สหรัฐ 28 เม.ย.- เกาหลีใต้ต้องตกใจสุดขีดเมื่อจู่ๆ ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ เรียกเก็บเงิน ถึง 1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 35,000 ล้านบาท สำหรับค่าติดตั้งระบบป้องกันขีปนาวุธทาดในเกาหลีใต้ เพื่อสกัดกั้นขีปนาวุธจากเกาหลีเหนือ
ทรัมป์ให้สัมภาษณ์รอยเตอรส์ระบุว่า เวลานี้การติดตั้งระบบป้องกันภัยขีปนาวุธท้าดในเกาหลีใต้ ได้เริ่มต้นขึ้นแล้ว ซึ่งขีดความสามารถในการสกัดขีปนาวุธ ในระดับความสูงขนาดนี้ต้องมีค่าใช้จ่าย ถึง 1,000 ล้าน ดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งเกาหลีใต้ควรต้องเป็นคนควักกระเป๋าไม่ใช่สหรัฐ และเขาได้แจ้งเรื่องนี้ให้เกาหลีใต้ทราบแล้ว สำหรับบริษัทที่รับทรัพย์ไปเต็มๆ งานนี้ก็คือบริษัทล็อคฮีด มาร์ติน ของสหรัฐนั่นเอง ขณะเดียวกันชาวเกาหลีใต้มีปฏิกิริยาต่อท่าทีของนายทรัมป์ บางคนบอกว่าถ้าเกาหลีใต้ต้องเป็นคนจ่ายเงิน 1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ เขาก็ต้องการให้สหรัฐ ถอนระบบป้องกันขีปนาวุธทาดออกไปจากเกาหลีใต้ ขณะที่รัฐบาลเกาหลีใต้ ก็ยืนยันว่าสหรัฐต้องเป็นคนออกค่าใช้จ่ายนี้
โดยเกาหลีใต้จะออกค่าใช้จ่ายเฉพาะการซื้อพื้นที่สนามกอล์ฟ เพื่อเป็นสถานที่ติดตั้งเท่านั้น นอกจากนี้ชาวเกาหลีใต้ยังวิจารณ์ทรัมป์ ที่เสนอขอเปิดการเจรจาข้อตกลงการค้าเสรี หรือ FTA กับเกาหลีใต้ใหม่ หรือไม่ก็อาจยกเลิกข้อตกลงทั้งหมด โดยให้เหตุผลว่าข้อตกลงเดิมทำให้สหรัฐเสียเปรียบ ขณะเดียวกันสหรัฐและจีนยังคงร่วมมือกันกดดันไม่ให้เกาหลีเหนือทดลองนิวเคลียร์รอบใหม่ โดยเร็กซ์ ทิลเลอร์สัน รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐกล่าวว่า จีนได้แจ้งให้สหรัฐทราบว่า จีนได้มีคำเตือนไปยังเกาหลีเหนือแล้วว่าหากทดลองนิวเคลียร์อีก จีนจะคว่ำบาตรทางเศรษฐกิจต่อเกาหลีเหนือโดยทันที นับเป็นท่าทีแข็งกร้าวที่สุดที่จีนมีต่อเกาหลีเหนือ.-สำนักข่าวไทย