“ภรรยาพี่ศรี” เตรียมเข้าพบพนักงานสอบสวน บ่ายนี้ (15 ก.พ.)

กรุงเทพฯ 15 ก.พ. – ภรรยาของ “ศรีสุวรรณ จรรยา” ยืนยันจะเข้าพบพนักงานสอบสวน เพื่อรับทราบข้อกล่าวหาในวันนี้ (15 ก.พ.) เวลา 13.00 น.


บรรยากาศที่กองบังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง หลังพนักงานสอบสวนนัดหมายภรรยาของนายศรีสุวรรณ จรรยา มารับทราบข้อกล่าวหาในวันนี้ หลังพบหลักฐานว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับขบวนการตบทรัพย์อธิบดีกรมการข้าว ซึ่งตั้งแต่ช่วงเช้ามีสื่อมวลชนมารอติดตามทำข่าว แต่ยังไม่พบความเคลื่อนไหวใดๆ

ขณะที่ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รอง ผบช.ก. ระบุว่า กรณีที่พนักงานสอบสวนออกหมายเรียกภรรยาของนายศรีสุวรรณ มารับทราบข้อหานั้น ล่าสุดภรรยาของนายศรีสุวรรณ ยืนยันว่าจะเข้ามาพบพนักงานสอบสวนเพื่อรับทราบข้อกล่าวหาในเวลา 13.00 น. โดยจะมีการสอบปากคำประเด็นที่มีส่วนเกี่ยวข้องหรือเป็นตัวการร่วม ซึ่งตำรวจมีหลักฐานเป็นแชทไลน์ วิดีโอ คลิปเสียง และอื่นๆ ครบทุกอย่าง


ส่วนผู้ต้องหากลุ่มแรกที่มีกำหนดนัดส่งคำให้การแก่พนักงานสอบสวนในวันที่ 16 ก.พ. 67 ยังไม่รู้ว่าผู้ต้องหาจะมาเองหรือส่งตัวแทนมายื่นหนังสือ แต่ตอนนี้ยืนยันว่ายังไม่ได้มีการขอเลื่อนส่งคำให้การ

ส่วนวันพรุ่งนี้ (16 ก.พ.) นายศรีสุวรรณ มีนัดยื่นเอกสารแก้ข้อกล่าวหา อาจให้ทนายความเข้ามายื่น หรืออาจจะเป็นเจ้าตัวที่เข้ามายื่นเอง ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ยังต้องเรียกตัวนายศรีสุวรรณมาพบเพื่อให้ปากคำ เพราะยังมีบางประเด็นที่ต้องสอบเพิ่มเติม

ทั้งนี้ จากการพิจารณาพยานหลักฐานในคดีนี้อาจมีผู้ต้องหาที่เกี่ยวข้อง 5 คน คือ นายศรีสุวรรณ, นายยศวริศ, น.ส.พิมณัฏฐา, นายเอกลักษณ์ และนางณพัชญ์ปภา ภรรยานายศรีสุวรรณ เพราะจากการเรียกสอบนายโอวาท ผู้อำนวยการกองพัฒนาผลิตภัณฑ์ข้าว กรมการข้าว รวมถึงตรวจสอบแชทพูดคุยยังไม่พบว่าจะมีการให้ข้อมูลใดๆ จึงยังไม่เกี่ยวข้องตามที่นายอัจฉริยะ ส่งข้อมูลมาให้ว่าเป็นคนนำข้อมูลในกรมการข้าวมอบให้นายเอกลักษณ์ หนึ่งในผู้ต้องหา แต่ส่วนตัวยังเชื่อว่าคดีนี้มีผู้ชักใยอยู่เบื้องหลัง แต่พยานหลักฐานยังไม่เพียงพอที่จะเอาผิดได้.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

พ่อเลี้ยงล่วงละเมิด

“ต้นอ้อ” แฉพิรุธพ่อเลี้ยงปมคลิปเสียง-DNA ส่วนเด็กอาการดีขึ้น

“ต้นอ้อ” แฉพิรุธพ่อเลี้ยงปมคลิปเสียง-DNA เชื่อ แม่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง แค่เชื่อผัวเพราะลูกเคยโกหก เผย ตอนแม่รู้ความจริงว่าใครทำลูกถึงกับร้องไห้โฮโผกอดลูก ส่วนเด็ก 10 ขวบอาการดีขึ้น แต่ต้องรักษาตัวอีกหลายสัปดาห์

งานแต่งธนกร

วิวาห์ชื่นมื่น “ธนกร-แคทลีน” คนดังการเมือง-นักธุรกิจ ร่วมยินดีครึกครื้น

งานวิวาห์ “ธนกร-แคทลีน” ชื่นมื่น คนดังการเมือง-นักธุรกิจ ร่วมยินดีครึกครื้น ด้าน “ทักษิณ” ไม่ได้มาร่วม แต่ส่งของขวัญแสดงความยินดี

ทรัมป์สั่งปลด

“ทรัมป์” สั่งปลดประธานคณะเสนาธิการร่วมตามแผนปรับปรุงกลาโหม

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐ ออกคำสั่งในวันศุกร์ตามเวลาท้องถิ่นปลด พลอากาศเอก ซี. คิว. บราวน์ จูเนียร์ (Charles Quinton Brown Jr.) เป็นประธานคณะเสนาธิการทหารร่วมของสหรัฐออกจากตำแหน่ง

ข่าวแนะนำ

“ทักษิณ” ถึงนราธิวาส กลับมาในรอบ 19 ปี

“ทักษิณ” ถึงนราธิวาส บอกคนนราธิวาสน่ารักเสมอ ต้อนรับอบอุ่นกับการกลับมาในรอบ 19 ปี ก่อนเดินทางต่อตามกำหนดเดิม แม้มีระเบิดที่สนามบิน

บึ้มรถกระบะ สนามบินนราธิวาส ก่อน “ทักษิณ” ลงพื้นที่

บึ้มรถกระบะจอดใกล้กับหอบังคับการบิน ท่าอากาศยานนราธิวาส ก่อน “ทักษิณ” ลงพื้นที่สนามบินบ้านทอน ในอีก 50 นาที ไม่มีรายงานผู้ได้รับบาดเจ็บ

น้ำป่าหลากท่วม อ.ไทรโยค กลางดึก

ระทึกกลางดึก น้ำป่าหลากท่วมบ้านเรือนประชาชน อ.ไทรโยค จ.กาญจนบุรี ถนนหลายเส้นถูกน้ำป่าพัดขาด จนท.เร่งอพยพประชาชนด้วยความยากลำบาก

Pope at Vatican on Feb 5, 2025 says have a strong cold

โป๊ปฟรันซิสพระอาการวิกฤต

วาติกัน 23 ก.พ.- พระอาการประชวรของสมเด็จพระสันตะปาปาฟรันซิส พระประมุขแห่งพระศาสนจักรโรมันคาทอลิก ทรุดลงอยู่ในขั้นวิกฤตในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา สำนักวาติกันออกแถลงการณ์ฉบับล่าสุดเมื่อวันเสาร์ว่า พระอาการประชวรของสมเด็จพระสันตะปาปาทรุดลงในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา และระบุเป็นครั้งแรกว่า พระอาการของพระองค์อยู่ในขั้นวิกฤตจากโรคระบบทางเดินหายใจคล้ายกับโรคหอบหืดในช่วงเช้าวันเสาร์ ทำให้ขณะนี้พระองค์จำเป็นต้องได้รับออกซิเจนเสริมและการถ่ายเลือด โดยรวมแล้วถือว่า พระอาการอยู่ในขั้นวิกฤตและยังไม่พ้นขีดอันตราย อย่างไรก็ดี พระองค์ยังทรงตื่นตัว และประทับนั่งบนเก้าอี้ตลอดวัน แม้ว่าทรงประชวรมากกว่าวันก่อนหน้านี้ก็ตาม พระสันตะปาปาฟรันซิส พระชนมายุ 88 พรรษา ทรงเข้ารับการถวายการรักษาที่โรงพยาบาลเจเมลลี ในกรุงโรม ตั้งแต่วันที่ 14 กุมภาพันธ์ หลังทรงมีพระอาการหายใจติดขัดต่อเนื่องหลายวัน และตรวจพบว่าปอดอักเสบทั้งสองข้าง ทรงร้องขอให้เปิดเผยรายละเอียดเกี่ยวกับพระอาการของพระองค์อย่างตรงไปตรงมา สำนักวาติกันจึงออกแถลงการณ์ชี้แจงความคืบหน้าอาการประชวรของพระองค์ต่อเนื่องทุกวัน แต่แถลงการณ์ฉบับล่าสุดถือเป็นครั้งแรกที่มีเนื้อหาระบุชัดเจนว่า อาการประชวรของพระองค์อยู่ในขั้นวิกฤต ขณะที่แพทย์คาดการณ์ว่า พระองค์จะต้องประทับอยู่ในโรงพยาบาลอย่างน้อยตลอดสัปดาห์หน้า ภารกิจต่อสาธารณชนทั้งหมดของพระสันตะปาปาจึงถูกยกเลิกตลอดสัปดาห์ ทั้งพิธีมิสซาประจำวันอาทิตย์ รวมถึงการสวดภาวนาแองเจลัส (Angelus) ตามปกติทุกสัปดาห์ด้วย.-815(814).-สำนักข่าวไทย