ร้อง ยธ.รับคดีค้ามนุษย์แม่ฮ่องสอนเป็นคดีพิเศษ

กรุงเทพฯ 2 พ.ค.-เครือข่ายองค์กรเด็กและสตรี เข้ายื่นหนังสือปลัด ยธ.เรียกร้องให้รับคดีค้ามนุษย์แม่ฮ่องสอนเป็นคดีพิเศษของดีเอสไอ 


นางทิชา ณ นคร ผู้เชี่ยวชาญด้านเด็กและเยาวชน นำกลุ่มองค์กรที่ทำงานด้านเด็ก เยาวชน สตรี และครอบครัว อาทิมูลนิธิหญิงชายก้าวไกล ,มูลนิธิส่งเสริมความเสมอภาคทางสังคม , มูลนิธิพิทักษ์สตรี ,สมาคมส่งเสริมสถานภาพสตรีฯ รวม30คน เข้ายื่นจดหมายเปิดผนึกต่อนาย ชาญเชาวน์  ไชยานุกิจ ปลัดกระทรวงยุติธรรม(ยธ.)เพื่อขอให้กรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือดีเอสไอ รับคดีค้าประเวณีเด็ก ที่ จ.แม่ฮ่องสอน ไว้เป็นคดีพิเศษ   เนื่องจากมีบรรดาข้าราชการ  ตำรวจในพื้นที่ และผู้ว่าราชการจังหวัด พัวพัน 


นางทิชา กล่าวว่า ล่าสุดคดีดังกล่าวอยู่ระหว่างการตรวจสอบจากคณะ กรรมการกระทรวงมหาดไทยโดยจะทราบผลภายใน 30 วันแต่กลับมีกระแสข่าวจากสื่อที่ระบุตรงกันว่าผลสอบยืนยันผู้ว่าฯแม่ฮ่องสอนไม่มีส่วนเกี่ยวข้องและไม่พบการกระทำความผิด ซึ่งขัดต่อคำให้การของผู้เสียหาย ดังนั้น องค์กรเด็กและสตรีจึงไม่อาจยอมรับผลสอบนี้ เพราะเชื่อได้ว่าไม่มีความเป็นกลางเพียงพอ จึงอยากมาเรียกร้องกระทรวงยุติธรรมเกี่ยวกับคดีนี้ ใน 3 ประเด็น 

คือ1.ขอให้มีการสืบพยานไว้ก่อนมีการฟ้องร้องตามพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมวิธีพิจารณาความอาญา(ฉบับที่ 32)ไม่ต้องรอให้มีการฟ้องร้องแล้วจึงสืบพยานเพราะจะสร้างความกดดันให้กับพยานซึ่งเป็นเด็กและเป็นผู้ที่ปราศจากอิทธิพล 


2.ขอให้มีมาตรการคุ้มครองพยานที่มีประสิทธิภาพ มีความปลอดภัยและปราศจากการกดดันใดๆ และ 3.ขอให้ ดีเอสไอ รับคดีนี้เป็นคดีพิเศษ  

ทั้งนี้ เครือข่ายที่มาวันนี้มองว่าคดีนี้มีความสำคัญในการกู้ภาพลักษณ์ของไทย เพราะที่ผ่านมาต่างประเทศต่างมองว่าไทยมีปัญหาในเรื่องนี้มายาว นานต่อเนื่องและไม่สามารถแก้ไขให้ได้อย่างประสิทธิภาพเลยสักครั้ง ซึ่งครั้งนี้องค์ประกอบในการทำผิดมีครบถ้วน จึงเป็นโอกาสดีที่จะทำให้เกิดความเป็นธรรม แม้จะมีคำสั่งย้ายผู้ว่าฯแม่ฮ่องสอน ออกจากพื้นที่ก็ไม่ได้หมายความว่าอิทธิพล หรืออำนาจแฝงจะหมดไปจากพื้นที่ จึงอยากขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งย้ายข้าราชการ หรือผู้มีอำนาจในพื้นที่ออกไปเพื่อให้การทำงานมีประสิทธิภาพ นำตัวคนผิดมาลงโทษ  เพื่อเป็นการสร้างบรรทัดฐานที่ดีของสังคมต่อเรื่องความโปร่งใส ความยุติธรรม และให้ความเป็นธรรมต่อเด็กที่เป็นผู้เสียหาย  ซึ่งเครือข่ายจะติดตามเรื่องนี้อย่างใกล้ชิดเพื่อเร่งทำความจริงให้ปรากฏ  

ด้านนายชาญเชาวน์ กล่าวว่า ในการรับคดีนี้เป็นคดีพิเศษนั้น ทุกอย่างมีขั้นตอนในการทำงานอยู่แล้ว เพียงแต่ตอนนี้ทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เดินหน้าทำคดีอย่างเต็มที่และมีความก้าวหน้าไปมาก รวมทั้งกระทรวงมหาดไทยก็เดินหน้าสอบข้าราชการในพื้นที่เพื่อเอาผิดอยู่แล้ว คงจะยังตอบไม่ได้ว่าจะสามารถนำเข้าสู่การรับเป็นคดีพิเศษได้หรือไม่ ต้องให้เป็นหน้าที่ของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทำงานให้เต็มที่ก่อน  ส่วนการคุ้มครองพยานได้รับรายงานมาแล้วว่า ขณะนี้พยานทุกปากได้รับการคุ้มครองจากกรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพแล้วและการสืบพยานนั้นขอให้เป็นดุลพินิจของเจ้ทพนักงาน ซึ่งดีเอสไปก็ได้ทำงานคู่ขนานกับตำรวจในการสืบพยานแล้ว ยืนยันคดีนี้กระทรวงฯให้ความสำคัญ และจะให้ความเป็นธรรมกับผู้เสียหายให้มากที่สุด.-สำนักข่าวไทย 

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สำนักสงฆ์หูตาทิพย์

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์”

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์” พระอ้างใช้สอนวิปัสสนากรรมฐาน เบื้องต้นอายัดไว้พิสูจน์ดีเอ็นเอ พร้อมเอาผิดหัวหน้าสำนักสงฆ์ ฐานนำศพเก็บไว้ในสถานที่ที่ไม่ใช่สุสานและฌาปนสถาน

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

รัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มยูเครน

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย แถลงยืนยันว่ารัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มภาคตะวันออกยูเครนเมื่อวานนี้ ตอบโต้ที่ยูเครนใช้ขีปนาวุธที่ได้รับมอบจากสหรัฐและอังกฤษ

ข่าวแนะนำ

โค้งสุดท้าย ศึกสองนารีชิงเก้าอี้ นายก อบจ.นครฯ

เหลือไม่ถึง 2 วันแล้ว ที่ชาวนครศรีธรรมราชจะได้ออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งนายก อบจ.นครฯ ศึกนี้เป็นการสู้กันเองของพรรคร่วมรัฐบาล ฝ่ายหนึ่งต้องการรักษาฐานที่มั่นไว้ให้ได้ อีกฝ่ายต้องการเจาะฐานให้แตก เพื่อหวังครองที่นั่งการเมืองระดับชาติในสมัยหน้า

ร้อนระอุโค้งสุดท้าย ศึกชิงเก้าอี้ นายก อบจ.อุดรธานี

การเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี ครั้งนี้ดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครจาก 2 พรรคใหญ่ลงชิงชัย ต่างเร่งเครื่องเต็มที่ในโค้งสุดท้าย การเลือกตั้งจะเกิดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 24 พ.ย.นี้ ใครจะเป็นผู้คว้าชัยชนะและสร้างการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญให้จังหวัดอุดรธานี ไปติดตามจากรายงาน

ความเห็นนักวิชาการ คดีทักษิณ

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติไม่รับคำร้อง นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีและพรรคเพื่อไทย ร่วมกันกระทำการอันเป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครอง ขณะที่นักวิชาการชี้ว่าไม่ได้พลิกไปจากความคาดหมาย และผลจากคดีนี้ ไม่ทำให้เกิดจุดเปลี่ยนทางการเมือง แต่ก็ยังมีจุดเสี่ยงที่ต้องระวัง