“กรณ์” เห็นด้วยปลดล็อกต่างชาติซื้อที่ดินกระตุ้น ศก.

กทม. 28 ต.ค. – “กรณ์” เห็นด้วยปลดล็อกต่างชาติซื้อที่ดินและที่อยู่อาศัยได้ ชี้กระตุ้นเศรษฐกิจ ทดลอง 5 ปี ไม่ดีเลิก แต่ต้องออกมาตรการภาษีอย่างรัดกุม ชี้แจงประชาชนให้คลายความกังวล 


นายกรณ์ จาติกวณิช หัวหน้าพรรคชาติพัฒนากล้า อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวถึงกรณี ครม.อนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวงมหาดไทยปลดล็อกต่างชาติให้สามารถซื้อบ้าน-ถือครองที่ดินไม่เกิน 1 ไร่ แลกการลงทุนในไทยขั้นต่ำ 40 ล้านบาท  ว่า โดยรวมมองว่าเป็นนโยบายที่น่าสนใจ เพราะจะเป็นจุดดึงดูดทุนจากต่างประเทศเข้าในประเทศไทย และตัวคนต่างชาติเองก็จะจับจ่ายใช้สอยมากขึ้น ดังนั้นมุมทางเศรษฐกิจ ในระยะสั้นก็จะมีเงินเข้ามาจากการซื้อที่ดิน ที่อยู่อาศัย และในระยะยาวกว่านั้นก็มาจากการจับจ่ายใช้สอย รวมทั้งการใช้ทักษะ ความรู้ความสามารถของเขา มาสร้างงงาน สร้างโอกาสในบ้านเราด้วย

นายกรณ์ ระบุว่า เป็นธรรมดาที่หลายคนอาจจะกังวล ในแง่ของผลข้างเคียง ว่าต่างชาติจะมาแย่งซื้อที่ซื้อบ้านจากคนไทยหรือไม่ ซึ่งก็เป็นสาเหตุที่ ครม.ได้วางกรอบกติกา เพื่อที่จะจำกัดผลค้างเคียงที่อาจจะเกิดขึ้นได้ เช่น การที่ระบุว่า ต่างชาติที่สนใจจะเข้ามาซื้อที่ดิน หรือที่อยู่อาศัย ต้องมีเงินลงทุนผูกพันในประเทศไทยอย่างน้อย 3 ปี เป็นวงเงิน 40 ล้าน ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่าตัวมูลค่าสินค้า บ้านและที่ดินในราคาค่อนข้างสูงจะเป็นคนละตลาดกับการซื้อขายบ้านทั่วไป  นอกจากนี้ กฎหมายยังจำกัดพื้นที่ในการซื้อที่ดิน ที่อยู่อาศัยเฉพาะในเขตเทศบาลเท่านั้น ทั้งนี้เพื่อป้องกันไม่ให้แย่งซื้อกับชาวบ้าน เกษตรกรที่อยู่นอกเขตเทศบาล และการที่รัฐบาลจำกัดเวลาการทบทวนใน 5 ปี ก็ชี้ให้เห็นหลักคิดในเชิงแซนด์บ๊อกซ์ คือ ทำทดลองดู เรื่องนี้พูดกันมานานมาก ถกเถียงกันมาไม่มีข้อสรุป รัฐบาลเลยให้ลองดู  5 ปี มีข้อเสียมากกว่าข้อดี ก็สามารถยกเลิกกฎหมายได้ตามความเหมาะสม โดยส่วนตัวมองว่าเป็นแนวทางที่ดี แต่ก็ต้องคอยดู จะเป็นอย่างไร


“เราต้องอย่าลืมว่า ในบริบทสังคมไทย เราได้ก้าวเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุ ประชากรเริ่มมีแนวโน้มลดลง เพราะฉะนั้นการเปิดโอกาสให้ต่างชาติ ที่มีเงิน มีทักษะ เข้ามาทำงาน หรือตั้งรกราก เปิดกิจการในประเทศไทย หรือ Work from Thailand มากขึ้น จึงเป็นยุทธศาสตร์สำคัญที่มีคนพูดถึงกันอยู่แล้ว และในบริบททั้งหมดที่เกิดขึ้น จึงเป็นจังหวะที่เหมาะสมที่จะทดลองนโยบายนี้”  นายกรณ์ กล่าว

นายกรณ์ กล่าวอีกว่า เมื่อรัฐบาลออกมาตรการมาแล้ว ในช่วงการพิจารณารายละเอียด ก็ควรฟังความกังวลของประชาชน และวิธีที่จะสร้างความเป็นธรรม ซึ่งวิธีการที่จะคลี่คลายความกังวล คือ ปรับโครงสร้างภาษีให้มีความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย ไม่ใช่ฝั่งของเจ้าของที่ดินเพียงฝ่ายเดียว ซึ่งภาษีจากการซื้อขายที่ดิน ที่อยู่อาศัย ซึ่งเป็นธุรกิจเฉพาะ ก็จะมีค่าอากรแสตมป์ 3% ตรงนี้แล้วแต่ว่าจะเป็นภาระของผู้ซื้อหรือไม่ แต่โดยทั่วไปแล้วภาษีควรต้องจ่ายโดยผู้ที่มีกำไร คือผู้ที่มีทรัพย์สิน และขายทรัพย์สินให้กับต่างชาติ ที่ได้โอกาสจากการทำกำไร เรื่องราวเหล่านั้นต้องพิจารณาด้วย เพราะมาตรการภาษีโดยรวม มันมีเม็ดเงินกลับเข้ามาในส่วนของรัฐบาล เพื่อที่จะเอาไปสร้างประโยชน์ให้ประชาชนในวงกว้างได้มาก .- สำนักข่าวไทย 


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สำนักสงฆ์หูตาทิพย์

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์”

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์” พระอ้างใช้สอนวิปัสสนากรรมฐาน เบื้องต้นอายัดไว้พิสูจน์ดีเอ็นเอ พร้อมเอาผิดหัวหน้าสำนักสงฆ์ ฐานนำศพเก็บไว้ในสถานที่ที่ไม่ใช่สุสานและฌาปนสถาน

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

รัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มยูเครน

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย แถลงยืนยันว่ารัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มภาคตะวันออกยูเครนเมื่อวานนี้ ตอบโต้ที่ยูเครนใช้ขีปนาวุธที่ได้รับมอบจากสหรัฐและอังกฤษ

ข่าวแนะนำ

โค้งสุดท้าย ศึกสองนารีชิงเก้าอี้ นายก อบจ.นครฯ

เหลือไม่ถึง 2 วันแล้ว ที่ชาวนครศรีธรรมราชจะได้ออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งนายก อบจ.นครฯ ศึกนี้เป็นการสู้กันเองของพรรคร่วมรัฐบาล ฝ่ายหนึ่งต้องการรักษาฐานที่มั่นไว้ให้ได้ อีกฝ่ายต้องการเจาะฐานให้แตก เพื่อหวังครองที่นั่งการเมืองระดับชาติในสมัยหน้า

ร้อนระอุโค้งสุดท้าย ศึกชิงเก้าอี้ นายก อบจ.อุดรธานี

การเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี ครั้งนี้ดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครจาก 2 พรรคใหญ่ลงชิงชัย ต่างเร่งเครื่องเต็มที่ในโค้งสุดท้าย การเลือกตั้งจะเกิดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 24 พ.ย.นี้ ใครจะเป็นผู้คว้าชัยชนะและสร้างการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญให้จังหวัดอุดรธานี ไปติดตามจากรายงาน

ความเห็นนักวิชาการ คดีทักษิณ

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติไม่รับคำร้อง นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีและพรรคเพื่อไทย ร่วมกันกระทำการอันเป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครอง ขณะที่นักวิชาการชี้ว่าไม่ได้พลิกไปจากความคาดหมาย และผลจากคดีนี้ ไม่ทำให้เกิดจุดเปลี่ยนทางการเมือง แต่ก็ยังมีจุดเสี่ยงที่ต้องระวัง