ศาลปกครอง 7 พ.ย. – สมาคมต่อต้านสภาวะโลกร้อนนำชาวบ้านซอยมหาดเล็กหลวง 2 ยื่นฟ้องศาลปกครอง เพิกถอนใบอนุญาตก่อสร้างอาคารโครงการ มหาดเล็กหลวง 2 เรสซิเดนเซส ของสำนักงานพระคลังข้างที่ พร้อมขอคุ้มครองชั่วคราว ระงับการก่อสร้างจนกว่าคดีถึงที่สุด ชี้ ทำลายพื้นที่สีเขียว กทม.อนุมัติสุ่มเสี่ยงผิดกฎหมาย ทั้งที่ผลกระทบสิ่งแวดล้อมผ่านแบบน่าสงสัย
นายศรีสุวรรณ จรรยา นายกสมาคมต่อต้านสภาวะโลกร้อน นำ ชาวบ้านที่พักอาศัยในซอยมหาดเล็กหลวง 2 และซอยชิดลม เขตปทุมวัน กรุงเทพมหานคร เข้ายื่นฟ้องผู้อำนวยการเขตปทุมวัน ผู้อำนวยการสำนักการโยธา กรุงเทพมหานคร และผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เป็นผู้ถูกฟ้องที่ 1-3 ต่อศาลปกครองกลาง ขอให้ศาลมีคำพิพากษาให้ผู้ถูกฟ้องคดีเพิกถอนใบอนุญาตการก่อสร้างอาคารโครงการ มหาดเล็กหลวง 2 เรสซิเดนเซส ของสำนักงานพระคลังข้างที่ และ/หรือ บริษัท ไทยพัฒนาโรงงานอุตสาหกรรม จำกัด มหาชน
รวมทั้ง สั่งให้ผู้ถูกฟ้องคดี หรือหัวหน้าหน่วยงานทางปกครอง หรือเจ้าหน้าที่ของรัฐที่เกี่ยวข้อง ปฏิบัติตามอำนาจหน้าที่ที่กฎหมายที่เกี่ยวข้องกับกรณีดังกล่าวกำหนด และระหว่างการพิจารณาคดีขอให้ศาลกำหนดมาตรการคุ้มครองชั่วคราว สั่งระงับการก่อสร้างโครงการไว้ จนกว่าศาลจะมีคำพิพากษาถึงที่สุด
นายศรีสุวรรณ กล่าวว่า ชาวบ้านในซอยหลังสวนได้รับความเดือดร้อน จากกรณีที่สำนักงานพระคลังข้างที่ได้ให้บริษัท ไทยพัฒนาโรงงานอุตสาหกรรม จำกัด (มหาชน) เช่าใช้พื้นที่รกร้างว่างเปล่า เดิมเนื้อที่ 1 ไร่ 3 งาน 28 ตารางวา ภายในซอยมหาดเล็กหลวง 2 ถนนราชดำริ แขวงลุมพีนี เขตปทุมวัน ซึ่งเป็นเหมือนสวนสาธารณะ หรือของคนในพื้นที่ ในการก่อสร้างอาคารสูง 41 ชั้น ชั้นใต้ดิน 1 ชั้นจำนวน 1 หลัง เป็นอาคารขนาดใหญ่พิเศษ พื้นที่ 44,618 ตารางเมตร เพื่อใช้อยู่อาศัยรวม 145 ห้อง ภายใต้ชื่อโครงการ มหาดเล็กหลวง 2 เรสซิเดนเซส ภายใต้สัญญาเช่าใช้ประโยชน์มีกำหนด 30 ปี โดยสำนักงานพระคลังข้างที่เป็นผู้ยื่นขออนุญาตในการก่อสร้างและได้รับอนุมัติจากผู้ถูกฟ้องคดีทั้ง 3
นายศรีสุวรรณ กล่าวว่า ชาวบ้านได้พยายามคัดค้าน และร้องเรียนไปยัง ผอ.เขตมาตลอด เนื่องจากเห็นว่าในบริเวณดังกล่าวมีอาคารสูงอยู่หนาแน่น จึงควรมีพื้นที่สีเขียวไว้บ้าง นอกจากนี้ เดิมบริษัทไทยพัฒนาโรงงานอุตสาหกรรมได้ยื่นรายงานวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อม ก็ไม่ผ่าน แต่มาผ่านในภายในหลัง เมื่อมีการไปขอใช้พื้นที่ของบริษัทอื่นมาเป็นพื้นที่สาธารณะ เชื่อว่าเป็นกระทำขัดต่อกระเบียบ กฎหมายที่เกี่ยวข้อง และชาวบ้านได้มีการยื่นฟ้องต่อศาลปกครองไว้แล้วเป็นคดีหนึ่ง
นายศรีสุวรรณ กล่าวว่า พื้นที่ดังกล่าวเดิมเป็นพื้นที่รกร้างว่างเปล่า มีสภาพทั่วไปเป็นธรรมชาติมาก มีต้นไม้ใหญ่ปกคลุม เป็นแหล่งออกซิเจน พักอาศัยหากินของนกในเมือง มีสัตว์ป่าสงวน และคุ้มครองตามกฎหมาย ทั้งนกคัดคู นกเค้า นกขมิ้นท้ายทอยดำ กระรอก กระแต ที่ถือเป็นสัตว์ป่าคุ้มครองตามกฎกระทรวง และ พ.ร.บ.สงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า 2535 เมื่อมีการก่อสร้างดังกล่าว ซึ่งเวลานี้เริ่มตอกเสาเข็มแล้ว ก็มีการตัดทำลายต้นไม้น้อยใหญ่ โดยที่ผู้ถูกฟ้องคดีทั้ง 3 ไม่เข้าไปควบคุม หรือตรวจสอบให้มีการดำเนินการให้เป็นไปตามกฎหมาย .- สำนักข่าวไทย