fbpx

ปรับนักท่องเที่ยวห้าวเบิ้ลเครื่องยนต์ใส่ช้างเขาใหญ่

เขาใหญ่ 7 พ.ย. – กรณีนักท่องเที่ยวทำพฤติกรรมเสี่ยงอันตราย เบิ้ลเครื่องรถกระบะพ่นควันดำใส่ช้างเขาใหญ่ แถมจอดรถถ่ายรูป ประจันหน้ากับช้าง ล่าสุดถูกลงโทษปรับแล้ว


จากคลิปนักท่องเที่ยวทำพฤติกรรมไม่เหมาะสม ขับรถกระบะตรงเข้าไปหาช้างเขาใหญ่ พร้อมกับเบิ้ลเครื่องยนต์เสียงดังยั่วยุ จนช้างที่อยู่กลางถนนวิ่งเข้าหา และเมื่อช้างมาหยุดประชิดรถ กลับไม่มีท่าทีหวาดกลัว คนขับจอดรถแล้วยังเปิดประตู ยกโทรศัพท์มือถือถ่ายภาพช้างที่กำลังโกรธอย่างไม่รู้ร้อนรู้หนาว

ต่อมาเพจเฟซบุ๊ก “อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่” เปิดเผยว่า ตามที่ปรากฏคลิปวิดีโอในสื่อออนไลน์ เมื่อวันที่ 5 พ.ย.65 มีการเผยแพร่คลิปผ่านทาง TikTok ชื่อเจ้าของช่อง (@เอ็กซ์ ครยก) พร้อมบรรยายคลิปว่า “พฤติกรรมแย่ๆ ของนักท่องเที่ยวที่ฝ่าฝืนคำเตือนของเจ้าหน้าที่ หวิดโดนช้างป่าเขาใหญ่เหยียบ”


ในคลิปวิดีโอแสดงถึงพฤติกรรมของนักท่องเที่ยวที่ท้าทายช้างป่า จอดรถถ่ายภาพขณะที่ช้างป่าอยู่ในระยะอันตราย พฤติกรรมนี้อาจทำให้เกิดความเสียหายต่อทรัพย์สิน และอันตรายต่อชีวิต ทั้งนี้ ยังส่งผลต่อพฤติกรรมของช้างป่าที่อาจเปลี่ยนไป”

กรณีดังกล่าว นายชัยยา ห้วยหงษ์ทอง หัวหน้าอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ฝ่ายอนุรักษ์ทรัพยากร ตรวจสอบและติดตามนักท่องเที่ยวในคลิปดังกล่าว เนื่องจากเป็นการกระทำผิด พ.ร.บ.อุทยานแห่งชาติ พ.ศ. 2562 มาตรา 20 บุคคลซึ่งเข้าไปในเขตอุทยานแห่งชาติ ต้องปฏิบัติตามคำสั่งของพนักงานเจ้าหน้าที่ ซึ่งได้สั่งให้ปฏิบัติตามระเบียบที่อธิบดีกำหนด

ทั้งนี้ ช่วงบ่ายวานนี้ (6 พ.ย.65) นักท่องเที่ยวผู้ก่อเหตุได้เดินทางมารับทราบความผิด อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ได้ตักเตือนและเปรียบเทียบปรับตามระเบียบเป็นที่เรียบร้อยแล้ว


ข้อปฏิบัติเมื่อเจอช้างป่า

  1. อย่าใช้แตรรถหรือส่งเสียงดังรบกวนช้างหรือไล่ช้าง
  2. หยุดรถให้ห่างจากช้างอย่างน้อย 30 เมตร หากช้างเดินเข้าหาให้เคลื่อนรถหนีโดยการถอยหลัง
  3. ห้ามใช้แฟลชถ่ายรูป
  4. หากพบช้างในเวลากลางคืน ให้เปิดไฟรถไว้เสมอ
  5. ให้ติดเครื่องรถยนต์ไว้เสมอ
  6. ไม่ควรจอดรถและลงไปถ่ายรูป
  7. ไม่ควรจอดรถดูช้าง
  8. หากรถคันหน้าถอย รถคันถัดไปก็ให้ถอยรถอย่างมีสติ
  9. หากตกอยู่ในวงล้อมของช้าง ออกทางที่ช้างน้อยที่สุด. – สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

พบศพโบลท์หญิงวัย 47 ในป่าหญ้าริมทาง คาดถูกฆ่าชิงรถ

โบลท์หญิงวัย 47 ปี หายตัวจากบ้านพักย่านดินแดง 9 วัน ล่าสุดพบเป็นศพในป่าหญ้าริมถนนสายนครชัยศรี-ห้วยพลู อ.นครชัยศรี จ.นครปฐม ส่วนรถยนต์โผล่ที่ จ.ภูเก็ต คาดถูกคนร้ายฆ่าชิงรถ

pagers on display

ทำไมยังมีการใช้ “เพจเจอร์” ในยุคสมาร์ทโฟน

ลอนดอน 19 ก.ย.- เพจเจอร์ หรือวิทยุติดตามตัวเป็นอุปกรณ์การสื่อสารยอดนิยมในช่วงคริสต์ทศวรรษ 1990 ที่ต้องหลีกทางให้แก่โทรศัพท์เคลื่อนที่ เนื่องจากเป็นการสื่อสารทางเดียว แต่ยังคงมีการใช้งานในบางกลุ่ม รวมถึงกลุ่มฮิซบอลเลาะห์ที่เพจเจอร์ระเบิดพร้อมกันหลายพันเครื่องทั่วเลบานอนเมื่อวันที่ 17 กันยายน แหล่งข่าวเผยว่า ฮิซบอลเลาะห์ใช้เพจเจอร์ เนื่องจากเป็นช่องทางสื่อสารเทคโนโลยีต่ำ ส่งข้อความผ่านสัญญาณวิทยุ จึงตรวจจับสัญญาณและตำแหน่งได้ยากกว่าโทรศัพท์เคลื่อนที่ที่ส่งสัญญาณไปยังเสาส่งที่อยู่ใกล้ที่สุด อีกทั้งไม่มีเทคโนโลยีระบุพิกัดบนพื้นโลกอย่างจีพีเอสด้วย อดีตเจ้าหน้าที่สำนักงานสอบสวนกลางหรือเอฟบีไอ (FBI) ของสหรัฐเผยว่า ในอดีตแก๊งอาชญากรรมโดยเฉพาะแก๊งค้ายาเสพติดในสหรัฐเคยนิยมใช้เพจเจอร์ แต่ขณะนี้หันมาใช้โทรศัพท์เคลื่อนที่แบบเติมเงินราคาถูกที่สามารถเปลี่ยนเครื่องและหมายเลขได้อย่างง่ายดาย ทำให้เจ้าหน้าที่ติดตามแกะรอยได้ยาก อย่างไรก็ดี  ศัลยแพทย์โรงพยาบาลใหญ่แห่งหนึ่งในสหราชอาณาจักรเผยว่า เพจเจอร์เป็นอุปกรณ์ที่แพทย์และพยาบาลสังกัดสำนักงานบริการสุขภาพแห่งชาติหรือเอ็นเอชเอส (NHS) ต้องพกติดตัวอยู่เสมอ เพื่อรับแจ้งข่าวในการปฏิบัติหน้าที่ เป็นช่องทางที่ถูกที่สุดและมีประสิทธิภาพมากที่สุดในการแจ้งข่าวทางเดียวกับคนจำนวนมาก เพจเจอร์หลายรุ่นสามารถส่งเสียงไซเรนและมีข้อความเสียงแจ้งให้ทีมแพทย์ไปรวมตัวที่ห้องฉุกเฉินได้ทันที ข้อมูลล่าสุดในปี 2562 ระบุว่า เอ็นเอชเอสใช้เพจเจอร์ประมาณ 130,000 เครื่อง คิดเป็นสัดส่วนมากกว่า 1 ใน 10 ของที่ใช้ทั่วโลก คอกนิทีฟมาร์เก็ตรีเสิร์ช  (Cognitive Market Research) ซึ่งเป็นบริษัทวิจัยคาดการณ์ว่า ตลาดเพจเจอร์จะเติบโตร้อยละ 5.9 ต่อปี จากปี 2566 ถึงปี 2573 […]

ข่าวแนะนำ

ร่างศึกษา พ.ร.บ.นิรโทษฯ เข้าสภา 26 ก.ย.นี้

“นิกร” เผยร่างศึกษา พ.ร.บ.นิรโทษฯ เข้าสภา 26 ก.ย.นี้ ชง ครม. เป็นเจ้าภาพ ยกร่าง-เคาะปม ม.112 จะรวมหรือไม่ หวั่นคําวินิจฉัยศาลฟันก้าวไกล พ่นพิษ

คนร้ายฆ่าสาวโบลท์ เครียด ซัดมีอีก 2 คนยังไม่โดนจับ

เครียด! “ไอ้แม็ก” มือฆ่าชิงทรัพย์สาวโบลท์ ใช้หัวโขกลูกกรง สน.มีนบุรี จนตำรวจต้องเข้าระงับเหตุ ซัดมีอีก 2 คนยังไม่โดนจับ ล่าสุดคุมตัวไปฝากขังแล้ว