกระบบการศึกษา 44,829 คน 3)ครู 26,648 คน
น.ส.ไตรศุลี กล่าวว่า กสศ.ให้ความช่วยเหลือนักเรียน นักศึกษาที่ขาดโอกาสโดยเปลี่ยนแปลงการทำงานเชิงระบบ เช่น เปลี่ยนแปลงระบบการคัดกรองความยากจน โดยสร้างแนวทางการค้นหาเด็กนักเรียนยากจนร่วมกับครูในพื้นที่ตามหลักการความเป็นธรรมและโปร่งใส มอบทุนการศึกษาให้แก่นักเรียนโดยตรงโดยพิจารณาจากความจำเป็นและความต้องการของนักเรียนเป็นรายบุคคล จากระบบเดิมที่เป็นการให้เงินงบประมาณกับโรงเรียนและจ่ายเงินรายหัวตามจำนวนนักเรียนเพื่อให้โรงเรียนไปจัดการศึกษาเพียงอย่างเดียว
“การดำเนินงานดังกล่าวได้แสดงผลสัมฤทธิ์ผ่านตัวชี้วัดหลายประการ อาทิ นักเรียนกลุ่มเสี่ยงที่จะหลุดออกจากระบบการศึกษาที่มีอัตราการเข้าเรียนน้อยกว่าร้อยละ 85 ได้ลดลงจาก 18,345 คน ในภาคเรียน 1/2563 เหลือ 1,024 คน ในภาคเรียน 2/2563 และเด็กยากจนและยากจนพิเศษ 11,783 คน มีโอกาสในการเข้าถึงการศึกษาในระดับที่สูงขึ้น โดยสามารถเข้าศึกษาระดับอุดมศึกษาผ่านระบบการคัดเลือกบุคคลเข้าศึกษาต่อในระดับมหาวิทยาลัย (TCAS64) ในสถาบันอุดมศึกษา 69 แห่งทั่วประเทศ” น.ส.ไตรศุลี กล่าว
น.ส.ไตรศุลี กล่าวว่า กสศ.ได้พัฒนาระบบฐานข้อมูลขนาดใหญ่ “iSEE” โดยการเชื่อมโยงฐานข้อมูลขนาดใหญ่ของภาครัฐ 6 กระทรวง ประกอบด้วย กระทรวงการคลัง กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ กระทรวงมหาดไทย กระทรวงแรงงาน กระทรวงศึกษาธิการ และกระทรวงสาธารณสุข ทำให้สามารถช่วยเหลือผู้ด้อยโอกาสได้ตรงตามเป้าหมาย มีระบบการติดตามนักเรียนทุนรายบุคคลผ่านเลขประจำตัวประชาชน 13 หลัก เพื่อให้ความช่วยเหลือเป็นรายบุคคลและใช้ติดตามรายที่หลุดออกจากระบบการศึกษาตั้งแต่ปฐมวัยถึงอุดมศึกษา และมีการระดมความร่วมมือกับภาคเอกชนและภาคประชาสังคม เพื่อให้มีส่วนสนับสนุน กสศ. ทั้งในรูปแบบการระดมทุนและความร่วมมือกว่า 200 องค์กร.-สำนักข่าวไทย