รัฐเดินหน้า แก้ปัญหาบุกรุกที่ดินป่าสงวนแห่งชาติ

จ.เพชรบูรณ์ 28 เม.ย.-กรมป่าไม้ ตั้งคณะทำงานตรวจสอบเอกสารสิทธิ์ที่ดินในพื้นที่เขาค้อ พร้อมสำรวจการใช้ประโยชน์ที่ดินของ รอส.ในเขตพื้นที่กองทัพภาคที่3 และนอกเขต ให้แล้วเสร็จภายใน 90วัน


นายชลธิศ สุรัสวดี อธิบดีกรมป่าไม้ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม พร้อมด้วย  พ.อ.ถนัดพล โกศัยเสวี รองผู้บัญชาการกองพลทหารม้าที่ 1 (รอง ผบ.พล.ม.1) นายพิบูลย์ หัตถกิจโกศล ผู้ว่าราชการจังหวัดเพชรบูรณ์ ตลอดจนตัวแทนกองทัพภาคที่ 3และราษฎรอาสาสมัคร (รอส.)ร่วมกันประชุมหาแนวทางแก้ปัญหาการบุกรุกยึดถือ ครอบครองที่ดินป่าสงวนแห่งชาติ ป่าเขาปางก่อ ป่าวังชมภูและเขาโปลกหล่น ในพื้นที่ อ.เขาค้อ จ.เพชรบูรณ์ ใช้เวลาประชุมเกือบ 2ชั่วโมง โดยไม่อนุญาตให้สื่อมวลชนเข้าร่วมสังเกตการณ์


นายชลธิศ กล่าวภายหลังการประชุม ว่าจากการตรวจสอบการใช้พื้นที่ใน   อ.เขาค้อ พบมีนายทุน นักธุรกิจ ข้าราชการ อดีตนักการเมือง บุกรุกพื้นที่ รอส.สร้างบ้านพักตากอากาศ ร้านอาหาร โรงแรม ที่ไม่ถูกต้องตามกฎหมาย ด้วยการซื้อขายสิทธิ์ในที่ดินทำกินที่จัดสรรให้กับ รอส. หรือเช่าช่วงบุกรุกพื้นที่ดังกล่าว มีจำนวน  694  ราย อยู่ในเขตพื้นที่ที่กองทัพภาคที่ 3 ขอใช้ประโยชน์มากถึง 631 ราย มีการตรวจยึดดำเนินคดีแล้ว 51 ราย และอยู่นอกพื้นที่กองทัพภาคที่ 3 แต่อยู่ในความรับผิดชอบของกรมป่าไม้ มีจำนวน 63 ราย ดำเนินคดีไปแล้ว 36 ราย และอยู่ระหว่างการตรวจสอบรายละเอียดอีก 27 ราย 


หลังจากนี้ภายใน  90 วัน ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต้องสำรวจการใช้ประโยชน์ของ รอส.ในเขตพื้นที่กองทัพภาคที่ 3 และนอกเขต พร้อม

กับตั้งคณะทำงานตรวจสอบเอกสิทธิควบคู่กับการทำงานของชุดพยัคฆ์ไพร หากพบสิ่งปลูกสร้างบุกรุกพื้นที่กรมป่าไม้ จะดำเนินการติดป้ายประกาศตามขั้นตอน หากไม่มาแสดงตนภายใน 60วัน จะเข้าสู่กระบวนการรื้อถอนตามกฎหมาย 

อธิบดีกรมป่าไม้ ยังกล่าวถึงกรณีนายกสมาคมต่อต้านสภาวะโลกร้อน โพสต์ ภาพถ่ายทางอากาศ อ.เขาค้อ ผ่านเฟสบุ๊กส่วนตัว พร้อมระบุข้อความพาดพิงกลุ่มนายทุนก่อสร้างรีสอร์ท บนที่ดินของ รอส. ไม่ถูกต้องตามกฎหมาย และกล่าวหารัฐเลือกปฏิบัติ 2มาตรฐาน โดยให้รัฐใช้ ม.44 เช่นเดียวกับภูทับเบิก ว่า การใช้ ม.44 ต้องขึ้นอยู่กับสถานการณ์และลักษณะพื้นที่  ซึ่งแต่ละแห่งมีความแตกต่างกัน อย่างกรณีพื้นที่ภูทับเบิกเป็นพื้นที่ป่าไม้ตามพ.ร.บ.ป่าไม้ พ.ศ. 2484 เมื่อพบการกระทำผิดไม่สามารถรื้อถอนได้ ต้องนำเรื่องสู่กระบวนการฟ้องทางแพ่งเพื่อขับไล่  ประกอบกับผู้กระทำผิดไม่ปฏิบัติตามคำสั่งศาลที่ให้จำเลยและบริวารออกจากพื้นที่ ส่งผลกระทบต่อระบบนิเวศน์ ความเป็นอยู่ของราษฎรทั้งทางตรงและทางอ้อม จึงมีความจำเป็นต้องกำหนดมาตรการเร่งด่วนในการระงับ ปราบปราม ป้องกันการกระทำดังกล่าว 

ขณะที่พื้นที่เขาค้อ ซึ่งกองทัพภาคที่ 3 ขอใช้ประโยชน์อยู่ในเขตป่าสงวนแห่งชาติ  เมื่อพบการกระทำผิดเจ้าหน้าที่สามารถใช้อำนาจดำเนินคดี และรื้อถอนภายใต้กรอบของกฎหมาย พ.ร.บ.ป่าสงวนแห่งชาติ  พ.ศ.2507 ดังนั้นการป้องกันและปราบปรามผู้กระทำผิดตามกฎหมายป่าไม้จะดำเนินการภายใต้กรอบของกฎหมายที่กำหนดไว้ จึงไม่ใช่การปฏิบัติสองมาตรฐานแต่อย่างใด ซึ่งขณะนี้กองทัพภาค3 และจังหวัดเพชรบูรณ์ ร่วมกันดำเนินการตรวจสอบการครอบครองที่ดินพื้นที่โครงการพัฒนาลุ่มน้ำเข็ก อ.เขาค้อ จ.เพชรบูรณ์ทั้งหมด หากพบว่ามีรายใดไม่ปฏิบัติตามกฎระเบียบของกองทัพภาค3 จะดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายอย่างเด็ดขาด  

สำหรับพื้นที่ดังกล่าว ครอบคลุม 4 ตำบล คือ ต.เขาค้อ ต.สะเดาะพง ต.ริมสีม่วง และ ต.หนองแม่นา ใน อ.เขาค้อ จ.เพชรบูรณ์ ซึ่งกองทัพภาคที่ 3 ได้ขออนุญาตใช้ประโยชน์จากกรมป่าไม้ตั้งแต่ปี 2520 – 2533 จำนวน 5 ครั้ง 8 แปลง เนื้อที่รวม 126,368 ไร่ เพื่อจัดสรรให้ราษฎรอาสาสมัคร(รอส.) อยู่อาศัยครอบครัวละ 2งาน ทำกินเพื่อการเกษตรครอบครัวละ 20ไร่ ตามโครงการพัฒนาลุ่มน้ำเข็ก ต่อมาปี 2555 ทหารบก จ.เพชรบูรณ์ ได้ทำหนังสือถึงกรมป่าไม้เพื่อส่งมอบพื้นที่คืนบางแปลง กรมป่าไม้จึงขอให้จัดส่งรายละเอียดข้อมูลเกี่ยวกับที่ดินที่ได้จัดสรรให้หน่วยงานราชการ และ รอส. ว่า มีแปลงที่ปฏิบัติถูกต้องตามเงื่อนไข และแปลงที่ไม่ปฏิบัติตามเงื่อนไขทั้งหมดกี่แปลง พร้อมแผนที่ที่เกี่ยวข้อง .-สำนักข่าวไทย 

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

จำคุกเอกราช

ศาลสั่งจำคุก 5 ปี 93 เดือน “เอกราช” สส.ภูมิใจไทย

ศาลจังหวัดขอนแก่น พิพากษาจำคุก 5 ปี 93 เดือน นายเอกราช ช่างเหลา สส.ขอนแก่น เขต 4 พรรคภูมิใจไทย พร้อมสั่งชดใช้เงินกว่า 405 ล้านบาท คดียักยอกเงินสหกรณ์ออมทรัพย์ครูขอนแก่น 1,275 ล้านบาท

ลูกนายกเบี้ยว

“อนุทิน” ลั่นต้องดำเนินคดี “ลูกชายนายกเบี้ยว”

“อนุทิน” ลั่นไม่มีใครใหญ่กว่าผม ต้องดำเนินคดี “ลูกชายนายกเบี้ยว” ฮึ่มเป็นลูกใครทำผิดกฎหมายก็โดน ถามใหญ่กว่าผมไหม ถ้าไม่ใช่ก็โดนหมด

สลด แม่คลอดลูกเสร็จ ไปเล่นสงกรานต์ต่อ ปล่อยเด็กตาย

สลด สาววัย 27 ปี คลอดลูกทิ้งไว้ข้างกระถางต้นไม้ แล้วไปเล่นน้ำสงกรานต์ต่อ นานกว่า 1 ชม. มีคนแจ้งกู้ภัย พยายามปั๊มหัวใจ แต่ช่วยเด็กไม่ทัน

ผู้ป่วยแจ้งกู้ภัยเข้ามาช่วย แต่บอกบ้านเลขที่ผิด สุดท้ายเสียชีวิต

สลด หญิงวัย 54 ปี หายใจไม่ออกโทรแจ้งกู้ภัยให้เข้ามาช่วยพาส่งโรงพยาบาล แต่ปรากฏว่าแจ้งบ้านเลขที่ผิด เจ้าหน้าที่หลงทาง สุดท้ายไปไม่ทัน เสียชีวิตอยู่ข้างแม่ที่เป็นผู้ป่วยติดเตียง พบทั้งบ้านมีกองขยะสูงเท่าหลังคา

ข่าวแนะนำ

“นายกเบี้ยว” พาลูกเข้ารับทราบข้อกล่าวหา-ตร.ยัน “พีช” เจตนาทำผิดอาญา

กรณี “พีช” ลูกนายกเบี้ยว ขับรถหรูปาดหน้าชนกระบะลุงป้า ตำรวจ สภ.ลำลูกกา ยืนยันพฤติการณ์ไม่ใช่แค่ขับรถประมาท แต่เจตนาทำผิดคดีอาญา และโดนแจ้งข้อหาขับรถไม่มีใบอนุญาต เนื่องจากใบขับขี่หมดอายุตั้งแต่ปี 64 ขณะที่ล่าสุด “นายกเบี้ยว” พาลูกชายเข้ารับทราบข้อกล่าวหาแล้ว

“ชัชชาติ” รับหลักฐานบางส่วนเสียหาย อาจตรวจสอบคุณภาพยาก

“ชัชชาติ” นำทีม กทม. พบ นายกฯ รายงานคืบหน้ากู้ซากอาคาร สตง. ถล่ม ย้ำ รัฐ-เอกชน ให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี ไม่ขาดเหลือด้านใด เผย นายกฯ ติดตามเรื่องนี้ต่อเนื่อง พร้อมให้ความร่วมมือตำรวจเก็บหลักฐาน แนะ ไปหน้างานประสานเจ้าหน้าที่เก็บหลักฐานได้เลย ยอมรับ หลักฐานบางส่วนพังเสียหาย อาจตรวจสอบคุณภาพยาก

ปิดเขาล้อมจับมือปืนลำดับ 93 หนีคดี 10 ปี

ปฏิบัติการบุกขึ้นเขาปิดล้อม จับกุมมือปืนคนสำคัญ ลำดับ 93 ค่าหัว 1 แสนบาท ก่อเหตุอุกอาจหนีคดีมา 10 ปี แต่สุดท้ายไม่รอดมือตำรวจ