คลังเชิญชวนร่วมงานมหกรรมร่วมใจแก้หนี้สัญจร

กรุงเทพฯ 3 พ.ย. – คลังเชิญชวนประชาชนร่วมงาน “มหกรรมร่วมใจแก้หนี้สัญจร” แบงก์รัฐนำมาตรการลดหนี้ ตัดเงินต้น ลดดอกเบี้ย พร้อมเติมทุน มาช่วยเหลือรายย่อย


นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง พร้อมด้วยผู้บริหารแบงก์รัฐ ร่วมแถลงเชิญชวนประชาชนที่มีปัญหาหนี้ มาร่วมงานมหกรรมร่วมใจแก้หนี้สัญจร จัดขึ้นระหว่างวันที่ 4-6 พฤศจิกายน 2565 ณ เมืองทองธานี โดย ธ.ออมสิน เป็นเจ้าภาพ หลังจากรัฐบาลกำหนดให้ปี 2565 เป็นปีแห่งการแก้ปัญหาหนี้ และพบว่ายอดหนี้ NPL ของระบบร้อยละ 3.74 เป็นหนี้เสียของธนาคารพาณิชย์ร้อยละ 3 หรือประมาณ 5.2 แสนล้านบาท หนี้เสียของแบงก์รัฐร้อยละ 5 มูลหนี้ 3 แสนล้านบาท

นายอาคม กล่าวเพิ่มเติมว่า กรณีเฟดปรับเพิ่มดอกเบี้ยร้อยละ 0.75 สั่งการให้แบงก์รัฐช่วยดูแล ตรึงดอกเบี้ยให้นานที่สุด เพื่อลดภาระให้กับประชาชน มองว่า สหรัฐยังต้องเพิ่มดอกเบี้ยอีก 1-2 ครั้ง เพื่อแก้ปัญหาเงินเฟ้อ แบงก์รัฐจึงต้องร่วมมือกัน กระทรวงการคลังจึงต้องการให้ลูกหนี้เข้ามาร่วมงานมหกรรมร่วมใจแก้หนี้ เพื่อปรับแผนชำระหนี้ การตัดเงินต้น ลดดอกเบี้ย เพราะมีโปรโมชันมากมายในการช่วยลดภาระหนี้ให้กับรายย่อย


ธ.ออมสิน ใช้แนวทางแก้ปัญหาหนี้ ทั้งการพักเงินต้น ตัดดอกเบี้ย ลดเงินต้นบางส่วน การเติมทุนใหม่ 2 หมื่นบาท/ราย เพื่อใช้เป็นทุนหมุนเวียน เปิดรับฝากเงินระยะยาว 10 ปี ดอกเบี้ยเฉลี่ยร้อยละ 3.45 การพัฒนาอาชีพเสริม เพื่อให้รายย่อยฟื้นตัว โดยผู้ที่สนใจสามารถลงทะเบียนได้ที่ https://ln15.gsb.or.th/WEB-DEBT/ เพื่อแจ้งความประสงค์มาติดต่อขอแก้ไขหนี้ พร้อมรับสิทธิพิเศษอื่นๆ ได้ตลอดงานทั้ง 3 วัน

ธนาคารอาคารสงเคราะห์ ได้นำ 3 มาตรการช่วยเหลือลูกค้าธนาคาร ได้แก่ มาตรการ 22 [M22] : สำหรับลูกค้ารายย่อยสถานะ NPL หรือ ลูกค้ารายย่อยสถานะ NPL ที่อยู่ระหว่างการใช้มาตรการ การปรับโครงสร้างหนี้ที่กู้เงินมาแล้วไม่น้อยกว่า 1 ปี ให้ผ่อนชำระเงินงวดต่ำพร้อมลดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้พิเศษ ระยะเวลา 2 ปี เดือนที่ 1-10 ผ่อนชำระเพียงงวดละ 1,000 บาท ดอกเบี้ย 0% ต่อปี (ตัดชำระเงินต้นทั้งหมด) สินเชื่อบ้านอัตราดอกเบี้ยต่ำปีแรก 2.75% ต่อปี สลากออมทรัพย์ ธอส. ลุ้นรางวัลสูงสุดถึง 2 ล้านบาท และบ้านมือสองคุณภาพดีกว่า 1,000 รายการ ราคาขายต่ำสุดเพียง 45,000 บาท พร้อมรับสิทธิผ่อนดาวน์ 0% นานสูงสุดถึง 36 เดือน

SME D Bank ได้ออก 3 โปรโมชัน ให้บริการใน “มหกรรมร่วมใจแก้หนี้ มีหนี้ต้องแก้ไข เริ่มต้นใหม่อย่างยั่งยืน” บรรเทาปัญหาหนี้สินให้กับผู้ประกอบการเอสเอ็มอี ไม่ว่าจะเป็น พักเงินต้น ลดค่างวด หรือปิดบัญชี รับสิทธิลดดอกเบี้ยค้างสูงสุด 100% พร้อมเติมทุนใหม่ หนุนธุรกิจเดินหน้าเต็มกำลัง


บสย. จัดหนักโค้งสุดท้าย 11,000 ล้านบาท เปิดตัวนวัตกรรม เติมทุน หนุนค้ำ “โครงการค้ำประกันสินเชื่อรายสถาบันการเงินระยะที่ 7” ดึงระบบ “Credit Scoring” เพิ่มประสิทธิภาพค้ำประกัน เสริมสภาพคล่อง SMEs ที่ต้องการเงินทุน แต่ขาดหลักประกัน สูงสุดต่อราย 100 ล้านบาท พร้อมแคมเปญพิเศษ “บสย. ออก LG ฟรีค่าดำเนินการค้ำประกัน” พ.ย. 2565 – ม.ค. 2566 ในงาน “มหกรรมร่วมใจแก้หนี้สัญจร” – สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สำนักสงฆ์หูตาทิพย์

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์”

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์” พระอ้างใช้สอนวิปัสสนากรรมฐาน เบื้องต้นอายัดไว้พิสูจน์ดีเอ็นเอ พร้อมเอาผิดหัวหน้าสำนักสงฆ์ ฐานนำศพเก็บไว้ในสถานที่ที่ไม่ใช่สุสานและฌาปนสถาน

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

รัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มยูเครน

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย แถลงยืนยันว่ารัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มภาคตะวันออกยูเครนเมื่อวานนี้ ตอบโต้ที่ยูเครนใช้ขีปนาวุธที่ได้รับมอบจากสหรัฐและอังกฤษ

ข่าวแนะนำ

โค้งสุดท้าย ศึกสองนารีชิงเก้าอี้ นายก อบจ.นครฯ

เหลือไม่ถึง 2 วันแล้ว ที่ชาวนครศรีธรรมราชจะได้ออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งนายก อบจ.นครฯ ศึกนี้เป็นการสู้กันเองของพรรคร่วมรัฐบาล ฝ่ายหนึ่งต้องการรักษาฐานที่มั่นไว้ให้ได้ อีกฝ่ายต้องการเจาะฐานให้แตก เพื่อหวังครองที่นั่งการเมืองระดับชาติในสมัยหน้า

ร้อนระอุโค้งสุดท้าย ศึกชิงเก้าอี้ นายก อบจ.อุดรธานี

การเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี ครั้งนี้ดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครจาก 2 พรรคใหญ่ลงชิงชัย ต่างเร่งเครื่องเต็มที่ในโค้งสุดท้าย การเลือกตั้งจะเกิดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 24 พ.ย.นี้ ใครจะเป็นผู้คว้าชัยชนะและสร้างการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญให้จังหวัดอุดรธานี ไปติดตามจากรายงาน

ความเห็นนักวิชาการ คดีทักษิณ

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติไม่รับคำร้อง นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีและพรรคเพื่อไทย ร่วมกันกระทำการอันเป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครอง ขณะที่นักวิชาการชี้ว่าไม่ได้พลิกไปจากความคาดหมาย และผลจากคดีนี้ ไม่ทำให้เกิดจุดเปลี่ยนทางการเมือง แต่ก็ยังมีจุดเสี่ยงที่ต้องระวัง